ปรีวิว ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

วันอาทิตย์ที่ 5 พฤษภาคม 2556

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด    -    เชลซี

สนาม : โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด

        แมนฯ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์ลีกสมัยที่ 20 ไปแล้วตั้งแต่ 2 สัปดาห์ก่อน แต่ผลจากนัดก่อนที่บุกเสมอ อาร์เซน่อล 1-1 ทำให้หมดสิทธิ์ลุ้นทำแต้มมากสุดใน 1 ฤดูกาลแซง เชลซี ที่ทำเอาไว้ 95 แต้ม

        สภาพทีมของกุนซือ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน จะขาดกองหน้า แดนนี่ เวลเบ็ค ที่เจ็บเข่าพลาดช่วยทีมร่วมกับ แอชลี่ย์ ยัง ปีกซ้ายที่เจ็บข้อเท้าหมดสิทธิ์ช่วยทีมฤดูกาลนี้แล้ว

        ข่าวดี พอล สโคลส์ กองกลางวัย 38 หายเจ็บเข่ากลับมา หลังจากเจ็บเข้าพักยาวมาตั้งแต่เดือนมกราคม น่าจะมีชื่อเป็นตัวสำรองได้แล้ว ส่วนคนอื่นๆ ก็ฟิตสมบูรณ์ทั้งหมด

        เนมานย่า วิดิช ปราการหลังกัปตันทีม หายเจ็บน่อง มีโอกาสลงเล่นเกมนี้ เช่นเดียวกับตัวสำรองนัดก่อนอย่าง ทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์, ชินจิ คางาวะ, อันแดร์สัน, ไรอัน กิ๊กส์ และ "ชิชาริโต้"

        การจัดทัพ เด เคอา เฝ้าเสา แผงหลัง โจนส์, เฟอร์ดินานด์, วิดิช, เอวร่า แดนกลาง คาร์ริค กับ อันแดร์สัน คุมเกม แนวรุก คางาวะ, รูนี่ย์, กิ๊กส์ หน้าเป้า ฟาน เพอร์ซี่

        ฝั่ง สิงโตน้ำเงินคราม ทำผลงานได้ดีในยูโรปา ลีก ที่ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศที่ อัมสเตอร์ดัม อารีน่า ได้ หลังเปิดบ้านเอาชนะ บาเซิ่ล 3-1 เมื่อวันพฤหัสบดี ทำให้สกอร์รวมชนะ 5-2
 

        อย่าง ไรก็ตาม เป้าหมายหลักของ ราฟาเอล เบนิเตซ กุนซือชั่วคราวชาวสเปน คือการพาทีมจบ 4 อันดับแรกในพรีเมียร์ลีกให้ได้ เพื่อโควต้าแชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลหน้า

        สภาพทีม แอชลี่ย์ โคล แบ็กซ้ายจะกลับคืนทัพ หลังติดโทษแบนเกมยุโรป ขณะที่แดนหน้า เดมบา บา ที่ติดคัพ-ไทถ้วยยุโรป ก็พร้อมทวงตัวจริงคืนจาก ตอร์เรส

        แนวรับ จอห์น เทอร์รี่ กัปตันทีมพร้อมกลับมายืนเซนเตอร์ฮาล์ฟในเกมนี้ เพราะ ดาวิด ลุยซ์ กำลังไปได้ดีกับบทบาทใหม่กองกลางตัวรับ หลังเพิ่งซัลโวสุดสวยใส่ บาเซิ่ล

        ตัวหลักที่นั่งสำรองในเกมยุโรป นอกจาก เทอร์รี่ แล้ว ยังมี ฆวน มาต้า กับ ออสการ์ ที่น่าคืนตัวจริงในเกมที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ทั้งคู่ด้วย เอแดน อาซาร์ อาจโดนดร็อปนั่งสำรอง

