คุณเคยคิดไหมดาวยิงชั้นนำของยุโรปทุกวันนี้นั้นคุ้มราคาค่าตัวมากน้อยแค่ไหน แต่ละประตูที่พวกเขาทำได้มีมูลค่าเท่าใด โกล ประเทศไทยลองคิดกันมาให้ดูเล่นๆ

ในบรรดานักเตะแต่ละตำแหน่ง ผู้เล่นที่อยู่ในตำแหน่งศูนย์หน้าหรือคนทำหน้าที่ส่งบอลไปกองอยู่ก้นตาข่ายมักจะมีราคาสูงกว่านักเตะในตำแหน่งอื่นๆ อยู่เสมอ เหตุผลหนึ่งเป็นเพราะนักเตะเหล่านี้จะเป็นที่ชื่นชอบของแฟนบอล ซึ่งทำให้มีมูลค่าทางการตลาดมากกว่า

ส่วนอีกเหตุผลหนึ่งก็คือประตูเป็นตัวตัดสินผลการแข่งขัน ไม่ว่าทีมจะเล่นดีแค่ไหน หากทำประตูไม่ได้ก็ไม่มีความหมาย ผู้ที่ประตูได้มากๆ จึงเป็นตัวตัดสินแพ้-ชนะได้อย่างชัดเจนที่สุดตำแหน่งหนึ่ง

เราจึงลองทำสกู๊ปชิ้นนี้ขึ้นมา เพื่อคำนวณเล่นๆ ว่าบรรดาดาวยิงที่เราคุ้นหน้าคุ้นตากันดีนั้น ประตูของพวกเขามีค่าเท่าใด โดยอ้างอิงสถิติทั้งเรื่องค่าตัวและจำนวนประตูที่ทำได้ (นับเฉพาะในลีก) จาก soccerway.com

จริงอยู่ การวัดค่าเพียงเท่านี้ไม่อาจประเมินราคาของนักเตะได้อย่างเที่ยงตรงเสมอไป เพราะมันขึ้นอยู่กับปัจจัยอีกหลายประการ อาทิ ตำแหน่งที่ได้เล่น โอกาสในการลงสนาม ไปจนถึงบทบาทอื่นที่นักเตะรายนั้นๆ ต้องทำตามแท็คติก

แต่เพื่อไม่ให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบกันเกินไป เราจึงขอนับเฉพาะสถิติในลีก ซึ่งทุกทีมมีโอกาสลงเล่นในจำนวนนัดใกล้เคียงกัน ไม่นับบอลถ้วยหรือทัวร์นาเมนต์อื่นๆ เพราะทีมใหญ่จะได้เข้ารอบลึกๆ มากกว่า รวมถึงจะประเมินราคาโดยตัดตอนเฉพาะช่วงที่ค้าแข้งอยู่กับสโมสรใดสโมสรหนึ่งเท่านั้น ไม่รวมตลอดชีวิตค้าแข้ง เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนว่าสโมสรนั้นจ่ายค่าตัวไปแล้ว ได้ผลตอบรับกลับมาคุ้มค่ามากน้อยแค่ไหน

1. คริสเตียโน โรนัลโด้ (เรอัล มาดริด)

ปีกชาวโปรตุกีสย้ายมาอยู่ในซานติอาโก้ เบร์นาบิว ด้วยค่าตัวที่เป็นสถิติโลก 94 ล้านยูโร ก่อนที่จะถูกแกเร็ธ เบล ทำลายสถิติดังกล่าวไปเมื่อไม่นานมานี้ แต่สำหรับสาวกราชันชุดขาวแล้ว เชื่อว่าทุกคนคงคิดตรงกันว่า โรนัลโด้คืนทุกอย่างให้คุ้มค่าแล้วกับจำนวนประตูที่เขากระหน่ำไปตลอด 138 นัด

คู่แข่งตลอดกาลของลิโอเนล เมสซี ทำไปได้ถึง 147 ประตู หรือคิดเป็นประตูละ 639,455 ยูโร ถ้าดูจากอัตราเฉลี่ยที่เขาทำได้ในแต่ละฤดูกาล เป็นไปได้อย่างยิ่งว่าแฟนๆ มาดริดจะยิ่งรู้สึกว่าเขาคือการลงทุนที่สุดคุ้มค่า แม้จะเคยมีราคาในระดับสถิติโลกก็ตาม

2. เอดินสัน คาวานี (นาโปลี)

กองหน้าทีมชาติอุรุกวัยเป็นดาวยิงชั้นนำของยุโรปอีกรายที่เพิ่งย้ายทีมเมื่อช่วงหน้าร้อนที่ผ่านมา เราจึงต้องประเมินผลงานของเขากับสโมสรเก่าอย่างนาโปลีเป็นหลัก ซึ่งจากผลงาน 2 ฤดูกาล 52 ประตู ก็ทำให้ประตูของเรามีราคา 307,692 ยูโร

