ฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ 
 

วันจันทร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ 2557 

 แมนฯซิตี้ 0-1 เชลซี

สนาม: เอติฮัด สเตเดี้ยม, (แมนเชสเตอร์, อังกฤษ)
 
         เปิดเกมครึ่งแรกมาได้แค่ 3 นาที ทัพเรือใบ ได้ลุ้นก่อน เมื่อ อัลบาโร่ เนเกรโด้ โชว์ความแกร่งเบียด แกรี่ เคฮิลล์ กองหลังเชลซี หลุดเข้าไปทางกรอบเขตโทษด้านซ้าย ก่อนสับไกยิงข้ามคานไป
 
         หลังจากนั้นห้านาที เชลซี สวนขึ้นมาบ้าง แว็งซ็องต์ ก็องปานี ปราการหลังแมนฯซิตี้ กับ มาติย่า นาสตาซิซ วิ่งเข้ารุมสกัดวิลเลี่ยน แต่ดันไปชนกันเองจนบอลทะลักออกหลังไป เสียลูกเตะมุม แต่สิงห์บลูส์ฉวยโอกาสจากจังหวะนี้ไม่ได้
 
         ผ่านมา 10 นาที อเล็กซานเดอร์ โคลารอฟ วิงแบ็คของแมนฯซิตี้ ดันขึ้นมาผ่านบอลจากทางด้านซ้าย แต่ ยาย่า ตูเร่ พุ่งเข้าชาร์จไม่ทัน ไม่งั้นเป็นสกอร์แน่ๆ
 
         สองนาทีต่อมา เรือใบสีฟ้า ได้ลุ้นอีกครั้ง เฆซุส นาบาส เปิดมุมเข้ามาให้กับ เนเกรโด้ โหม่งไม่ตรงกรอบ
 
         เจ้าถิ่นครองเกมข้างเดียวแล้ว เฆซุส นาบาส เปิดจากกราบขวาเข้ามากลางให้กับ ยาย่า ตูเร่ ตะบันด้วยขวาจากริมกรอบเขตโทษบอลเหินข้ามคานไปนิดเดียวเท่านั้น
 
         เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 18 แมนฯซิตี้ น่าได้ประตูขึ้นนำอย่างยิ่ง เมื่อ ยาย่า ตูเร่ ใช้ตัวบังบอลไว้ในกรอบเขตโทษด้านซ้ายแล้วจ่ายสั้นๆเข้าในให้กับ ดาบิด ซิลบา แปจากระยะแค่ 6 หลาหลุดเสาไกลไปนิดเดียว
 
         ถัดมาสองนาที ซามูแอล เอโต้ กองหน้าเชลซี เจอช่องเลยซัดทันที แต่ โจ ฮาร์ท นายทวารแมนฯซิตี้ รับไว้ได้แบบสบายๆ
 
         เรือใบสีฟ้าลุยขึ้นมาอีกครั้ง เอดิน เชโก้ ล็อคหลบ ลุยซ์ แล้วปั่นด้วยซ้ายจากริมกรอบเขตโทษบอลเด้งพื้นหลุดเสาสองไปในนาทีที่ 22
 
         เกมสนุกทีเดียว เรือใบ ได้โอกาสอีกครั้ง โคลารอฟ โยนจากทางด้านซ้ายบอลโดนสกัดมาเข้าทาง ดาบิด ซิลบา เอียงตัววอลเลย์ไปติดตัวของ เคฮิลล์ ออกหลังไปในนาที 26
 
         นาทีต่อมา เชลซี น่าจะได้ประตู เมื่อโต้กลับเร็วหลุดขึ้นมาทาง วิลเลี่ยน ไหลออกซ้ายให้กับ รามิเรส ที่วิ่งตีคู่กันมายิงด้วยขวาไปติดเซฟ โจ ฮาร์ท นายทวารแมนฯซิตี้ บอลมาทาง วิลเลี่ยน พักอกแล้วตีลังกายิงบอลข้ามคานไป
 
         อย่างไรก็ตาม สิงห์บลูส์ มาได้ประตูขึ้นนำก่อนจนได้ในนาทีที่ 32 จากจังหวะที่ บรานิสลาฟ อิวาโนวิช ได้บอลทางด้านขวาแปกระแทกขึ้นหน้าให้กับ เอแด็น อาซาร์ สอดมารับบอลแล้วเปิดเข้ากลางให้กับ รามิเรส ยิงติดบล็อคของ แว็งซ็องต์ ก็องปานี ปราการหลังแมนฯซิตี้ ที่ทิ้งตัวขวางไว้บอลเด้งมาทาง บรานิสลาฟ อิวาโนวิช ยิงสวนด้วยซ้ายบอลพุ่งวาบเสียบมุมเข้าไปให้ เชลซี นำก่อน 1-0
 
         สามนาทีต่อมา เชลซี เกือบได้ประตูที่สอง เอโต้ จะให้ บอลไปที่ วิลเลี่ยน แต่โดน ซาบาเลต้า มาตัดไว้ได้แต่บอลทะลักมาทาง อาซาร์ ยิงด้วยขวาเน้นๆ แต่ โจ ฮาร์ท นายทวารเจ้าบ้านล้มตัวรับไว้ได้
 
         มาถึงนาทีที่ 41 แมนฯซิตี้ มีโอกาสอีกจากจังหวะที่ เอดิน เชโก้ จับบอลแล้วยิงด้วยขวาแต่วางเท้าไม่ดี บอลเลยข้ามคานไป
 
