ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » ฟุตบอลไทย » Exclusive : 'J' the MESSI - “ผมถูกเลี้ยงให้เป็น มาราโดน่า!!!”

Exclusive : 'J' the MESSI - “ผมถูกเลี้ยงให้เป็น มาราโดน่า!!!”

Posted 30/12/2012 by goal.com

 

แข้งดาวรุ่งร่างเล็ก โชว์ผลงานได้อย่างน่าประทับใจแฟน 'ช้างศึก' ในรายการซูซูกิ คัพ ที่เพิ่งผ่านไปหมาดๆ วันนี้ โกล.คอม จึงขอพาท่านไปรู้จัก 'เมสซีเจ' ให้มากขึ้น

การแข่งขัน เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2012 จบลงพร้อมกับความชอกช้ำทรวงอกของบรรดาแฟนบอลชาวไทย รวมไปถึงพลพรรค “ช้างศึก” ทุกคน เมื่อทีมชาติไทยแพ้สกอร์รวมให้กับ สิงคโปร์ ในรอบชิงชนะเลิศ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทุกคนรับรู้ได้ คือ ศรัทธาฟุตบอลทีมชาติไทย เริ่มกลับมาปักอกอยู่ในหัวใจคนไทย และยังมองเห็นอนาคตที่ดีในทีมชุดนี้อีกด้วย โดยเฉพาะนักเตะดาวรุ่งสายเลือดใหม่หลายๆคน ซึ่งแน่นอนว่า ไม่มีใครโดดเด่นไปกว่า “เมสซี่เจ” ชนาธิป สรงกระสินธุ์ แข้งวัย 19 ปี เจ้าของส่วนสูง 157 เซนติเมตร ที่หลอกแข้ง “เมอร์ไลออนส์” หลังหักคนแล้วคนเล่า จนมันส์สะใจแฟนลูกหนังไทยเหลือเกิน

วันนี้ โกลดอทคอม (ประเทศไทย) ได้มีโอกาสพูดคุยถึงเรื่องราวความเป็นมาของ คำว่า “เมสซี่เจ” กับ ชนาธิป สรงกระสินธุ์ ว่ามันมีที่มาที่ไปอย่างไร รวมไปถึงจุดเริ่มต้นของชีวิตนักเตะของเขา จนถึงปัจจุบัน

โกลดอมคอม : สวัสดี “เมสซี่เจ” ก่อนอื่นขอแสดงความยินดี ที่โชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยมเหลือเกินใน เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ ที่ผ่านมา แม้ว่าสุดท้ายจะไม่ได้แชมป์ก็ตาม

ชนาธิป สรงกระสินธุ์ : ครับ ขอบคุณครับ

โกลดอทคอม : ช่วยเล่าเรื่องราวชีวิตของเรา โดยสังเขปคร่าวๆ หน่อยได้ไหม ว่าคุณเริ่มเตะฟุตบอลได้อย่างไร

ชนาธิป สรงกระสินธุ์ : เรื่องราวชีวิตของผมเหรอ ไม่มีอะไรมากมายหรอก ผมเริ่มเตะฟุตบอลตั้งแต่ 4 ขวบ ผมหมายถึง ซ้อมฟุตบอลน่ะ ซ้อมแบบจริงจังตั้งแต่ 4 ขวบ


โกลดอทคอม : โห! 4 ขวบเลยงั้นเหรอ?

ชนา ธิป สรงกระสินธุ์ : ใช่ มันมีที่มาน่ะ คือ พ่อผมเขาอยากให้ผมเป็นนักฟุตบอลมากๆ ก็เลยตั้งใจปั้นผมแบบจริงๆ จังๆ ความจริงสมัยก่อนพ่อเองก็เป็นนักฟุตบอล แต่เล่นแค่ระดับอำเภอ ในตำแหน่งเดียวกับผมเนี่ยแหละ แล้วเขาก็รู้จักมักจี่กับ สุรวุฒิ เลาหกาญจนศิริ อดีตนักฟุตบอลทีมชาติไทย ก็เลยร่วมด้วยช่วยกับซ้อมให้ผม พ่อผมซ้อมให้ผมหนักมากหนักจริงๆ

โกลดอทคอม : แล้วเส้นทางวิถีนักฟุตบอลของคุณ มันมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร

