"อัซซูรี่" อิตาลี เปิดบ้านไล่ต้อน "โคนม" เดนมาร์ก สบายเกือก 3-1 ขณะที่ "ฝอยทอง" โปรตุเกส ต้องออกแรงเหนื่อยตามยิงแบ่งแต้ม ไอร์แลนด์เหนือ จบที่ผล 1-1 ในศึกฟุตบอลโลก 2014 รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่ม บี. และกลุ่ม เอฟ. ตามลำดับ เมื่อคืนวันอังคารที่ 16 ต.ค. ที่ผ่านมา

ฟุตบอลโลก 2014

รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่ม บี.

วันอังคารที่ 16 ตุลาคม 2555

อิตาลี 3   -   1 เดนมาร์ก

สนาม : ซาน ซิโร่

        เกมสำคัญของสองทีมใหญ่ในกลุ่มบี อิตาลี ฉะ เดนมาร์ก เจ้าถิ่นของ เชซาเร่ ปรันเดลลี่ มีข่าวร้ายที่ จานลุยจิ บุฟฟ่อน นายทวารกัปตันทีม ฟิตไม่ทัน มอร์แกน เด ซานช์ติส ต้องเฝ้าเสาแทน เกมรุกใช้ มาริโอ บาโลเตลลี่ ยืนหน้าคู่ ปาโบล ดาเนี่ยล ออสวัลโด้

        ด้าน มอร์เท่น โอลเซ่น เปลี่ยนทีมแค่เล็กน้อย แกนหลักยังคงเดิม จากหลังมาหน้ามี ดาเนี่ยล แอ็กเกอร์, คริสเตียน เอริคเซ่น และ นิคลาส เบนท์เนอร์

        เปิดเกมมา 3 นาที เดนมาร์ก ได้ลุ้นก่อน ลาร์ส ยาค็อบเซ่น ขึ้นเกมทางขวาแล้วหักเข้ามาใน นิคลาส เบนท์เนอร์ ได้เกร็งคอโขกเน้นๆ แต่ระยะไกลไปหน่อย บอลออกนอกกรอบ

        โอกาสครั้งถัดมายังเป็นของทีมเยือนจากความผิดพลาดของ มอร์แกน เด ซานซ์ติส ที่โดนแข้งเดนส์วิ่งเข้าบีบจนเตะไปติดบล็อก แต่ยังพ้นอันตรายได้อยู่

        เดนมาร์ก เกมดีกว่าชัดเจนในช่วงต้น นาทีที่ 12 คริสเตียน เอริคเซ่น สบช่องตะบันเต็มเหนี่ยว มอร์แกน เด ซานซ์ติส ต้องผวาปัดพ้นคานไป

        จากนั้น อิตาลี เกือบขึ้นนำดื้อๆ ในนาทีที่ 19 เคลาดิโอ มาร์คิซิโอ ได้ยิงจาก 20 หลา บอลพุ่งเข้าหากรอบโดยที่ สเตฟาน อันเดอร์เซ่น หมดสิทธิ์แล้ว ทว่า ซิมอน เคียร์ ยังโหม่งสกัดจากเส้นได้สุดหวิว

        อิตาลี ได้เสียวอีกหนใน 3 นาทีให้หลัง บอลเปิดจากขวาแล้ว สเตฟาน อันเดอร์เซ่น ออกมาตัดพลาด บอลมาถึง ปาโบล ออสวัลโด้ ได้โหม่งจาก 7 หลา แต่คุมบอลไม่ได้ ออกข้างเสาไป

        เกมเริ่มลดความเร็วลงไปบ้างในช่วงใกล้ครึ่งชั่วโมง และโอกาสลุ้นสกอร์เริ่มก็ลดลงเช่นกัน แต่นาที 31 เดนมาร์ก พลาดประตูนำอย่างน่าเสียดายอีก วิลเลี่ยม ควิสต์ ทะลุเข้าทางซ้ายไม่ล้ำแล้วกดไปติดเซฟ เด ซานซ์ติส หวุดหวิด

        ทว่านาที 33 ก็กลับเป็น อิตาลี ที่ขึ้นนำได้เสียดื้อๆ มาริโอ บาโลเตลลี่ ชิ่งลูกให้ ริคคาร์โด้ มอนโตลิโว่ พาลูกจี้ขึ้นหน้าเล็กน้อยแล้วซัดเปรี้ยงจากหน้าเขตโทษ บอลพุ่งเบียดเสาเข้าไปอย่างสุดงามโดยที่ สเตฟาน อันเดอร์เซ่น ไม่ทันได้กระดิก อัซซูรี่ ออกนำ 1-0

