เบรนแดน ร็อดเจอร์ส นายใหญ่ ลิเวอร์พูล หนุน มัลกี้ แม็คคาย กุนซือ คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ หลังตกเป็นข่าวอาจจะโดนเด้งเนื่องจากมีปัญหาไม่กินเส้นกับ วินเซนต์ ตัน เจ้าของทีม ชี้เป็นผู้จัดการทีมที่เก่ง และสร้าง "เดอะ บลูเบิร์ดส์" ได้อย่างสุดยอด แต่กลับต้องมาเจอสถานการณ์แย่ๆ พร้อมจวกมหาเศรษฐีชาวมาเลย์ เก่งแต่ทำธุรกิจแต่ไม่รู้เรื่องฟุตบอลแม้แต่นิดเดียว

 เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล ทีมชั้นนำเวทีพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ออกโรงปกป้อง มัลกี้ แม็คคาย กุนซือ คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ ที่มีข่าวลือเกี่ยวกับอนาคตการคุมทีม พร้อมวิจารณ์  วินเซนต์ ตัน เจ้าของสโมสร "เดอะ บลูเบิร์ดส์" ไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับวงการฟุตบอล

  "เดอะ บลูเบิร์ดส์"  มีคิวเยือนถิ่นแอนฟิลด์วันเสาร์ที่ 21 ธ.ค.นี้ โดยตลอดสัปดาห์มีข่าวลือเกี่ยวกับอนาคตของ แม็คคาย เมื่อสื่อรายงานว่าทั้งเขากับ ตัน ทะเลาะกันเกี่ยวกับเรื่องการซื้อขายนักเตะ ส่วนเรื่องความบาดหมางสำคัญเกิดจากการที่บอร์ดบริหารเข้ามาแทรกแซงการทำงานด้วยการไล่ เอียน มูดี้ หัวหน้าฝ่ายการซื้อขายนักเตะออก และคนที่เขามาแทนตำแหน่งเป็นเพื่อนของลูกชายมหาเศรษฐีชาวมาเลเซียซึ่งไม่มีความรู้เกี่ยวกับวงการลูกหนังเลย

 ร็อดเจอร์ส เผยว่า "ผมได้พบกับเรื่องยอดเยี่ยมมากมายในการพูดคุยกับ มัลกี้ ซึ่งผมรู้จักเขาเป็นอย่างดีจากการได้ทำงานร่วมกับเขาที่วัตฟอร์ด ผมแปลกใจจริงๆ กับสิ่งที่เขาต้องเจอ ผู้ชายคนนี้ (ตัน) เดินเข้ามาสู่ คาร์ดิฟฟ์ หลังจากที่พวกเขาต้องแพ้ในเกมเพลย์ออฟรอบรองชนะเลิศ และพวกเขาก็รอแค่ 2 สัปดาห์ก็ไล่ผู้จัดการทีมเดฟ โจนส์ ออกโดยตอนนั้นเรา (สวอนซี) ได้เข้ารอบชิง ซึ่งผมมองว่ามันน่าแปลกจริงๆ"

 "มัลกี้ เข้ามาคุมทีมพร้อมกับดึง 10 ผู้เล่นเข้ามาเสริมในช่วงซัมเมอร์นั้น และเขาได้ทำการเปลี่ยนแปลงสภาพจิตใจของสโมสรแห่งนี้ใหม่หมด เขานำพวกเขาทะลุเข้ารอบชิงชนะเลิศ คาร์ลิ่ง คัพ (แคปิตอล วัน คัพ) ตามด้วยการได้อันดับเพลย์ออฟ แต่ก็ต้องผิดหวัง กระนั้นในซีซั่นต่อมาพวกเขาคว้าแชมป์ แชมเปี้ยนชิพ และได้เลื่อนชั้น"

 "เขามีผลงานที่สุดยอดในฤดูกาลนี้ และกำลังได้ไปสวย เขาเป็นผู้จัดการทีมที่เก่งที่ทำงานให้กับสโมสรใหญ่ และผมพบว่ามันเป็นเรื่องที่น่าแปลกจริงๆ ที่มีการพูดกันว่าเขากำลังจะอำลาทีม ผมเคยทำงานร่วมกับ เอียน มูดี้ ที่วัตฟอร์ด ซึ่งเป็นหนึ่งในคนเก่งมากๆ ที่คุณเคยพบเจอ"

 "บทสรุปของผมก็คือคุณมีนักธุรกิจที่เข้ามาบริหารสโมสรซึ่งไม่รู้เรื่องอะไรเลยเกี่ยวกับฟุตบอลเลย แน่นอนว่าเขาเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ ซึ่งต้องขอแสดงความยินดีกับเรื่องนี้ แต่ฟุตบอลมันไม่เหมือนกับธุรกิจอื่นๆ เมื่อผมได้เห็นสิ่งที่ มัลกี้ ต้องกล้ำกลืนอดทน รวมทั้งการเห็นเขาถูกตั้งข้อสงสัยผมว่ามันน่าแปลกมากๆ โดยเฉพาะเมื่อแฟนบอลต่างก็ยกย่อง และให้ความเคารพต่อเขาสำหรับสิ่งที่เขาได้สร้างไว้" อดีตกุนซือสวอนซี ซิตี้ ร่ายยาว