ชนา ธิป สรงกระสินธุ์ : พอหลังจากซ้อมกับพ่อได้มาหลายปี ก็เข้าไปคัดกับโรงเรียนกีฬากรุงเทพมหานคร ตอนประถมศึกษาปีที่ 4 จากนั้นย้ายไปอยู่ โรงเรียนเพ็ญสมิทธิ์ ได้ 1 ปี ก็ไปอยู่กับ สามพรานวิทยา ก่อนที่จะไปคัดตัวกับ พณิชยการราชดำเนิน ซึ่งตอนนั้นผมเองก็โชว์ฟอร์มได้ดี ลงสนามครบทุกนัด ก่อนพาทีมคว้าแชมป์ 18 ปี ก. และนั่นคือจุดเปลี่ยนของชีวิตผม เพราะ แอนดูวร์ ออร์ด ซึ่งเวลานั้นคุมทีมเยาวชนของบีอีซี เทโรศาสน และ ปีเตอร์ บัตเลอร์ ช่วยดึงผมเข้าไปอยู่กับทีม พร้อมรับเงินเดือนละ 10,000 บาท ก่อนตอบแทนด้วยการพาทีม “มังกรไฟจูเนียร์” คว้าแชมป์ เอฟเอ ยูธ คัพ ได้สำเร็จ

โกลดอมคอม : จากนั้น ด้วยลีลาการเล่น และรูปร่างของคุณ ก็ทำให้ผู้คนก็เริ่มเรียกคุณว่า “เมสซี่เจ”?

ชนา ธิป สรงกระสินธุ์ : ใช่ แต่ผมไม่รู้เหมือนกันว่า ใครเป็นคนเริ่มเรียกผมแบบนั้นเป็นคนแรก ซึ่งถ้าจะบอกกันตรงๆเลย คือ จริงๆ ผมก็ไม่ได้รู้จัก หรือ ว่าชอบ ลีโอเนล เมสซี่ ยอดกองหน้าทีมชาติอาร์เจนติน่าของ บาร์เซโลน่า อะไรมากมาย จนกระทั่งผู้คนเขาเรียกผู้แบบนั้น ผมก็เลยไปหาดูวิดีโอของ เมสซี่ เพิ่มเติม เพราะปกติผมเป็นคนที่ไม่ค่อยดูฟุตบอลเท่าไหร่ และเมื่อได้เห็นลีลา สไตล์การเล่นแล้ว ก็ติดใจชอบ เนื่องจากผมเองก็เล่นสไตล์คล้ายๆกับเขา

พ่อผมฝึกซ้อมฟุตบอลให้ผมแบบแนวเกาหลีน่ะ....แบบ คือ ไม่ดีปั๊บ ตบหัวผัวะ! !

โกลดอมคอม : อ้าว! ปกติไม่ค่อยได้ดูฟุตบอลแล้วใครเป็นแรงบันดาลใจ สำหรับคุณสมัยเด็กๆ ล่ะ?

ชนา ธิป สรงกระสินธุ์ : เอาจริงๆนะ ผมไม่มีเลยล่ะ แต่ที่ดูบ่อยๆ สมัยเด็กๆ คือ ดีเอโก้ มาราโดน่า เพราะพ่อผม (ก้องภพ สรงกระสินธุ์) ชอบมาก และก็มักจะเปิดวิดีโอให้ผมดูวิธีการเล่นของเขาบ่อยๆ

โกลดอมคอม : โห! คุณซ้อมฟุตบอลอย่างหนัก ตั้งแต่เด็กโดยไม่มีฮีโร่นอกสนามเลยเนี่ยนะ?

ชนา ธิป สรงกระสินธุ์ : ก็พ่อผมฝึกซ้อมฟุตบอลให้ผมแบบแนวเกาหลีน่ะ....แบบ คือ ไม่ดีปั๊บ ตบหัวผัวะ! พ่อผมดุ พยายามเคี่ยวเข็ญให้เป็นนักฟุตบอลให้ได้ ซึ่งการฝึกซ้อมนั้นเขาเน้นเรื่องของเบสิคพื้นฐานล้วนๆ จนกระทั่งผมขึ้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เลยทีเดียว แต่สิ่งหนึ่งที่คุณพ่อผมเขาพยายามไม่สอนให้เป็นเหมือน มาราโดน่า คือผมต้องเล่น 2 เท้าได้เท่าเทียมกัน


โกลดอมคอม : จะยังไงก็แล้วแต่ ตอนนี้คุณคือนักฟุตบอลที่ได้รับการจับตามอง และชื่นชอบมากๆ ของบรรดาแฟนบอลคนหนึ่งในเมืองไทยแล้ว?