        ไม่เท่านั้น นาที 37 สกอร์ก็ขยับเป็นสอง อันเดรีย ปีร์โล่ ขึ้นทางริมเส้นขวาแล้วสาดเข้าใน ดานิเอเล่ เด รอสซี่ โถมเข้าโหม่งง่ายๆ เข้าประตูไปง่ายดายเช่นกัน อิตาลี ทิ้ง 2-0

        เดนมาร์ก ต้องตั้งสติตั้งเกมกันใหม่ แล้วก็ไล่ขึ้นมาเป็น 1-2 ได้อึดใจสุดท้ายของทดเจ็บครึ่งแรก ลาร์ส ยาค็อบเซ่น เปิดจากขวาเข้ามาบริเวณเส้นเขตโทษ วิลเลี่ยม ควิสต์ ยิงวอลเลย์ส่งลูกผ่าน เด ซานซ์ติส เข้าประตูไปอย่างยอดเยี่ยม และครึ่งแรกก็จบไป อิตาลี นำอยู่ที่ 2-1

        กลับมาเล่นครึ่งหลังได้นาทีเดียว อิตาลี ต้องเหลือ 10 คน เมื่อ ปาโบล ออสวัลโด้ กองหน้าของทีมไปเอาแขนฟาดใส่ นิโคไล สต็อคโฮล์ม กองหลังโคนม ในจังหวะครองบอล จึงโดนใบแดงถูกไล่ออกจากสนามทันที

        แต่ 10 คนของเจ้าถิ่นกลับได้ประตูหนีห่าง 3-1 ในนาทีที่ 54 จังหวะที่ อันเดรีย ปิร์โล่ ตักบอลยาวให้ มาริโอ บาโลเตลลี่ เจตนาเกี่ยวบอลลงแล้วเลยผ่านตัว อันเดอร์เซ่น ที่ออกมาตัดบอลเหวอเข้าประตูไป

        ช่วงเวลาที่เหลือ อัซซูรี่ เลยครองบอลเอาไว้ได้อย่างไม่ยากลำบากนัก แม้นาทีที่ 74 ต้องเสีย เคลาดิโอ มาร์คิซิโอ ที่บาดเจ็บ ต้องส่ง อันโตนิโอ คันเดรว่า ลงไปคุมแดนกลางแทน

        จบเกม อิตาลี เอาชนะ เดนมาร์ก ไปได้ 3-1 เก็บสามแต้มนำจ่าฝูงกลุ่มบีต่อไป

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

        อิตาลี: มอร์แกน เด ซานช์ติส; อินยาซิโอ อบาเต้, อันเดรีย บาร์ซาญี่, จอร์โจ้ คิเอลลินี่, เฟเดริโก้ บัลซาเร็ตติ; ดานิเอเล่ เด รอสซี่, อันเดรีย ปีร์โล่, เคลาดิโอ มาร์คิซิโอ; ริคคาร์โด้ มอนโตลิโว่; ปาโบล ออสวัลโด้, มาริโอ บาโลเตลลี่

        เดนมาร์ก :  สเตฟาน อันเดอร์เซ่น; ลาร์ส ยาค็อบเซ่น, ซิมอน เคียร์, ดาเนี่ยล แอ็กเกอร์, นิโคไล สต็อคโฮล์ม; วิลเลี่ยม ควิสต์, ไมเคิ่ล ซิลเบอร์เบาเออร์; เดนนิส รอมเมดาห์ล, คริสเตียน เอริคเซ่น, ไมเคิ่ล ครอห์น-เดห์ลี; นิคลาส เบนท์เนอร์

        ผู้ตัดสิน : ดามีร์ สโคมิน่า (สโลวีเนีย)

โปรตุเกส 1   -   1 ไอร์แลนด์เหนือ
(กลุ่ม เอฟ.)

สนาม: เอสตาดิโอ โด ดราเกา, ปอร์โต้, โปรตุเกส

        "ขุนพลฝอยทอง" โปรตุเกส วาง นานี่, เอลแดร์ ปอสติก้า และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (กัปตันทีม) ลงมาล่าตาข่ายพร้อมหน้ากัน โดยรายของ โรนัลโด้ ลงเล่นให้กับโปรตุเกส เป็นนัดที่ 100 ด้วย พร้อมได้ มิเกล เวโลโซ่ ลงมาคุมเกมตรงกลาง

        ทางด้าน ไอร์แลนด์เหนือ ผู้มาเยือนให้ ไคล์ ลาฟเฟอร์ตี้ ลงมายืนเป็นหน้าเป้า พร้อมได้ โอลิเวอร์ นอร์วู้ด รับบทหน้าต่ำ

