ดีเอโก้ ฟอร์ลัน สวมบทฮีโร่ซัดประตูงามหยดช่วย "จอมโหด" อุรุกวัย คว้าชัยเหนือ "ฮินทรีมรกต" ไนจีเรีย 2-1 เก็บสามแต้มสุดสำคัญทำให้ทั้งสองทีมต้องไปลุ้นเข้ารอบต่อไปแบบระทึกในนัดสุด ท้าย ในศึก ฟุตบอลฟีฟ่า คอนเฟดเดเรชั่น คัพ 2013 กลุ่มบี. เมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ 20 มิ.ย. ที่ผ่านมา

ฟุตบอลฟีฟ่า คอนเฟดเดเรชั่น คัพ 2013 กลุ่ม บี.

วันพฤหัสบดีที่ 20 มิถุนายน 2556

ไนจีเรีย 1   -   2 อุรุกวัย

สนาม : อารีน่า ฟอนเต้ โนบา, ซัลวาดอร์

<% response.ContentType="text/html; charset=tis-620"%>

      เริ่มเกมการแข่งขันได้ไม่ถึงนาที อุรุกวัยได้โอกาสก่อนเลย ดีเอโก้ ฟอร์ลัน เปิดฟรีคิกริมเส้นเข้าไปในเขตโทษ กองหลังไนจีเรียเคลียร์บอลไม่ขาด คริสเตียน โรดริเกซ วิ่งมาซัดด้วยซ้าย วินเซนต์ เอ็นเยียม่า ผู้รักษาประตูของอินทรีมรกต ต้องออกแรงปัดออกหลังไป

      นาทีที่ 10 ไนจีเรีย ทำเกมบุกขึ้นมาบ้าง อาห์เหม็ด มูซ่า ลองส่องไกลจากนอกเขตโทษ แต่บอลหลุดกรอบออกไป

      สองนาทีต่อมา อินทรีมรกต เกือบได้ประตูขึ้นนำ อิเดเย่ บราวน์ อัดด้วยขวาเต็มแรงบอลพุ่งเข้ากรอบ เฟร์นานโด มุสเลร่า ล้มตัวรับแต่ดันหลุดมือ บอลกลิ้งกำลังจะเข้าหาประตู แต่ยังดีที่บอลเบาเจ้าตัวเลยตามมาตะครุบได้ทัน

       นาที ที่ 19 อุรุกวัย ได้ลูกเตะมุม ดีเอโก้ ฟอร์ลัน เปิดไปติดกองหลังกระดอนมาเข้าทางอีกครั้ง ดาวเตะจอมเก๋าตัดสินใจเปิดเลียดยัดเข้าไปอีกครั้ง เอดินสัน คาวานี่ กระโดดข้ามหลอกให้ ดีเอโก้ ลูกาโน่ ยิงสามหลาเข้าไปไม่เหลือ อุรุกวัย ขึ้นนำ 1-0

      นาทีที่ 26 ทีมจอมโหดยังทำเกมบุกได้น่ากลัว หลุยส์ ซัวเรซ ได้บอลริมเส้นฝั่งขวาก่อนกระชากหลอกแนวรับไนจีเรีย แล้วเปิดเข้าไปหน้าปากประตู แต่ ดีเอโก้ ฟอร์ลัน ยิงหลุดกรอบออกไป

       นาทีที่ 37 จอห์น โอบี มิเคล รับบอลจาก อิเดเย่ บราวน์ ก่อนล็อกหลบ ดีเอโก้ ลูกาโน่ หลุดเข้าไปในเขตโทษก่อนปั่นด้วยซ้าย บอลพุ่งตุงตาข่ายสุดสวยไนจีเรีย ตามตีเสมอ 1-1 

      นาทีที่ 43 อัลวาโร่ กอนซาเลซ ลองสับไกระยะ 30 หลา บอลพุ่งข้ามคานออกไปชนิดมีเสียว

       นาทีที่ 45 ไนจีเรีย เปลี่ยนตัวโดยถอดเอา เอ็นนามดี้ โอดูอามาดี้ กองหน้าตัวเก่งที่มีอาการบาดเจ็บ และส่ง มิเชล บาบาทุนเด้ ลงแทน

      ช่วง ทดเจ็บ อินทรีมรกต เกือบได้ประตูขึ้นนำ เคนเน็ธ โอเมรูโอ เปิดบอลไปที่เสาสองบอลย้อยจะเสียบสามเหลี่ยมอยู่แล้ว แต่ เฟร์นานโด มุสเลร่า วิ่งมาปัดออกหลังได้ทัน จบครึ่งเวลาแรก ทั้งสองทีมยังเสมอกันอยู๋ 1-1

      กลับมาเล่นกันต่อครึ่งหลังได้แค่นาทีเดียว ไนจีเรีย ได้ลุ้นก่อนเลย เอเฟ่ อัมโบรส สับไกจากนอกกรอบโทษแต่ เฟร์นานโด มุสเลร่า  ปัดไว้ได้

       นาที ที่ 51 กลายเป็น อุรุกวัย ที่ได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะโต้กลับ หลุยส์ ซัวเรซ ลากเลี้ยงบอลขึ้นมาก่อนจ่ายให้ เอดินสัน คาวานี่ ป้ายบอลออกทางซ้ายให้ ดีเอโก้ ฟอร์ลัน วิ่งเข้ามากดด้วยซ้ายในเขตโทษแบบไม่ต้องจับ บอลพุ่งเสียบสามเหลี่ยมงามหยด อุรุกวัย ขึ้นนำ 2-1