ชนา ธิป สรงกระสินธุ์ : จะว่าไปก็ใช่ แต่ผมต้องขอบคุณ แอนดรูว์ ออร์ด จริงๆ ที่ให้โอกาสผมลงเล่นเมื่อฤดูกาล 2012 ที่ผ่านมาอย่างจริงจัง ทั้งที่ผมตัวเล็ก แต่เขาก็เชื่อมั่นในตัวผม เขาเป็นโค้ชที่ใส่ใจในทุกรายละเอียดมากๆ

โกลดอมคอม : พูดถึง เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ ครั้งที่ผ่านมาหน่อยสิ

ชนา ธิป สรงกระสินธุ์ : ผมว่าเราเล่นกันได้ดีแล้วนะ สำหรับผลงานของตัวผมเอง ก็พอใจมากๆ เช่นกัน การแข่งขันครั้งนี้ ผมตื่นเต้นมากๆ ที่ได้ลงสนามในแต่ละเกม โดยเฉพาะเกมกับเวียดนาม ผมเสียบอลจริงๆ แค่ครั้งเดียวเท่านั้น...ปกติผมจะนับตลอดว่าแต่ละเกมเล่นอย่างไร แล้วนำมาปรับปรุงพัฒนา

โกลดอมคอม : ออร่า “เมสซี่เจ” ของคุณสะพรั่งมากๆ ทันทีที่หลบกองหลัง สิงคโปร์ คนแล้วคนเล่า แม้สุดท้าย ไทยจะแพ้ด้วยสกอร์รวม 2 – 3 จนมีแฟนบอลหลายคนคิดว่า คุณน่าจะลงมาเป็นตัวจริงตั้งแต่แรกด้วยซ้ำ คุณคิดว่ายังไงเกี่ยวกับเรื่องนี้

ชนาธิป สรงกระสินธุ์ : ผมยังมีปัญหาเรื่องของแรงปะทะอยู่ ซึ่งผมคิดว่า “วินนี่” วินฟรีด เชเฟอร์ โค้ชทีมชาติไทย คิดถูกแล้ว ที่ส่งผมลงไปช่วงท้ายเกม ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่กองหลังคู่แข่งเริ่มจะหมดแรงกันแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องใช้แรงปะทะมาก และผมก็สามารถเล่นได้อย่างเต็มที่ แต่ก็เสียดายที่เราไม่สามารถคว้าแชมป์ได้

สำหรับผลงานของตัวผมเอง ก็พอใจมากๆ เช่นกัน การแข่งขันครั้งนี้ ผมตื่นเต้นมากๆ ที่ได้ลงสนามในแต่ละเกม

โกลดอมคอม : คุณเป็นคนถ่อมตนจริงๆ...แบบนี้แล้วเรื่องของชีวิตนอกสนามคุณเป็นไง มีสาวๆ มาจีบบ้างไหม? ได้ยินว่าพ่อสั่งห้ามคบผู้หญิงในเชิงชู้สาว

ชนาธิป สรงกระสินธุ์ : โห ผมไม่สนหรอก ถึงเวลามันก็มีมาเอง แต่ถามว่ามีใครมาจีบบ้างไหม มันก็มีแหละ แต่ผมก็ปฏิเสธไป

โกลดอมคอม : ปฏิเสธยังไง? ขอถามในฐานะคนที่ไม่เคยโดนผู้หญิงจีบ

ชนา ธิป สรงกระสินธุ์ : โถ! คนไม่หล่อก็เงี้ยแหละ (ฮา) ผมก็บอกเลี่ยงๆไปว่า เอาเฟซบุ๊คไปแทนได้ไหม อะไรแบบนี้ ผมยังไม่อยากยุ่งเรื่องผู้หญิง


โกล.คอม : ปี 2012 ที่ผ่านมา เป็นปีที่คุณลงเล่นอย่างสม่ำเสมอจริงจัง ในทีมชุดใหญ่ของ บีอีซี เทโรศาสน เป็นปีแรก คุณได้เรียนรู้อะไรบ้าง