อย่างไรก็ดี อย่าลืมว่าก่อนหน้านั้นหนึ่งฤดูกาล คาวานีถูกยืมตัวมาเล่นที่เนเปิลส์มาก่อนแล้ว แถมยิงไปถึง 26 ประตู ถ้าเรานับรวมสถิติตรงนี้ด้วย ราคาของเขาจะตกอยู่ที่ประตูละ 205,128 ยูโรเท่านั้น

ที่สำคัญ อย่าลืมว่าการขายคาวานีออกจากทีมทำให้นาโปลีได้เงินเข้ามาในสโมสรถึง 64 ล้านยูโรทีเดียว

3. โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ (โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์)

ดาวยิงโปแลนด์ย้ายตาก เลช ปอซนาน มาสร้างชื่อในบุนเดสลีกากับโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ได้อย่างยอดเยี่ยม แม้ฤดูกาลแรกของเขาจะเริ่มต้นจากตะกุกตะกักไปบ้าง เมื่อทำได้เพียง 8 ประตูจาก 33 นัด

แต่ทันทีที่ขึ้นฤดูกาลที่สอง เลวานดอฟสกี้ก็กลายเป็นแถวหน้าของยุโรปอย่างรวดเร็ว เมื่อซัดไป 22 ประตูเฉพาะในลีก และเมื่อรวมจนถึงตอนนี้ เขาก็ยิงให้เสือเหลืองไปทั้งสิ้น 56 ประตูแล้ว เมื่อหารจากค่าตัว 4.8 ล้านยูโร ก็เท่ากับว่าราคาเพียงประตูละ 85,714 ยูโร เท่านั้น

4. ซลาตัน อิบราฮิโมวิช (ปารีส แซงต์ แชร์กแมง)

แม้อายุอานามของกองหน้าสวีดิชจะไม่ใช่น้อยๆ แล้วในตอนนี้ แต่ความสามารถของเขาก็ยังเป็นที่ยอมรับอยู่เสมอ เมื่อปารีส แซงต์ แชร์กแมง ยอมจ่ายเงินถึง 21 ล้านยูโร เพื่อเป็นค่าตัวของเขาเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา

อย่างไรก็ดี การลงทุนครั้งนี้ก็ถือได้ว่าคุ้มค่าไม่น้อย เมื่ออิบราฮิโมวิช ซัดไปถึง 31 ประตู จาก 38 นัด คิดเป็นเงินได้ 677,419 ยูโรต่อประตู และน่าจะคุ้มค่ากว่านี้ หากเขายังส่งบอลไปกองอยู่ก้นตาข่ายได้อย่างสม่ำเสมอ

5. ราดาเมล ฟัลเกา (แอตเลติโก มาดริด)

กองหน้าใหม่เอี่ยมอ่องของโมนาโก คงยังไม่มีทางคุ้มค่ากับค่าตัวที่ทีมน้องใหม่ลีกเอิงจ่ายไป เมื่อเขาเพิ่งมีโอกาสได้ลงสนามเพียง 4 นัด เราจึงขอพาย้อนกลับไปประเมินผลงานในทีมเก่าของเขาอย่างแอตเลติโก มาดริด แทน

สมัยอยู่กับตราหมี ดาวยิงโคลอมเบียยิงได้ถึง 52 ประตู จาก 68 นัด คิดเป็นประตูละ 769,230 ยูโร ทั้งที่เล่นเพียง 2 ฤดูกาลเท่านั้นบนแผ่นดินสเปน ก่อนจะคืนกำไรให้สโมสรด้วยเงินอีก 60 ล้านยูโร ที่โมนาโกประเคนให้เป็นค่าตัว

6. โรบิน ฟาน เพอร์ซี (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)

ดาวยิงดัตช์เป็นขวัญใจคนใหม่ในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ที่เข้ามาแทนที่เวย์น รูนีย์ อย่างรวดเร็วเมื่อฤดูกาลที่แล้ว หลังจากย้ายจากอาร์เซนอล มาไขว่คว้าความสำเร็จกับทีมปีศาจแดงด้วยค่าตัว 25.5 ล้านยูโร

จนถึงปัจจุบัน ฟาน เพอร์ซี ลงสนามไป 41 นัด ยิงได้ 28 ประตู เมื่อหารจากค่าตัวของเขาแล้ว แม้จะยังสูงถึงประตูละ 910,714 ยูโร แต่เชื่อว่าแฟนบอลยูไนเต็ดคงไม่มีใครกล้าบ่นออกมาดังๆ เมื่อแต่ละประตูที่ยิงได้ของเขา มีความหมายต่อแชมป์พรีเมียร์ลีกเมื่อฤดูกาลที่แล้วอย่างมากทีเดียว

