ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » ฟุตบอลไทย » Action Replay : "ซีเกมส์" หนามยอกอกสิงคโปร์ขึ้นจ้าวอาเซียน

Action Replay : "ซีเกมส์" หนามยอกอกสิงคโปร์ขึ้นจ้าวอาเซียน

Posted 20/12/2013 by goal.com

 

ความพ่ายแพ้ต่อทีมชาติไทยเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาดับฝันการชิงชัยเหรียญทองแรกในซีเกมส์ของสิงคโปร์ไปเรียบร้อย เหตุใดนี่จึงเป็นทัวร์นาเมนต์ที่ฝันร้ายของพวกเขา ติดตามที่นี่

 เมื่อสิ้นเสียงนกหวีดสุดท้ายที่สนามธุวันนา สเตเดี้ยม กรุงย่างกุ้ง ประเทศเมียนมาร์ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ทีมชาติไทยของเราก็ผ่านเข้าไปถึงรอบชิงชนะเลิศฟุตบอลซีเกมส์ได้สำเร็จ โดยมีเป้าหมายเพื่อทวงคืนความยิ่งใหญ่ในรายการนี้ให้กลับมาสู่เจ้าของตัว จริงอีกครั้ง หลังจากที่ต้องตกรอบแรกมาอย่างน่าอับอายในสองทัวร์นาเมนต์ล่าสุด

ขณะ ที่แฟนบอลชาวไทยกำลังเฉลิมฉลองกันด้วยความยินดีปรีดา สาวกเมอร์ไลออนส์ทั้งที่ย่างกุ้งและประเทศสิงคโปร์ก็ต้องยอมรับอย่างเงียบ งันว่า นี่เป็นอีกครั้งที่ทีมสิงโตทะเลไปไม่ถึงฝั่งฝันในมหกรรมกีฬาที่ใหญ่ที่สุด ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พวกเขายังไม่เคยได้ลิ้มรสชาติเหรียญทองในรายการนี้เลย นับตั้งแต่เข้าร่วมแข่งขันเมื่อปี 1971 เป็นต้นมา

ความล้มเหลวในกีฬา ซีเกมส์เป็นอีกหนึ่งรอยแผลสำคัญที่ทำให้สิงคโปร์ไม่อาจประกาศได้อย่างเต็ม ปากเต็มคำว่า พวกเขาเป็นหนึ่งในมหาอำนาจอาเซียนเรื่องฟุตบอล ไม่ว่าในฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติอาเซียน หรือ เอเอฟเอฟ คัพ (ซูซูกิ คัพ ในปัจจุบัน หรือไทเกอร์ส คัพ เดิม) เมอร์ไลออนส์จะประสบความสำเร็จมาแล้วแค่ไหนก็ตาม


 โอนสัญชาติ?
เป็นคำที่เราได้ยินกันมานาน ว่าชาตินั้นโอนสัญชาตินักเตะชาตินี้ เพียงแต่ว่า มันอาจะเป็นตำที่ไม่ตรงตามความหมายนัก

นับ ตั้งแต่ฟีฟ่ายับยั้งการลงเล่นให้ทีมชาติกาตาร์ของไอล์ตัน กองหน้าบราซิลเลี่ยน เงื่อนไขสำหรับการลงเล่นให้ทีมชาติใดทีมชาติหนึ่งก็เข้มงวดชัดเจนขึ้น ผู้เล่นจำเป็นจะต้องมีความเกี่ยวพันกับชาตินั้น ๆ ในระดับที่ผ่านเกณฑ์ รวมถึงต้องไม่ผ่านการเล่นให้ทีมชาติอื่นในระดับอายุเดียวกันมาก่อน

จึง อาจพูดได้ว่า "สัญชาติ" ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ เนื่องในความเป็นจริง การมีมากกว่าหนึ่งสัญชาติของบุคคลไม่ใช่เรื่องแปลก แต่กฎของฟีฟ่า ยอมให้ผู้เล่น "สังกัดสมาคมฟุตบอล" เพียงสมาคมเดียวเท่านั้น และการจะเลือกสังกัดสมาคมฟุตบอลของประเทศใด ๆ ผู้เล่นก็จำเป็นจะต้องมีคุณสมบัติครบถ้วนอยู่ก่อนแล้ว