        การจัดทัพ เช็ก เฝ้าเสา แผงหลัง อัซปิลิกวยต้า, อิวาโนวิช, เทอร์รี่, โคล คู่กลาง ดาวิด ลุยซ์ กับ แลมพาร์ด แนวรุก รามิเรส, ออสการ์, ฆวน มาต้า หน้าเป้า เดมบา บา

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

        แมนฯ ยูไนเต็ด : ดาบิด เด เคอา - ฟิล โจนส์, ริโอ เฟอร์ดินานด์, เนมานย่า วิดิช, ปาทริซ เอวร่า - ไมเคิ่ล คาร์ริค, อันแดร์สัน - ชินจิ คางาวะ, เวย์น รูนี่ย์, ไรอัน กิ๊กส์ - โรบิน ฟาน เพอร์ซี่

        เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก - เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, จอห์น เทอร์รี่, แอชลี่ย์ โคล - ดาวิด ลุยซ์, แฟร้งค์ แลมพาร์ด - รามิเรส, ออสการ์, ฆวน มาต้า - เดมบา บา

        ผู้ตัดสิน : ฮาวเวิร์ด เว็บบ์

เจอ 4 นัดซีซั่นนี้สิงห์บลูส์ข่ม

        นี่คือการพบกันครั้งที่ 5 ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ เชลซี ในฤดูกาลนี้ หลังจากพบกันมาแล้วทั้งเอฟเอ คัพ และ แคปปิตอลวันคัพ ซึ่ง สิงโตน้ำเงินคราม เป็นฝ่ายประสบความสำเร็จในบอลถ้วย

        นัดแรกในพรีเมียร์ลีกที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ แมนฯ ยูไนเต็ด บุกชนะ 3-2 ในเกมที่ สิงห์บลูส์ ต้องเหลือผู้เล่น 9 คนในช่วงกว่า 20 นาทีสุดท้าย จนเสียประตูให้ "ชิชาริโต้" ซัดชัยให้ ปีศาจแดง บุกเก็บสามคะแนน

        อย่างไรก็ตาม ในบอลถ้วย แคปปิตอลวัน คัพ ที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ ต้องเล่นกันถึง 120 นาที กว่า เชลซี จะเฉือนชนะ 5-4 หลังเสมอ 3-3 ใน 90 นาที และในเอฟเอ คัพ เชลซี ก็เล่นในบ้านเฉือนชนะ 1-0 ในนัดแข่งใหม่ หลังบุกเสมอ 2-2 ที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด

เผยผีแพ้สิงห์เยอะสุดในพรีเมียร์

        จากการพบกันทั้งหมด 41 นัด ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ เชลซี ในศึกพรีเมียร์ลีก ผลงานของทั้งคู่สุดสูสี ผลัดกันแพ้ ผลัดกันชนะ ฝั่งละ 13 นัดเท่ากัน และเสมอกัน 15 นัด

        นับเฉพาะเกมพรีเมียร์ลีก ตั้งแต่ฤดูกาล 1992-93 เป็นต้นมา ทั้งสองทีมเจอกันมาแล้วทั้งสิ้น 41 นัด ต่างฝ่ายต่างชนะ 13 นัดเท่ากัน และเสมอกัน 15 นัด ทำให้ เชลซี กลายเป็นทีมที่ทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด เจองานหนักที่สุดนับตั้งแต่เล่นพรีเมียร์ลีก เพราะการแพ้ 13 นัด และเสีย 55 ประตูให้ เชลซี เป็นผลงานที่แย่ที่สุดของ ปีศาจแดง ในการเผชิญหน้ากับทุกทีม

        นอกจากนี้ การพบกันของ แมนฯ ยูไนเต็ด และ เชลซี ใน 6 นัดหลังสุด รวมทุกรายการ การันตีความสนุกตื่นเต้นได้เป็นอย่างดี เพราะมีประตูเกิดขึ้นถึง 29 ประตู เฉลี่ยอยู่ที่ 4.8 ประตูต่อเกมเลยทีเดียว