7. หลุยส์ ซัวเรซ (ลิเวอร์พูล)

ดาวยิงอุรุกวัยอาจเริ่มต้นสองฤดูกาลแรกได้ไม่เปรี้ยงปร้างนักในจังหวะส่งบอลเข้าไปกองอยู่ก้นตาข่าย เมื่อทำได้เพียง 15 ประตู ก่อนที่ฤดูกาลล่าสุดจะระเบิดฟอร์มเก่ง ยิงไป 23 ประตูในลีก หวิดจะได้ลุ้นดาวซัลโวพรีเมียร์ลีกไปถึงนัดสุดท้าย หากไม่เจอโทษแบนยาวเพราะไปกัด บลานิสลาฟ อิวาโนวิช เสียก่อน

แม้เมื่อหารกับค่าตัวแล้ว ณ ตอนนี้ ประตูของดาวยิงอุรุกวัยจะมีราคาลูกละ 697,368 ยูโร แต่เชื่อแน่ว่าหากเขายังรักษาฟอร์มแบบเมื่อฤดูกาลที่แล้วไว้ได้ ราคาที่เห็นอยู่คงจะถูกลงอีกมากทีเดียว

8. แกเร็ธ เบล (ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ส)

จากดาวรุ่งทีมนักบุญสู่นักเตะค่าตัวแพงที่สุดในโลก ชีวิตของแบ็คซ้ายชาวเวลส์ผู้ผันตัวมาเป็นปีกและแจ้งเกิดอย่างเต็มตัวในถิ่นไวท์ ฮาร์ต เลน โดยเฉพาะเมื่อฤดูกาลที่แล้วที่เขาคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของพีเอฟเอ มาครองได้สำเร็จ

จริงอยู่เขาอาจไม่ได้เป็นศูนย์หน้าหรือจอมถล่มประตูมาตั้งแต่เริ่ม แต่พัฒนาการของเขาในช่วง 2-3 ฤดูกาลหลังถือว่าน่าจับตามองเป็นอย่างยิ่ง สถิติเฉลี่ยประตูละ 341,860 ยูโร ก็ถือว่าไม่เลวทีเดียว และอย่าลืมว่านั่นยังไม่บวก 100 ล้านยูโร ที่ทีมของ ดาเนียล เลวี ได้มา ตอนปล่อยนักเตะให้เรอัล มาดริดด้วย

ปัญหาต่อไปก็คือ เขาคงต้องเค้นฟอร์มออกมาให้ได้ยิ่งกว่านี้อีกมาก หากอยากคุ้มค่าตัวที่ซานติอาโก้ เบร์นาบิว

9. เวย์น รูนีย์ (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)

มื่อ 9 ปีที่แล้ว เวย์น รูนีย์ ย้ายจากเอฟเวอร์ตันมาค้าแข้งในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ด้วยค่าตัว 37 ล้านยูโร ซึ่งต้องถือว่าเป็นค่าตัวที่ไม่น้อยเลยในเวลานั้น แต่ตลอดเวลาที่อยู่ที่นี่ เขาก็คือหนึ่งในกำลังสำคัญที่พาทีมคว้าแชมป์มานับไม่ถ้วน จนน่าจะพอถือได้ว่าตอบแทนค่าตัวที่ปีศาจแดงจ่ายไปได้อย่างคุ้มค่า

ดาวยิงวัย 27 ปี ทำไปทั้งสิ้น 141 ประตูเฉพาะในลีก คิดเป็นประตูละ 262,411 ยูโร ซึ่งถูกกว่าค่าเหนื่อยแต่ละสัปดาห์ของตัวเขาเองเสียอีก

10. เฟร์นานโด ตอร์เรส (เชลซี, ลิเวอร์พูล)

ดาวยิงทีมชาติสเปนเคยเป็นขวัญใจในถิ่นแอนฟิลด์มาก่อนและยิงได้ถึง 65 ประตู จาก 102 นัด หรือถ้าคิดเป็นจำนวนเงิน ก็อยู่ที่ประตูละ 584,615 ยูโร แม้จะไม่ถือว่าถูกนัก แต่ต้องอย่าลืมว่าเขาอยู่ที่นี่เพียง 4 ฤดูกาล แถมยังได้กำไรแบบเน้นๆ ด้วยการขายต่อให้เชลซี 58.5 ล้านยูโร

อย่างไรก็ดี เมื่อย้ายถิ่นฐานมาอยู่ที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ ฟอร์มที่เคยยอดเยี่ยมของเขาก็กลับหล่นลงมากราวรูด เมื่อทำได้เพียง 15 ประตูจาก 84 นัด หรือคิดเป็นประตูละถึง 3.9 ล้านยูโร ซื้อริคกี้ แลมเบิร์ต กองหน้าทีมชาติอังกฤษของเซาแธมป์ตันได้ 3 คนเลยทีเดียว