กล่าวคือไม่มี "สัญชาติ" ของใครถูกโอน แต่การเลือกชาติ(สมาคม)สังกัด/เปลี่ยนชาติสังกัด คือสิ่งที่เกิดขึ้นจริง ๆ มากกว่า
สี่แชมป์ในเอเอฟเอฟ คัพ กับ ไร้เหรียญทองในซีเกมส์ ช่างเป็นผลงานที่แตกต่างกันราวฟ้ากับเหว จนบางครั้งก็ชวนให้ตั้งข้อสงสัยว่าเพราะเหตุใด ชาติที่เป็นหมายเลขหนึ่งในรายการหนึ่ง กลับกลายเป็นเพียงลูกไล่ในอีกรายการหนึ่ง ด้วยสถิตินับจนถึงปัจจุบันเพียง 3 เหรียญเงิน กับอีก 6 เหรียญทองแดง

หลายคนอาจพุ่งเป้าไปที่การโยก ย้ายชาติสังกัด (หรือที่เรียกกันคุ้นปากว่า โอนสัญชาติ) นักเตะจากต่างแดนเข้ามาช่วยเสริมทัพ แต่ความจริงก็คือ ในทีมชุดแชมป์ เอเอฟเอฟ คัพ เมื่อปีที่แล้ว สิงคโปร์มีนักเตะตัวหลักที่เป็นต่างชาติเพียงไม่กี่ราย แถมยังอยู่ในช่วงปลายของชีวิตค้าแข้งแทบทั้งสิ้น ขณะที่ ชะห์ริล อิสฮาก ดาวเตะยอดเยี่ยมของทัวร์นาเมนต์นั้นเป็นแข้งสิงคโปร์แท้ 100%

คำอธิบายที่น่าจะสมเหตุสมผลกว่าสำหรับกรณีนี้ก็คือ ขุนพลซีเกมส์ของเมอร์ไลออนส์นั้นยังเด็กเกินไปที่จะเล่นฟุตบอลในสไตล์สิงคโปร์

นับ ตั้งแต่พลพรรคไลออนส์ก้าวขึ้นมาท้าทายความยิ่งใหญ่ในรายการเอเอฟเอฟ คัพ เมื่อปี 1998 นอกจากเรื่องการโอนแข้งสัญชาติอื่นเข้ามาช่วยทีม อีกหนึ่งจุดขายสำคัญที่หลายคนรู้กันว่าเป็นเอกลักษณ์ของสิงคโปร์ คือ การเล่นตั้งรับและสวนกลับ พวกเขามีแนวหลังที่แข็งแกร่ง เล่นเป็นวินัย รวมถึงลูกตุกติกเจ้าเล่ห์ในเกมมากมายจนเกือบจะใช้คำว่าสกปรกได้เลยทีเดียวใน หลายๆ โอกาส

นอก จากนี้ เคนเนธ โฮ กองบรรณาธิการของ โกล สิงคโปร์ ยังเคยเขียนบทความที่น่าสนใจเอาไว้ว่า สิงคโปร์เป็นชาติที่ทำผลงานได้ดีเสมอเวลาตกเป็นทีมรอง พวกเขาจะมีความมุ่งมั่นเป็นพิเศษที่จะเอาชนะ และมักจะประสบความสำเร็จภายใต้สถานการณ์แบบนี้เสมอ

คุณสมบัติ เหล่านี้เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของสิงคโปร์ เป็นอาวุธที่ใช้ต่อกรและกำราบทุกชาติยามชิงชัยในเอเอฟเอฟ คัพ ขณะเดียวกันก็เป็นอุปสรรคใหญ่หลวงที่ส่งผลให้พวกเขาไม่ประสบความสำเร็จใน รายการระดับเยาวชนอย่างซีเกมส์

ไม่มีใครปฏิเสธ ประสิทธิภาพของแท็กติกตั้งรับแล้วสวนกลับ ทุกคนรู้ดีว่านี่คือแผนการที่อันตรายที่สุดแผนหนึ่งในวงการฟุตบอล เป็นอาวุธที่ทีมซึ่งเป็นรองด้านเทคนิคใช้ต่อกรกับทีมที่เหนือกว่าแล้วได้ผล อย่างสม่ำเสมอ เหมือนเช่นกรีซในเวอร์ชัน เทพนิยาย ยูโร 2004 ซึ่งปราบทั้ง แชมป์เก่า (ฝรั่งเศส), เต็งหนึ่ง (เช็ค) และเจ้าภาพ (โปรตุเกส) ก่อนจะได้ชูถ้วยรางวัลอันยิ่งใหญ่ในบั้นปลาย