ข้อมูลเพิ่มเติมที่น่าสนใจระหว่าง แมนฯ ยูไนเต็ด - เชลซี
ผลงานการพบกันที่บ้าน แมนฯ ยูไนเต็ด (75 นัด)
แมนฯ ยูไนเต็ดชนะ 32 เชลซีชนะ 19 เสมอ 24

ประตู :
แมนฯ ยูไนเต็ด 118 ประตู เฉลี่ย 1.57 ประตูต่อนัด
เชลซี 75 ประตู เฉลี่ย 1.00 ประตูต่อนัด

- แมนฯ ยูไนเต็ด ไร้พ่ายใน 4 นัดหลังสุดในลีกที่พบกับ เชลซี (ชนะ 3 เสมอ 1) โดยปีศาจแดงเคยไม่แพ้สิงโตน้ำเงินครามนานสุด 5 เกม เมื่อเดือนธันวาคม ปี 1998
- 6 เกมหลังสุดในทุกรายการระหว่าง แมนฯ ยูไนเต็ด กับ เชลซี มีประตูเกิดขึ้นทั้งหมด 29 ประตู โดยเฉลี่ย 4.8 ประตูต่อนัด
- ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ ยิงประตู 6 ใน 8 เกมหลังสุดที่พบกับ เชลซี ในทุกรายการ
- ปีศาจแดงแพ้ เชลซี 13 นัด และโดนยิงไป 55 ประตู นับว่ามากที่สุดเมื่อเทียบกับการเจอทีมร่วมลีก
- สิงห์บลูส์ ทำคลีนชีตได้แค่ครั้งเดียวใน 17 เกมหลังสุดที่มาเยือน โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด (ชนะ 3-0 เมื่อ เดือนธันวาคม ปี 2001)
- โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ หัวหอกตัวเก่งของ แมนฯ ยูไนเต็ด ซัดไปแล้ว 6 ประตูจาก 4 เกมหลังสุด หลังจากปืนฝืดติดต่อกัน 10 นัดก่อนหน้านี้
- ยังไม่มีทีมใดในประวัติศาสตร์ลีกสูงสุดที่จบฤดูกาลนอกท็อปโฟร์ด้วยการมี อย่างน้อย 65 แต้มหลังผ่านไป 34 นัด เหมือน เชลซี ในเวลานี้ (นับตั้งแต่ตอนที่เปลี่ยนกฎเป็นชนะได้ 3 แต้ม)
- แมนฯ ยูไนเต็ด ยิงประตูในบ้านได้ 66 นัดติดต่อกัน นับเป็นสถิติสูงสุดของ พรีเมียร์ลีก
- ดาบิด เด เคอา นายด่านปีศาจแดง เป็นผู้รักษาประตูตัวจริงเพียงคนเดียวใน พรีเมียร์ลีก ที่ชกบอล (23 ครั้ง) ได้มากกว่ารับบอล (21 ครั้ง) ในฤดูกาลนี้
- แมนฯ ยูไนเต็ด ยิงชนทั้งเสาและคานทั้งหมด 22 ครั้ง นับเป็นสถิติสูงสุดในซีซั่นนี้ ในขณะที่ เชลซี ทำได้น้อยที่สุดแค่ 5 ครั้งเท่านั้น

ผลงานการพบกันเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา (ที่บ้าน แมนฯ ยูไนเต็ด)
แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ เชลซี 3-1
ผู้ทำประตู : 1-0 คริส สมอลลิ่ง น. 8, 2-0 นานี่ น. 37, 3-0 เวย์น รูนี่ย์ น. 45, 3-1 เฟร์นานโด ตอร์เรส น. 46
18 กันยายน 2011 ผู้ตัดสิน : ฟิล ดาวด์

โปรแกรมฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
19:30 น.   ลิเวอร์พูล Vs เอฟเวอร์ตัน      ถ่ายทอดสด :    ทรูสปอร์ต 1
22:00 น.   แมนฯ ยูไนเต็ด Vs เชลซี     ถ่ายทอดสด : ช่อง 3,ทรูสปอร์ต 1