ชนา ธิป สรงกระสินธุ์ : แรกๆ มันก็กดดันแหละครับ แต่พอลงเล่นทุกเกมๆ มันก็ยิ่งทำให้เรามีประสบการณ์และนิ่งขึ้น และก็ต้องทำให้ดีขึ้นไปเรื่อยๆ

โกลดอมคอม : เป้าหมายในชีวิตของคุณ คือ อะไรในปีหน้า

ชนา ธิป สรงกระสินธุ์ : แน่นอนว่า ผมอยากจะช่วยพา บีอีซี เทโรศาสน คว้าแชมป์สักรายการ ส่วนรางวัลส่วนตัว ผมก็หวังจะได้รางวัลโกลเดนบอล สาขาดาวรุ่งยอดเยี่ยม อีกสักรางวัลจะยอดเยี่ยมมากเลยละ (ฮา)

นี่ คือ เรื่องราวของเด็กหนุ่มร่างเล็ก อาจไม่ใหญ่คับฟ้าก้องหล้าฟ้าไกล แต่มันก็ยิ่งใหญ่เหลือเกินสำหรับแข้งวัยไม่ถึง 20 ปี การติดทีมชาติไทย ชุด เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2012 ที่ผ่านมา และสร้างชื่อกระฉ่อนไปทั่วอาเซียนของเขา อาจเป็นแค่จุดเริ่มต้นก้าวเล็กๆ ที่ “เจ เดอะ เมสซี่” จะก้าวต่อไป จนกลายเป็นยอดนักเตะไทยผู้เกรียงไกรในอนาคต

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
  • ‎10 แข้งเสริมทัพสุดคุ้มไทยลีก 2012 โดย Goal.com
    โกล.คอม เลือก 10 อันดับแข้งใหม่คุ้มเกินคุ้ม จากศึก ไทย พรีเมียร์ลีก 2012 มาให้ได้ชมกัน
  • เสี่ยเป้รับคู่แข่งเอซีแอลไม่ธรรมดายันมีข้อมูลหมดแล้ว
    สเกาต์แล้วยันชัดไม่ธรรมดา!!! "เสี่ยเป้" รณฤทธิ์ ซื่อวาจา ผอ.สโมสรเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ชี้ชัด 3 คู่แข่งในศึกเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2013 อย่าง ชนบุก ฮุนได มอเตอร์ส, กว่างโจว เอเวอร์กรานเด้ และ อุราวะ เร้ด ไดมอนส์ ถือว่าหนักเอาเรื่อง โดยเฉพาะ อุราวะฯ ที่มีแข้งแซมบ้าเป็นตัวชูโรง ยันแล้วมีข้อมูลล่าสุดของทั้ง 3 ทีมแล้ว แต่หากเตรียมทีมดีมีสิทธิ์ลุ้นสู่รอบสองได้เช่นกัน พร้อมชูปัจจัยสู่ความสำเร็จที่หวัง นั่นคือโควตาต่างชาติ 3+1
  • อีเอสพีเอ็นยก4แข้งไทยติดทีมยอดเยี่ยมซูซูกิ
    อีเอสพีเอ็น ยก 4 แข้งไทย ใหม่, อุ้ม, ดุล, มุ้ย ติดโผทีมยอดเยี่ยม เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2012 แม้จะได้แค่รองแชมป์ ส่วน กวิน ธรรมสัจจานันท์, จักรพันธ์ พรใส และ อนุชา กิจพงษ์ศรี ที่ฉายแววเด่น แต่กลับไม่มีชื่อแม้กระทั่งตัวสำรอง ขณะที่ ฟีฟ่า ซูฮก ทัพช้างศึก แรงกิ้งพุ่งขึ้น 16 อันดับ ''วินนี่'' วินฟรีด เชเฟอร์ กุนซือใหญ่ ได้ทีโวลั่น มั่นใจศักยภาพไทยเจ๋งได้อีก
  • พัทยาทุ่มอีก4ล้านปรับหนองปรือเล็งเพิ่มอัฒจันทร์
    พัทยา ยูไนเต็ด ประกาศทุ่มงบอีก 4 ล้านบาทปรับปรุงสนามหนองปรืออีกครั้งก่อนเปิดฤดูกาล 2013 โดยเล็งสร้างอัฒจันทร์หลังประตูเพิ่มที่นั่งด้วย

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »