(รอบ 16 ทีมสุดท้าย)

วันจันทร์ที่ 30 มิถุนายน 2557

ฝรั่งเศส - ไนจีเรีย

ถ่ายทอดสด : ทรูสปอร์ต เอชดี 3 (668), TV One Indo, Astro SuperSports, เวลา : 23.00 น.

สนาม : เอสตาดิอู นาซิออนนาล (บราซิเลีย)

 ทีมชาติฝรั่งเศส แชมป์กลุ่มอี. ที่ไม่แพ้ 8 เกมซ้อน จะลงสนามพบ ไนจีเรีย รองแชมป์กลุ่มเอฟ. ที่  เอสตาดิอู นาซิออนนาล ในบราซิเลีย ศึกฟุตบอลโลก 2014 รอบ 16 ทีมสุดท้าย ที่จะแข่งขันคืนวันจันทร์ที่ 30 มิถุนายนนี้ เวลา 23.00 น.

 ฝรั่งเศส คว้าแชมป์กลุ่มอี. ทำได้ทั้งสิ้น 7 คะแนน ด้วยผลงานชนะ 2 เสมอ 1 นัด เริ่มจากเกมต้อน ฮอนดูรัส 3-0 ที่เอสตาดิอู ไบร่า-ริโอ, ปอร์ตู อเลเกร เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 15 มิถุนายน จากนั้นทีมถล่ม สวิตเซอร์แลนด์ 5-2 ที่อาเรน่า ฟอนเต้ โนวา, ซัลวาดอร์ คืนวันศุกร์ที่ 20 มิถุนายน

 จนมาถึงนัดสุดท้าย "เลส์ เบลอส์" ลงเล่นเมื่อคืนวันพุธ 25 มิถุนายน เสมอ เอกวาดอร์ 0-0 ที่ เอสตาดิอู ดู มาราคาน่า ใน รีโอ เด จาเนโร ซึ่งพวกเขามีผลงานดีกว่า สวิตเซอร์แลนด์ (6 คะแนน), เอกวาดอร์ (4 คะแนน), ฮอนดูรัส (0 คะแนน)

 ส่วน ไนจีเรีย คว้ารองแชมป์กลุ่มเอฟ. ทำได้ 4 คะแนน สถิติเป็นรองเพียง อาร์เจนตินา แชมป์กลุ่ม (9 คะแนน) แต่พวกเขามีผลงานดีกว่า บอสเนีย และเฮอร์เซโกวีนา (3 คะแนน), อิหร่าน (1 คะแนน)

 ผลงานรอบแบ่งกลุ่ม ไนจีเรีย เริ่มต้นด้วยผลเสมอ อิหร่าน 0-0 ที่ อาเรน่า ดา ไบชาด้า, กูรีตีบา คืนวันจันทร์ 16 มิถุนายน ตามด้วยชัยชนะเหนือ บอสเนียฯ 1-0 ที่ อาเรน่า ปานตานาล, กุยาบา วันเสาร์ 21 มิถุนายน และ นัดสุดท้าย ทีมพ่าย อาร์เจนตินา 2-3 ที่ เอสตาดิอู ไบร่า-ริโอ, ปอร์ตู อเลเกร วันพุธ 25 มิถุนายน

 ดีดิเย่ร์ เดส์ชองส์ เซเล็กซิยอนเนอร์ทีมชาติฝรั่งเศสวัย 45 ปี อนุญาติให้ กลุ่มแว็กส์สาวสวยได้เจอสามีและแฟนหนุ่มของพวกเธอ ซึ่งพวกเธอได้เข้าไปเชียร์ทีมในสนามเกมเสมอ เอกวาดอร์ และในรายของ โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ดาวยิงอาร์เซน่อลได้ควง เจนนิเฟอร์ ภรรยาของเขาเดินเล่นชายหาด บาร์ร่า ที่รีโอ เด จาเนโร เช่นเดียวกับ บาการี่ ซาญ่า เดินเล่นที่ชายหาดกับ ลูดิวีน ภรรยาและลูกชาย 2 คน

 เดส์ชองส์ ต้องรอเช็คความฟิตของสองเซนเตอร์ฮาล์ฟ มามาดู ซาโก้ กองหลังลิเวอร์พูลบาดเจ็บกล้ามเนื้อต้นขาซ้าย และ โลร็องต์ กอสซิแอลนี่ ปราการหลังอาร์เซน่อลบาดเจ็บเอ็นร้อยหวาย

 ซาโก้ บาดเจ็บ ระหว่างลงเล่นนัดเสมอ เอกวาดอร์ โดยเขาเล่นในสนามจนถึงนาที 61 จนถูกเปลี่ยนตัวออก และเป็น ราฟาแอล วาราน เซนเตอร์ฮาล์ฟเรอัล มาดริดที่หายจากอาการปวดท้อง ได้ลงเล่นแทน  

 เกมนี้ทีมได้ โยอัน กาบาย มิดฟิลด์ปารีส แซงต์-แชร์กแมงพ้นโทษแบน 1 นัด กลับมาลงสนาม และ ปอล ป็อกบา กองกลางยูเวนตุสหายเจ็บ

 ทางด้าน คาริม เบนเซม่า กองหน้าเรอัล มาดริดวัย 26 ปี ที่คว้าตำแหน่งแมน ออฟ เดอะ แมตช์เกมชนะ ฮอนดูรัส และ สวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเขายิงในทัวร์นาเม้นต์นี้ไปแล้ว 3 ประตู ล้วนเป็นการยิงเท้าขวาทั้งหมด มาถึงเวลานี้เขาทำไปแล้ว 24 ประตู ในการเล่นทีมชาติฝรั่งเศส 69 นัด และเขายิงได้ถึง 9 ประตูจากการเล่น 9 นัดหลังสุดในชุดเลส์ เบลอส์

 "เดเด้" จะจัดทีมในระบบการเล่น 4-3-3 โดยจะเปลี่ยนแปลงทีมจากนัดเสมอ เอกวาดอร์ ซึ่งผู้เล่นที่ลงตัวจริงเกมนี้ทั้ง บาการี่ ซาญ่า, ลูก้าส์ ดีญ, มอร์กกาน ชไนแดร์ลิน, อ็องตวน กรีซมันน์ จะกลับไปนั่งสำรอง พร้อมกับที่ มาติเยอ เดอบูชี่, ปาทริซ เอวร่า, มุสซา ซิสโซโก้, มาติเยอ วัลบูเอน่า จะกลับมาลงตัวจริง

 อูโก้ โยริส กัปตันทีม จะยืนด่านสุดท้าย มาติเยอ เดอบูชี่ กลับมาทำหน้าที่แบ็กขวา วาราน กับ กอสซิแอลนี่ จะเล่นเซนเตอร์ฮาล์ฟ ปาทริซ เอวร่า กลับมาประจำการแบ็กซ้าย

 มุสซา ซิสโซโก้, โยอัน กาบาย, แบลส มาตุยดี้ ประสานงานแดนกลาง มาติเยอ วัลบูเอน่า เล่นปีกขวา คาริม เบนเซม่า เดินเกมรุกทางริมเส้นฝั่งซ้าย โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ เป็นกองหน้าตัวเป้า

 บรรดานักเตะไนจีเรีย ไม่ได้ลงสนามฝึกซ้อมเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 26 มิถุนายน โดยมีข่าวว่า พวกเขาต้องการประท้วง เพื่อเรียกร้องเงินโบนัส อีกทั้งยังมีการประชุมร่วมกันระหว่างผู้เล่น และ สตีเฟ่น เคชี่ โค้ชของทีม เพื่อหาหนทางแก้ไขปัญหานี้

 สภาพทีมล่าสุด เคชี่ ต้องเสีย ไมเคิล บาบาตุนเด้ มิดฟิลด์ตัวรุกวัย 21 ปี บาดเจ็บข้อมือซ้ายหัก ระหว่างลงเล่นนัดแพ้ อาร์เจนตินา โดยถูกเปลี่ยนตัวออกนาที 66 และเป็น ไมเคิล โอเคชุควู อูเชโบ ได้ลงเล่นแทน

 หลังแมตช์ บาบาตุนเด้ ต้องเข้ารับการผ่าตัดที่ข้อมือ หมดสิทธิ์ช่วยทีมในการเล่นทัวร์นาเม้นต์นี้แล้ว แต่เขาไม่ได้เดินทางกลับบ้านในทันที แต่เลือกอยู่กับทีมที่บราซิลต่อไป

 และทีมต้องรอเช็คความฟิตของ ก็อดฟรีย์ โอบัวโบน่า เซนเตอร์ฮาล์ฟบาดเจ็บข้อเท้า จนโดนเปลี่ยนตัวออกตั้งแต่นาทีที่ 29 นัดเจอ อิหร่าน ทำให้ โจเซฟ โยโบ กองหลังจอมเก๋าได้ลงเล่นแทน

 ไนจีเรีย จะเล่นระบบ 4-2-3-1 วินเซนต์ เอ็นเยียม่า ผู้รักษาประตูจาก ลีลล์ กัปตันทีม ที่เคยทำสถิติไม่เสียประตูนาน 1061 นาที หรือไม่เสียประตู 11 นัดซ้อนในลีก เอิง เฝ้าเสา เอเฟ่ อัมโบรส กับ จูวอน โอชานิว่า ยืนแบ็กขวา-แบ็กซ้ายตามลำดับ โอบัวโบน่า, เคนเน็ธ โอเมรูโอ ทำหน้าที่เซนเตอร์ฮาล์ฟคู่กัน

 โอเกนยี่ โอนาซี่, จอห์น โอบี มิเกล คุมแนวรับแดนกลาง อาห์เม็ด มูซ่า, ปีเตอร์ โอเดมวินกี้, วิคเตอร์ โมเสส นำเกมรุก เอ็มมานูเอล เอเมนิเก้ เป็นกองหน้าตัวเป้า

 ทีมชาติไนจีเรีย หวังจะเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลก เป็นครั้งแรก หลังจากทีมผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายมาแล้ว 2 ครั้งเมื่อปี 1994, 1998 ก่อนแพ้ อิตาลี ปี 94 และพ่าย เดนมาร์ก ปี 98

 อีกทั้งยังเป็นครั้งแรกที่ สองชาติจากแอฟริกาก็คือ ไนจีเรีย และ แอลจีเรีย ผ่านเข้ามาเล่นรอบน็อคเอ๊าต์ ฟุตบอลโลก

 ที่ผ่านมาทั้งสองทีมพบกันเพียงครั้งเดียวคือ เกมกระชับมิตรที่ แซงต์-เอเตียน, ฝรั่งเศส เมื่อปี 2009 แต่เป็น ไนจีเรียที่บุกมาชนะ 1-0 จากลูกยิงของ โจเซฟ อั๊คปาล่า กองหน้า

 และผู้ชนะระหว่างคู่นี้จะเข้าไปเจอ ผู้ชนะระหว่าง เยอรมัน หรือ แอลจีเรีย ในการเล่นรอบ 8 ทีมสุดท้าย คืนวันศุกร์ที่ 4 กรกฎาคม เวลา 5 ทุ่มที่ เอสตาดิอู ดู มาราคาน่า, รีโอ เด จาเนโร 

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

 ฝรั่งเศส : อูโก้ โยริส (กัปตันทีม) - มาติเยอ เดอบูชี่, ราฟาแอล วาราน, โลร็องต์ กอสซิแอลนี่, ปาทริซ เอวร่า - มุสซา ซิสโซโก้, โยอัน กาบาย, แบลส มาตุยดี้ - มาติเยอ วัลบูเอน่า, โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์, คาริม เบนเซม่า

 ไนจีเรีย : วินเซนต์ เอ็นเยียม่า (กัปตันทีม) - เอเฟ่ อัมโบรส, ก็อดฟรีย์ โอบัวโบน่า, เคนเน็ธ โอเมรูโอ, จูวอน โอชานิว่า - โอเกนยี่ โอนาซี่, จอห์น โอบี มิเกล - อาห์เม็ด มูซ่า, ปีเตอร์ โอเดมวินกี้, วิคเตอร์ โมเสส - เอ็มมานูเอล เอเมนิเก้

 ผู้ตัดสิน : มาร์ค ไกเกอร์ (สหรัฐอเมริกา)

- นี่คือการพบกันครั้งที่ 2 ระหว่างทั้งสองทีม โดยหนก่อนนั้น ไนจีเรียบุกชนะฝรั่งเศส 1-0 ในเกมกระชับมิตรที่แซงต์-เอเตียน เมื่อเดือนมิถุนายน 2009
- ฝรั่งเศสแพ้ถึง 2 จาก 3 นัดหลังสุดที่เจอทีมแอฟริกาในฟุตบอลโลก (แพ้เซเนกัล 0-1 ปี 2002 และแอฟริกาใต้ 1-2 เมื่อ 4 ปีก่อน) ส่วนอีกเกมชนะโตโก 2-0 เมื่อปี 2006
- ไนจีเรียยิงไม่ได้แค่นัดเดียวเท่านั้นจาก 10 เกมฟุตบอลโลกที่ผ่านมากับทีมยุโรป
- ทีมอินทรีมรกตมีลุ้นทำสถิติเป็นชาติที่ 4 จากแอฟริกาที่ไปไกลถึงรอบก่อนรองชนะเลิศ ต่อจากแคเมอรูน 1990, เซเนกัล 2002 และ กานา 2010
- อย่างไรก็ตาม ไนจีเรียชนะแค่ 1 จาก 11 นัดหลังฟุตบอลโลก
- ไนจีเรียพุ่งชนความปราชัยทั้ง 2 หนหลังที่เข้ามาถึงรอบนี้ (แพ้อิตาลี 1-2 ปี 1994 และเดนมาร์ก 1-4 เมื่อ 1998)
- ฝรั่งเศสได้ทั้ง 8 ประตูฟุตบอลโลกหนนี้จากจังหวะยิงในเขตโทษ
- ทัพตราไก่ได้เฮทั้ง 3 นัดหลังในรอบ 16 ทีมสุดท้ายฟุตบอลโลก (ชนะอิตาลี 2-0 ปี 1986, ปารากวัย 1-0 เมื่อ 1998 และสเปน 3-1 ปี 2006)
- ขุนพลเลส์ เบลอส์ หาโอกาสยิงมากกว่าทุกทีมในรอบแบ่งกลุ่ม (50 ครั้ง, ไม่รวมติดบล็อก)
- วินเซนต์ เอ็นเยียม่า นายทวารไนจีเรีย ทำสถิติไม่เสียประตูมากที่สุดในลีก เอิง ฤดูกาลที่ผ่านมาให้กับลีลล์
- ตลอด 5 หนหลังที่ฝรั่งเศสผ่านรอบแบ่งกลุ่ม พวกเขากรุยทางไปไกลถึงรอบตัดเชือก (1958, 1982, 1986, 1998 และ 2006)
- คาริม เบนเซม่า ยิงไป 9 ประตูจาก 9 เกมหลังให้ฝรั่งเศส รวมถึง 3 ลูกที่ทำได้ในรอบแบ่งกลุ่ม