ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ มิดฟิลด์มดงานทีมชาติอาร์เจนติน่า เผยโชคดีที่สกัดลูกยิงชี้ชะตาของ อาร์เยน ร็อบเบน ปีกความเร็วสูงทีมชาติฮอลแลนด์ ได้ ก่อนที่ "ฟ้าขาว" จะชนะจากการดวลเป้า ในฟุตบอลโลก รอบตัดเชือก เมื่อวันพุธที่ผ่านมา รับตอนแรกคิดว่าจะทำไม่ได้แล้ว พร้อมชี้นัดชิงดำกับ เยอรมัน วันอาทิตย์นี้ สำคัญที่สุดในชีวิตค้าแข้งเลย

ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ กองกลางทีมชาติอาร์เจนติน่า ยอมรับ ไม่คิดจริงๆ ว่าจะสามารถตามไปบล็อกลูกยิงของ อาร์เยน ร็อบเบน ปีกตัวจี๊ดทีมชาติฮอลแลนด์ ในนาทีที่ 90  ของศึกฟุตบอลโลก 2014 รอบรองชนะเลิศ เมื่อวันพุธที่ 9 กรกฎาคมที่ผ่านมา ก่อนที่ "ฟ้า-ขาว" จะชนะ "อัศวินสีส้ม" จากการดวลลูกจุดโทษ 4-2 หลังเสมอในช่วงต่อเวลาพิเศษ 120 นาที 0-0 ผ่านเข้าไปเล่นในรอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จ
 
มิดฟิลด์ทีม "เจ้าบุญทุ่ม" บาร์เซโลน่า กล่าวผ่าน ดิ อินดีเพนเดนท์ สื่อยักษ์ใหญ่แห่งประเทศอังกฤษ ว่า "มันน่ากลัวมาก ผมคิดว่าผมลื่น ผมคิดว่าผมคงบล็อกไม่ได้ ผมคิดว่าคงตามเขาไม่ทัน ผมคิดอะไรฟุ้งซ่านไปหมด แต่ผมก็ตามไปบล็อกจนได้ และเราไม่เสียประตู"
 
กองกลางตัวขยัน กล่าวต่อไปว่า ส่วนหนึ่งที่ทำให้เขาตามไปทัน เพราะ ร็อบเบน เลือกยิงช้าไปหนึ่งจังหวะ "เขาเล่นกับ (เวสลี่ย์) สไนเดอร์ ได้อย่างยอดเยี่ยม แต่เพราะเขาเล่นต่ออีกหนึ่งจังหวะ เขาไม่ยิงตั้งแต่แรก ผมเลยมีโอกาสอีกเสี้ยววินาทีจากการเล่นเพิ่มอีกจังหวะของเขานั่นแหละ"
 
"ผลที่ออกมามันไม่ได้ทำให้ผมแปลกใจนัก ผมแค่ทุ่มสกัดสุดตัว ถ้าผมเล่นผิดจังหวะ มันก็คงจะเป็นจุดโทษอย่างไม่ต้องสงสัย ทุกคนสามารถทำแบบนั้นได้ ผมโชคดีตามทัน ทีมเราโชคดีที่ ร็อบเบน เล่นต่ออีกหนึ่งจังหวะ การเข้าไปในรอบชิงชนะเลิศ คุณต้องพึ่งโชคเล็กน้อย"
 
นอกจากนี้ อดีตกองกลาง ลิเวอร์พูล ยังเผยว่านักเตะในทีมทุกคนทุ่มเททุกอย่างจนตอนนี้เหลือเพียงเอาชนะ เยอรมัน ในรอบชิงชนะเลิศ วันอาทิตย์ที่ 13 กรกฎาคมนี้ เพื่อคว้ามแชมป์มาครองให้ได้เป็นสมัยที่สาม โดยระบุว่า "เราทำสิ่งที่เราต้องทำ เรามีความสงบในการทุ่มเททุกอย่างที่มี่ และเล่นด้วยฟอร์มที่เราเล่น มันเป็นส่วนหนึ่งของทีมนี้ มันเป็นแบบนี้มาหลายปี แต่ตอนนี้ประเทศของเรา และธงชาติของเราได้อยู่ในสายตาของทั้งโลก"
 
"การได้กลับมาเล่นนัดชิงชนะเลิศ ฟุตบอลโลก เกมที่สำคัญที่สุดในอาชีพของพวกเรา มันเป็นความดีใจ เป็นความดีใจที่ช่วยกระตุ้นจิตวิญญาณของคุณ เป็นสิ่งที่คุณไม่สามารถอธิบายได้ สิ่งที่ผมไม่เคยจินตนาการถึง แต่เราทำได้แล้ว" มาสเคราโน่ ทิ้งท้าย