        เปิดเกมครึ่งแรกมาได้แค่ 2 นาที ขุนพลฝอยทอง ทักทายก่อนเลย เมื่อ มิเกล โลเปส ส่องหลุดโคนเสาไป

        เกมตกเป็นของเจ้าบ้านเดินหน้าบดตลอด เปเป้ โผนขึ้นโหม่งบอลไม่ตรงกรอบในนาทีที่ 19

        อย่างไรก็ตามกลายเป็น ไอร์แลนด์เหนือ มาได้ประตูขึ้นนำไปก่อน จากจังหวะที่ ไคล์ ลาฟเฟอร์ตี้ เปิดบอลจากทางด้านขวากลับมาให้ ไนออลล์ แม็คกินน์ ยิงด้วยขวาบอลเข้ากลางประตูไปให้ทีมเยือนพลิกขึ้นนำก่อน 1-0 เมื่อผ่านมาครึ่งชั่วโมง

        ท้ายครึ่งแรก ทีมฝอยทองเดินหน้าบุกอย่างหนัก ยังหาจังหวะยิงไม่ได้ หมดครึ่งแรก ไอร์แลนด์เหนือ บุกมานำก่อน 1-0

        กลับมาเล่นกันต่อในครึ่งหลัง โปรตุเกส เปลี่ยนเอา รูเบน อโมริม เล่นแทน มิเกล โลเปส

        นาทีที่ 49 เจา มูตินโญ่ กองกลางโปรตุเกส ลากมาซัดบอลหลุดกรอบออกไป

        เกมรุกของเจ้าบ้านยังไม่มีประสิทธิภาพ โรนัลโด้ ได้ยิงแต่ไปติดบล็อคในนาทีที่ 55

        เขยิบมานาทีที่ 63 รูเบน อโมริม กองกลางของโปรตุเกส พาบอลเข้าไปซัดแต่ไปติดเซฟของ รอยแคร์โรลล์ นายทวารทีมชาติไอร์แลนด์เหนือ

        สองนาทีต่อมา เอลแดร์ ปอสติก้า กองหน้าของเจ้าถิ่นเข่นหลุดกรอบออกไป

        มาถึงนาทีที่ 71 โปรตุเกส น่าจะได้ประตูตีเสมอ เมื่อวางยาวขึ้นหน้าให้กับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เอาบอลลงแล้วยิงแฉลบกองหลังของทีมเยือนออกหลังไป

        ฝอยทองมาสัมฤทธิ์ผลไล่ตีเสมอเป็น 1-1 นาทีที่ 79 จากการสับไกของ เอลแดร์ ปอสติก้า เข้าไปไม่เหลือ

        เวลาที่เหลือทำอะไรกันอีกไม่ได้ จบเกม  โปรตุเกส ต้องออกแรงเหนื่อยไล่ตีเสมอ ไอร์แลนด์เหนือ 1-1

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

        โปรตุเกส: รุย ปาตริซิโอ - เจา เปเรยร่า, เปเป้, บรูโน่ อัลเวส, มิเกล โลเปส - รูเบน มิคาเอล, มิเกล เวโลโซ่, เจา มูตินโญ่ - นานี่, เอลแดร์ ปอสติก้า, คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (กัปตันทีม)

        สำรอง: เบโต้ (ผู้รักษาประตู) - เอดูอาร์โด้ (ผู้รักษาประตู) - รูเบน อโมริม, หลุยส์ เนโต้, เนลสัน โอลิเวยร่า, ปิซซี่, เฮนริเก้ เซเรโน่, ซิลแวสตร์ วาเรล่า, มิเกล คุสโตดิโอ, เอแดร์

        ไอร์แลนด์เหนือ: รอย แคร์โรลล์ - ไรอัน แม็คกิฟเวิร์น, เคร็ก แค็ธคาร์ท, จอนนี่ อีแวนส์, คริส แบร์ด - สตีเว่น เดวิส (กัปตันทีม), คอร์รี่ อีแวนส์, ไนออล แม็คกินน์, แอรอน ฮิวจ์ส - โอลิเวอร์ นอร์วู้ด - ไคล์ ลาฟเฟอร์ตี้

        สำรอง: อลัน แมนนัส (ผู้รักษาประตู) - ไมเคิล แม็คโกเวิร์น (ผู้รักษาประตู) - ลี ฮ็อดสัน, ดีน ชิลส์, เดวิด ฮีลี่ย์, จอช คาร์สัน, แดเนี่ยล ลาฟเฟอร์ตี้, รอรี่ แม็คอาร์เดิ้ล, วิลเลี่ยม กริ๊กก์, แพ็ท แม็คคอร์ต

        ผู้ตัดสิน: ธอร์สเท่น คินโฮเฟอร์ (เยอรมัน)