เอฟเอ เตรียมพิจารณากรณีที่ หลุยส์ ซัวเรซ หัวหอกตัวเก่งของ ลิเวอร์พูล ก่อเรื่องฉาวขึ้นมาอีก ด้วยการที่จู่ๆ ดันไปกัดแขน บรานิสลาฟ อิวาโนวิช กองหลังเลือดเซิร์บของ เชลซี ในเกมที่ต้นสังกัดของทั้งคู่เสมอกัน 2-2 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

สมาคมฟุตบอลอังกฤษ (เอฟเอ) ออกมาระบุว่า พวกเขาเตรียมที่จะนำภาพช้าจากเหตุการณ์ที่ หลุยส์ ซัวเรซ กองหน้าชาวอุรุกวัยของ ลิเวอร์พูล สโมสรดังของเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ไปกัดแขน บรานิสลาฟ อิวาโนวิช ปราการหลังคนเก่งของ เชลซี ระหว่างเกมลีก นัดที่ "หงส์แดง" เปิดรัง แอนฟิลด์ เสมอกับ "สิงห์บลูส์" 2-2 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 21 เมษายน ที่ผ่านมา มาพิจารณาหาข้อเท็จจริงแล้ว

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงกลางครึ่งหลัง และเป็นตอนที่ ลิเวอร์พูล กำลังตามหลังอยู่ 1-2 โดย ซัวเรซ กับ อิวาโนวิช กำลังเบียดแย่งบอลกันในกรอบเขตโทษ ก่อนที่ลูกบอลจะไหลออกไปทางด้านข้าง ซึ่งมันควรจะจบลงแค่นั้น แต่แล้วหัวหอกทีมชาติอุรุกวัยกลับเล่นนอกเกม ด้วยการหันไปงับแขนท่อนบนของกองหลังเลือดเซิร์บเต็มๆ

อิวาโนวิช รีบผลัก ซัวเรซ ออกไปทันที และไปฟ้องกับ เควิน เฟรนด์ ผู้ตัดสินในเกมนี้ แต่เชิ้ตดำวัย 41 ปีไม่เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และไม่ได้ลงโทษใดๆ ทั้งนั้นกับแข้งวัย 26 ปี อย่างไรก็ตาม สมาคมฟุตบอลอังกฤษ (เอฟเอ) อาจมีการลงโทษดาวยิงคนเก่งของ "หงส์แดง" ในภายหลัง หากมีการตัดสินว่า เขามีความผิดจริง

ทั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่ ซัวเรซ ก่อเรื่องฉาวด้วยการกัดเพื่อนร่วมอาชีพ เพราะสมัยที่ยังอยู่กับ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม อดีตต้นสังกัดในศึกเอเรดิวิซี่ ฮอลแลนด์ นั้น เขาก็เคยกัด อ็อตมาน บัคคัล กองกลางชาวดัตช์ ที่ตอนนั้นอยู่กับ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น (ปัจจุบันอยู่กับ ดินาโม มอสโก) ในเกมลีก เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2010 มาแล้ว และสุดท้ายเขาก็โดนแบนถึง 7 นัด จากความผิดดังกล่าว