         จังหวะสวนของเชลซีอันตรายสุดขั้ว เกือบได้ประตูเพิ่มในนาทีที่ 44 เมื่อ เอแด็น อาซาร์ กระชากบอลขึ้นทางซ้ายไปจนสุดเส้นแล้วตบเข้ากลางบอลเลยมาทางเสาสอง ซามูแอล เอโต้ วิ่งมาแปด้วยขวาบอลไปชนคานอย่างน่าเสียดาย หมดครึ่งแรก เชลซี นำก่อน 1-0 
 
         เข้าสู่ครึ่งหลังได้แค่ 2 นาที เจ้าบ้านบุกทันที ปาโบล ซาบาเลต้า โยนให้กับ เอดิน เชโก้ โขกหลุดกรอบประตูออกไป
 
         จากนั้นนาที 51 แมนฯซิตี้ ยังบุกต่อ เชโก้ ไหลให้กับ ยาย่า ตูเร่ ฮาล์ฟวอลเลย์บอลหลุดเสาไกลออกไป
 
         ถัดมาสองนาทีเป็นโอกาสของเชลซีบ้าง เนมานย่า มาติช เก็บบอลได้แล้วลองส่องด้วยซ้ายจากระยะ 30 หลาบอลพุ่งวาบไปชนคานออกมาอย่างน่าเสียดาย
 
         กระเถิบมานาทีที่ 57 แมนฯซิตี้ แก้เกมด้วยการส่ง สเตฟาน โยเวติช ลงมาเล่นแทน อัลบาโร่ เนเกรโด้ ในแนวรุก
 
         สี่นาทีให้หลัง แมนฯซิตี้ ได้ฟรีคิกระยะประมาณ 35 หลา อเล็กซานเดอร์ โคลารอฟ ปั่นโค้งด้วยซ้ายบอลข้ามคานไป
 
         เชลซี น่าจะได้ประตูที่สองอย่างยิ่ง เมื่อ วิลเลี่ยน เปิดลูกเตะมุมจากทางด้านขวาให้กับ แกรี่ เคฮิลล์ เทคตัวขึ้นโหม่งบอลย้อยไปชนเสาเต็มๆ ในนาทีที่ 67
 
         นาทีต่อมา แมนฯซิตี้ โต้กลับเร็ว มีโอกาสได้ประตูตีเสมอ เมื่อ โยเวติช ให้บอลออกมาทางกรอบเขตโทษด้านซ้าย เชโก้ ตวัดยิงด้วยซ้ายหักข้อแต่ไปติดการป้องกันของ แกรี่ เคฮิลล์ อีกครั้ง
 
         ท้ายเกมนาทีที่ 73 เรือใบสีฟ้า ได้ฟรีคิกระยะหวังผลทางหน้ากรอบเขตโทษด้านขวา ดาบิด ซิลบา ปั่นจะเข้าสามเหลี่ยมอยู่แล้ว แต่ ปีเตอร์ เช็ก นายทวารเชลซี ลอยตัวปัดข้ามคานไปได้อย่างไม่น่าเชื่อ
 
         สองนาทีต่อมา เจ้าบ้านมาอีกครั้ง โคลารอฟ เปิดจากซ้ายเข้ากลางให้กับ ดาบิด ซิลบา แปหลุดเสาแรกไปอย่างน่าเสียดาย
 
         นาทีที่ 93 เจ้าบ้านน่าจะได้ประตูตีเสมออีกครั้ง สเตฟาน โยเวติช ได้ยิงด้วยขวาจากหน้าเขตโทษบอลพุ่งเต็มแรงเข้าหาประตู แต่ ปีเตอร์ เช็ก ยังไวปัดออกหลังไปได้อย่างเหลือเชื่อ 
 
         ครบ 90 นาที เชลซี บุกมาเอาชนะ 1-0 เก็บสามแต้มสำคัญทำแต้มขึ้นมาเท่ากับ แมนฯซิตี้ แล้ว แต่ประตูได้เสียเป็นรอง เลยรั้งอันดับ 3 ตามเดิม
 
         รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม 
         แมนฯซิตี้: โจ ฮาร์ท - ปาโบล ซาบาเลต้า, แว็งซ็องต์ ก็องปานี (กัปตันทีม), มาติย่า นาสตาซิซ, อเล็กซานเดอร์ โคลารอฟ - เฆซุส นาบาส, มาร์ติน เดมิเคลิส, ยาย่า ตูเร่, ดาบิด ซิลบา - เอดิน เชโก้, อัลบาโร่ เนเกรโด้ 
         สำรอง: คอสเตล ปานติลิม่อน (ผู้รักษาประตู) - เดดริค โบยาต้า, มาร์กอส โลเปส, สเตฟาน โยเวติช, กาแอล กลิชี่, แจ็ค ร็อดเวลล์, เจมส์ มิลเนอร์
 
         เชลซี: ปีเตอร์ เช็ก - บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, แกรี่ เคฮิลล์, จอห์น เทอร์รี่ (กัปตันทีม), เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า - รามิเรส, ดาวิด ลุยซ์, เนมานย่า มาติช - วิลเลี่ยน, ซามูแอล เอโต้, เอแด็น อาซาร์ 
         สำรอง: มาร์ค ชวาร์เซอร์ (ผู้รักษาประตู) - แอชลี่ย์ โคล, แฟร็งค์ แลมพาร์ด, ออสการ์, จอห์น โอบี มิเกล, เดมบา บา, โมฮาเหม็ด ซาล่าห์
 
         ผู้ตัดสิน: ไมค์ ดีน