       นาทีที่ 60  มิเชล บาบาทุนเด้ ของไนจีเรียรับใบเหลืองแรกของเกม

       นาทีที่ 66 อินทรีมรกต เปลี่ยนตัวส่ง ซันเดย์ เอ็มบา ลงสนามมาแทน จอห์น โอกูชัควู

      นาทีที่ 70 เอดินสัน คาวานี่ ได้บอลหลุดเดี่ยวเข้าไปในเขตโทษ แต่ อูเว่ เอชิจิเล่ ตามมาเบียดแย่งบอลทำให้ ดาวยิงจากนาโปลี ยิงหลุดกรอบออกไป

      นาทีที่ 71 เอเฟ่ อัมโบ ผ่านบอลไปให้ อิเดเย่ บราวน์ ในเขตโทษ มักซิมิเลียโน่ เปเรย์ร่า ตามมาสกัดทิ้งแต่บอลเกือบปลิ้นเข้าประตูตัวเอง

       นาทีที่ 72 ไนจีเรีย เปลี่ยนตัวคนสุดท้าย โจเซป อั๊คปาล่า ลงมาแทน อิเดเย่ บราวน์

       และเพียงแค่สองนาที โจเซป อั๊คปาล่า ที่เพิ่งลงสนามมาก็โดนใบเหลืองหลังไปเตะ หลุยส์ ซัวเรซ 

      นาทีที่ 76 ทีมจอมโหดน่าจะได้ประตูหนีห่างจากลูกตั้งเตะระยะ 30 หลา ดีเอโก้ ฟอร์ลัน บรรจงเปิดไปให้ เอดินสัน คาวานี่ ได้โขกคนเดียวโล่งๆแบบไร้ตัวประกบ แต่ คาวานี่ ดันโหม่งหลุดกรอบออกไปอย่างน่าเสียดาย

       นาที ที่ 79 ดีเอโก้ ลูกาโน่ กองหลังกีปตันทีมรับใบเหลืองหลังไปทำฟาวล์ใส่ โจเซป อั๊คปาล่า ทำให้เจ้าตัวจะอดลงสนามในเกมสุดท้ายเนื่องจากสะสมใบเหลืองครบสอง ใบ

       นาทีที่ 83 อุรุกวัย เล่นรัดกุมโดยถอด หลุยส์ ซัวเรซ ที่เป็นกองหน้าออกและส่ง เซบาสเตียน โคอาเตส ลงสนามมาแทน

       นาทีที่ 84 เซบาสเตียน โคอาเตส ก็โดนใบเหลืองหลังไปเจตนาหยุดเกมใส่ อาห์เหม็ด มูซ่า ที่ใช้ความเร็วลากบอลเข้าเขตโทษ

       นาทีที่ 88  อุรุกวัย เปลี่ยนผู้เล่นอีกคนโดยส่ง อัลวาโร่ เปเรย์ร่า ลงสนามมาแทน คริสเตียน โรดริเกซ

      เข้าสู่ช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีแรก ไนจีเรีย ได้ลุ้นอีกครั้งจากลูกยิงไกลริมเส้นเขตโทษฝั่งขวาของ มิเชล บาบาทุนเด้ แต่ เฟร์นานโด มุสเลร่า ล้มตัวรับเข้าซองไว้ได้

      ช่วงเวลา ที่เหลือทั้งสองทีมเปิดเกมแลกกันสนุก แต่ไม่มีฝ่ายใดบวกประตูเพิ่มกันได้ จบเกม อุรุกวัย เป็นฝ่ายเอาชนะ ไนจีเรีย 2-1 เก็บสามแต้ม กลับมามีลุ้นเข้ารอบในนัดสุดท้าย เช่นเดียวกับ ไนจีเรีย ที่ต้องไปลุ้นแย่งกันเข้ารอบในเกมสุดท้าย

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

         ไนจีเรีย(4-3-3) : วินเซนต์ เอ็นเยียม่า ; อูเว่ เอชิจิเล่, ก็อดฟรี่ โอบัวโบน่า, จอห์น โอกูชัควู, เอเฟ่ อัมโบรส ; เคนเน็ธ โอเมรูโอ, จอห์น โอบี มิเคล, เฟกอร์ โอกูเด้,  ; อิเดเย่ บราวน์, อาห์เหม็ด มูซ่า, เอ็นนามดี้ โอดูอามาดี้


         อุรุกวัย(4-3-3) : เฟร์นานโด มุสเลร่า ; มาร์ติน กาซาเรส, ดีเอโก้ ลูกาโน่, ดีเอโก้ โกดิน, คริสเตียน โรดริเกซ ; เอคิดิโอ อเรวาโร่ ริออส, มักซิมิเลียโน่ เปเรย์ร่า, อัลวาโร่ กอนซาเลซ ; เอดินสัน คาวานี่, ดีเอโก้ ฟอร์ลัน, หลุยส์ ซัวเรซ


         ผู้ตัดสิน : บิยอร์น คุยเปอร์ส (ฮอลแลนด์)

     แมน ออฟ เดอะ แมตช์ : ดีเอโก้ ฟอร์ลัน แม้เกมแรกเจ้าตัวจะได้ลงเพียงแค่ตัวสำรองแต่เกมนี้ได้รับโอกาสลงตัวจริงและ แสดงให้เห็นแล้วว่าเขาคือกำลังหลักของทัพจอมโหดอย่างแท้จริง ด้วยผลงานจ่ายบอลให้เพื่อนทำประตูในลูกแรก ก่อนรับบทฮีโร่ซัดประตูสำคัญแบบงามหยดช่วยให้ อุรุกวัย เก็บสามแต้มสุดสำคัญกลับมามีลุ้นเข้ารอบในเกมสุดท้ายต่อไป