อย่างไรก็ดี นี่คือแท็กติกที่ต้องอาศัยสมาธิค่อนข้างสูง เพราะหากพลั้งเผลอไปเพียงวินาทีเดียวก็อาจส่งผลเสียหายต่อทีมใหญ่หลวง ตัวอย่างใกล้ๆ ตัว เช่น จังหวะที่ซอฟวาน บาฮารุดดีน กองหลังของสิงคโปร์ สื่อสารกับ อิซวาน มาห์บุด ผู้รักษาประตูได้ไม่ดีพอ จนนำมาสู่จุดโทษตัดสินเกมเมื่อคืนที่ผ่านมา


การ ตั้งรับอย่างมีวินัย, รักษาสมาธิให้มั่นคงตลอดทั้งเกม รวมถึงจิตใจที่ฮึดสู้ไม่ยอมแพ้ไม่ว่าอยู่ในสถานการณ์แบบไหน อาจเป็นภาระที่หนักเกินไปสำหรับเด็กอายุไม่เกิน 23 ปี เช่นเดียวกับการเล่นลูกตุกติก ทำฟาล์ว รวมถึงป่วนสมาธิฝั่งตรงข้ามด้วยกลเม็ดใดๆ ก็ตามในสนาม ก็จำเป็นต้องอาศัยประสบการณ์ในสนามระดับหนึ่ง ซึ่งนั่นไม่ใช่เรื่องของทีมเยาวชนเลย

ฟุตบอลเยาวชนคือทัวร์นา เมนต์ที่วัดกันด้วยเทคนิคเป็นหลัก หากขยับขึ้นไปมองการแข่งขันในระดับโลก ไม่ว่าจะเป็น ฟูตบอลโลก U20 หรือ ยูโร U21 แม้กระทั่งในฟุตบอลโอลิมปิค จะเห็นภาพได้ชัดเจนขึ้นว่า แชมป์ของทัวร์นาเมนต์เหล่านี้ มักตกเป็นของชาติที่เทคนิคดี เช่น บราซิล, อาร์เจนตินา หรือสเปน อยู่เสมอ ซึ่งนั่นก็อยู่ภายใต้เหตุผลเดียวกัน คือ นี่ไม่ใช่เวทีสำหรับฟุตบอลที่เน้นแท็กติกเพรียวๆ

บางคนอาจเถียง ว่า อิตาลี ซึ่งมีลักษณะหลายอย่างคล้ายสิงคโปร์ จนแทบจะเรียกได้ว่าเป็นฝาแฝดกันในระดับโลก ยังสามารถคว้า ยูโร U21 มาครองได้ถึง 5 สมัย (มากที่สุดในรายการนี้) แต่อย่าลืมว่าขุนพลอัซซูรีน้อยนั้น เคยปั้นดาวเด่นมาแล้วหลายราย ตัวอย่างเช่น ฟาบิโอ คันนาวาโร นักเตะยอดเยี่ยมของปี 1996 หรือ อันเดรีย ปิร์โล นักเตะยอดเยี่ยมในปี 2000 เป็นต้น



ยิ่ง ถ้าลองดูนับตั้งแต่ปี 2001 ที่ซีเกมส์เปลี่ยนมาใช้นักเตะอายุไม่เกิน 23 ปีเป็นหลัก สิงคโปร์เข้าร่วมแข่งขันมาแล้ว 7 ครั้ง ตกรอบแรก 4 ครั้ง ได้เหรียญทองแดง 2 ครั้ง และเพิ่งตกรอบรองชนะเลิศอีก 1 ครั้งมาหมาดๆ ขณะที่ในเอเอฟเอฟ คัพ ช่วงเวลาเดียวกัน เมอร์ไลออนส์ได้แชมป์ถึง 3 ครั้งด้วยกัน

ทั้งหมดนี้ คือข้อพิสูจน์ว่าไลออนส์ จูเนียร์ ยังเด็กเกินไป ที่จะเล่นฟุตบอลในสไตล์ที่พวกเขาเป็นได้อย่างสมบูรณ์ และหากไม่มีการแก้ไขในจุดนี้ มหกรรมกีฬาอาเซียนอย่างซีเกมส์ก็อาจจะเป็นเวทีที่พวกเขาไม่มีวันได้ลิ้มรส ความสำเร็จอย่างชื่นบานไปตลอดกาล

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »