ฟุตบอล » ลีกคัพอื่นๆ » "Third Time Lucky" วันชี้ชะตา
"Third Time Lucky" วันชี้ชะตา
Posted 13/07/2014 by siamsport
แล้วก็มาถึงวันที่สำคัญที่สุดของการแข่งขันฟุตบอลโลก รอบชิงชนะเลิศ ครั้งที่ 20 ที่ทุกคนเฝ้ารอคอย หลังลุ้นผลมาตลอด 1 เดือนของการต่อสู้ช่วงชิง
อาร์เจนตินา ตัวแทนของทวีปอเมริกาใต้ และ เยอรมัน ตัวแทนจากทวีปยุโรป มาเจอกันทำให้ตำแหน่งแชมป์โลกจะยังไม่เคยหลุดจากสองทวีปนี้ต่อไปหลังจากที่ 19 หนก่อนหน้าใช้แชมป์กันไปฝั่งละ 9 และ 10 หนตามลำดับ
นอกจากนี้ การชิงชัยในรอบตัดสินที่ผ่านมา ยังเป็นการต่อสู้กันระหว่างสองทวีปยักษ์ใหญ่นี้อยู่ดี รวมหนนี้ทีมจากอเมริกาใต้เจ้ารอบชิงมาแล้ว 14 ครั้ง ส่วนยุโรป 26 หน มากกว่าเกือบครึ่งต่อครึ่ง
ปีนี้เป็นโอกาสของอาร์เจนตินาที่จะช่วย ให้ "อเมริกาใต้" ตีเสมอในตำแหน่งแชมป์ 10 หนเท่ากัน เพียงแต่ว่าคงต้องถามเยอรมันก่อนว่ายอมไหม เพราะว่าทีม "อินทรีเหล็ก" ดูท่าทางจะเหนือกว่าในทุกกระบวนท่า
สิ่งเดียวที่ทีมฟ้า-ขาวมีดี กว่าก็คือ ลิโอเนล เมสซี่ คนเดียวเท่านั้น ซึ่งที่ผ่านมาก็แสดงให้เห็นแล้วว่ามีจังหวะหลุดจากเกมไปเหมือนกันหลังจากที่ พังประตูในรอบแบ่งกลุ่ม แต่ใน 3 เกมของรอบน็อกเอาต์ไม่มีชื่อของหัวหอกเบอร์ 1 ซึ่งเป็นตัวความหวังขึ้นไปอยู่บนสกอร์บอร์ด
ถือว่าเป็นทั้ง เรื่องดีและไม่ดีในเวลาเดียวกัน ที่ดีก็คือเรามีโอกาสได้เห็นเพื่อนร่วมทีมคนอื่นช่วยแบ่งเบาภาระในการทำ ประตูได้บ้าง แต่ในขณะเดียวกัน ก็เหมือนกับว่าเมสซี่หมดมุกและทีมอื่นจับทางเขาได้แล้ว
ก็อาจจะ เป็นสิ่งที่ช่วยให้อาร์เจนตินามีโอกาสในการพังประตูมากขึ้น กองหน้าจากบาร์เซโลน่าคงจะช่วยดึงตัวประกบไปได้ไม่น้อย เปิดโอกาสให้เพื่อนได้มีพื้นที่ในการเข้าทำบ้างไม่มากก็น้อย และหากมีช่องเจ้าตัวก้พร้อมจะจัดการด้วยตัวเอง
เยอรมันเองก็ไม่ใช่ ว่าไม่มีจุดอ่อนที่แสดงออกมาให้เห็นแล้วในรอบแบ่งกลุ่มกับกานา และรอบ 16 ทีมสุดท้ายที่พบแอลจีเรีย เมื่อทั้งสองทีมสามารถยันเสมอได้ด้วยสไตล์การเล่นที่วิ่ง สู้ ฟัด เข้าประกบเร็วไม่ปล่อยให้ทัพอินทรีเหล็กมีพื้นที่ ไม่ต้องประกบใครเฉพาะ แต่ช่วยกันทั้งทีม
ที่ผ่านมาอาร์เจนตินาคือทีมที่ครองบอลมากกว่า ทีมอื่นๆ ในฟุตบอลโลกหนนี้ ซึ่งอาจจะใช้ในเกมนี้ไม่ได้เพราะเยอรมันเองก็คือทีมที่ครองบอลเหนียวแน่น เช่นกัน ก็ขึ้นอยู่กับเกมรุกแล้วว่าใครจะทำได้ดีกว่า ซึ่งหากมองในเกมที่ผ่านมา ทีมจากเมืองเบียร์ดุดีกว่าแบบชัดเจน
ย้อน กลับไปดูสถิติที่ทั้งคู่เคยเจอกันมาหนแรกต้องย้อนไปตั้งแต่ปี 1986 ในฟุตบอลโลกที่เม็กซิโก ซึ่งถือเป็นเกมสำคัญเพราะมันคือรอบชิงชนะเลิศ ในครั้งนั้นเยอรมันยังเป็น "เยอรมันตะวันตก" หนนั้นอาร์เจนตินานำทัพโดย ดีเอโก้ มาราโดน่า ที่โชว์ฟอร์มระเบิด รวมถึง ฮอร์เก้ วัลดาโน่ ส่วนอินทรีเหล็กถือเป็นหนึ่งในชุดที่ดีที่สุดทั้ง คาร์ล ไฮนซ์ รุมเมนิกเก้, โลธ่าร์ มัทเธอุส, อันเดรียส์ เบรห์เม่ และ รูดี้ โฟลเลอร์
ถือ เป็นอีกเกมที่ดีที่สุดของฟุตบอลโลกเลย ทีมฟ้า-ขาวออกนำก่อน 2-0 จาก โฮเซ่ หลุยส์ บราวน์ นาทีที่ 23 และ ฮอร์เก้ วัลดาโน่ นาทีที่ 55 แต่ว่าโดนไล่ตีเสมอ 2-2 จาก รุมเมนิกเก้ และ โฟลเลอร์ นาทีที่ 74 และ 80 แต่ว่าสุดท้าย ฮอร์เก้ บูร์รูชาก้า มาพังประตูชัยให้อาร์เจนตินาเอาชนะไปได้สุดมันส์ 3-2 คว้าแชมป์โลกสมัยที่ 2 ไปครองหลังจากที่เพิ่งได้หนแรกไปเมื่อปี 1978
4 ปีให้หลังทั้งคู่โคจรมาพบกันอีกครั้ง เยอรมันภายใต้การคุมทีมของ ฟร้านซ์ เบ็คเคนเบาเออร์ ขนทัพอย่าง เจอร์เก้น คลิ้นท์มันส์ กองหน้าตัวเก่ง, เจอร์เก้น โคห์เลอร์ ปราการหลัง และ โธมัส เฮสเลอร์ มิดฟิลด์ และหนนี้ไม่มีประตูมากมายเช่นครั้งที่แล้ว แต่ประตูเดียวของเกมตัดสินจากจุดโทษของ อันเดรียส์ เบรห์เม่ ในเกมที่ เปโดน มอนซอน และ กุสตาโว่ เดซ็อตติ ของทีมฟ้า-ขาว โดนไล่ออก ส่งให้อินทรีเหล็กทวงแค้นคืนทันควัน
หลังจากนั้นก็ไม่ได้เจอกันอีก เลยกระทั่งฟุตบอลโลก 2 หนหลัง อาร์เจนตินา ฟาดฟันกับ เยอรมัน ติดต่อกัน เมื่อปี 2010 ที่แอฟริกาใต้ เป็นการเจอกันในรอบ 8 ทีมสุดท้ายเป็นทีมจากเมืองเบียร์ภายใต้การคุมทีมของ โยอัคคิม เลิฟ คนนี้เอง ไล่ถล่มอาร์เจนตินาที่มี ดีเอโก้ มาราโดน่า เป็นหัวเรือใหญ่ยับเยิน 4-0 จาก โธมัส มุลเลอร์ ,มิโรสลาฟ โคลเซ่ กด 2 เม็ดส่วนอีกลูกเป็นผลงานของ อาร์เน่ ฟรีดริช
ในปี 2006 ที่เยอรมันเป็นเจ้าภาพ เป็นการเจอกันในรอบ 8 ทีมเช่นกัน ผล 90 นาทีลงเอยด้วยการเสมอ 1-1 ล่วงเลยจนถึงช่วงต่อเวลาพิเศษก็ไม่มีประตูเกิดขึ้น สุดท้ายต้องลงเอยด้วยการดวลเป้าและได้ยิงกันแค่ 4 คนเท่านั้น "อินทรีเหล็ก" ไม่พลาดเป้าเลยกดตุงตาข่ายทั้ง 4 คน ไล่ตั้งแต่ โอลิเวอร์ นอยวิลล์, มิชาเอล บัลลัค, ลูคัส โพดอลสกี้ และ ทิม โบรอฟสกี้ ขณะที่ทาง "ฟ้า-ขาว" ยิงเข้าแต่ ฮูลิโอ ครูซ กับ มักซี่ โรดริเกซ ส่วน โรเบร์โต้ อยาล่า กับ เอสเตบัน กัมบิอัสโซ่ ยิงพลาด
เท่ากับว่าสามหนหลังในฟุตบอลโลก อาร์เจนตินา พ่ายแพ้ให้กับ เยอรมัน ทั้ง 3 หนที่เจอกัน ในฟุตบอลโลก และหนึ่งในนั้นคือรอบชิงชนะเลิศ
แต่ ว่าหากนับเกมในการอุ่นเครื่องหนล่าสุดย้อนไปเมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2012 ที่แฟร้งเฟิร์ต เป็นอาร์เจนตินาที่เอาชนะไปได้ 3-1 โดยเกมนั้น รอน-โรเบิร์ต ซีเลอร์ โดนไล่ออกจากสนาม โดยฟ้า-ขาวได้ประตูทั้งสามลูกจากการทำเข้าประตูตัวเองของ ซามี่ เคดิร่า นาทีช่วงทดเจ็บครึ่งแรก, ลิโอเนล เมสซี่ นาทีที่ 52 และ อังเคล ดิ มาเรีย นาทีที่ 73 ส่วนเยอรมันตีไข่แตกได้จาก เบเนดิคท์ โฮเวเดส ในช่วง 10 นาทีสุดท้าย
ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา "ฟ้า-ขาว" อุ่นเครื่องกับเยอรมันหลายหน และก็มักทำได้ดีกว่าเสมอ ย้อนกลับไปปี 2010 ก่อนบอลโลกก็เอาชนะได้ 1-0 ปี 2005 ในศึกคอนเฟดเดอเรชั่นส์ คัพ เสมอกัน 2-2 ก่อนหน้านั้นก็เสมอ 2-2 ในเดือนกุมภาพันธ์ เช่นเดียวกับในปี 2002 ที่ชนะได้ 1-0
เกมนี้ถือเป็นบอลถูกคู่เมื่อทั้งสองทีมครองตำแหน่ง เก็บชัยชนะร่วมกันมากที่สุดในบอลโลกหนนี้ 5 เกม และไม่แพ้ใครเลยเหมือนกัน เสมอ 1 เกมเหมือนกันอีกด้วย
ผู้รักษาประตูก็เหนียวแน่นเหมือนกัน เซร์คิโอ โรเมโร่ มือกาวของอาร์เจนตินา รักษาคลีนชีตไปแล้ว 4 หน ส่วน มานูเอล นอยเออร์ จัดไป 3 หน
ลิโอเนล เมสซี่ คว้าตำแหน่งแมน ออฟ เดอะ แมตช์ ไปแล้ว 4 หน และยิงไปแล้ว 4 ลูก ขณะที่ โธมัส มุลเลอร์ ยิงไป 5 ลูก พร้อมนักเตะยอดเยี่ยมประจำเกมอีก 2 หน
แต่อย่างเดียวที่ต่าง กันก็คือเกมรุกที่อาร์เจนตินายิงไปได้แค่ 8 ลูกเท่านั้น ตรงข้ามกับเยอรมันที่กดไป 17 ลูก แต่เกมล่าสุดกับเจ้าภาพก็ซัดไป 7 เม็ดแล้ว
ทั้ง สองทีมต่างมีความหลังที่ต้องการล้างแค้นซึ่งกันและกัน ชัยชนะในเกมชิงชิงชนะเลิศก็ต่างชนะกันฝั่งละหน เกมนี้จะมี 1 ทีมที่จะทำสถิติเหนือกว่า
"Third Time Lucky" ครั้งนี้จะเป็นของใคร ติดตามกันอย่ากะพริบตาเลย
เครดิต : หนังสือพิมพ์ "สปอร์ตพูล"
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
อึ้งทั้งโลก! สื่อเกาหลีเหนือรายงานทีมเข้าชิงเวิลด์คัพกับโปรตุเกส
สื่อแดนโสมแดงทำฮือฮาหลังระบุว่าทีมของพวกเขาผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศศึกฟุตบอลโลกที่บราซิลทั้งที่ไม่ได้ร่วมแข่งขัน แต่ล่าสุดมีการยืนยันแล้วว่าวีดีโอนี้เป็นของปลอมอึ้งทั้งโลก! สื่อเกาหลีเหนือรายงานทีมเข้าชิงเวิลด์คัพกับโปรตุเกส
สื่อแดนโสมแดงทำฮือฮาหลังระบุว่าทีมของพวกเขาผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศศึกฟุตบอลโลกที่บราซิลทั้งที่ไม่ได้ร่วมแข่งขัน แต่ล่าสุดมีการยืนยันแล้วว่าวีดีโอนี้เป็นของปลอมบริหารเยี่ยม!ฮอลแลนด์ทีมแรกใช้นักเตะครบ23คน
ทีมชาติฮอลแลนด์ สร้างสถิติใหม่ในการทำศึกฟุตบอลโลก 2014 หลังถล่ม บราซิล เจ้าภาพการแข่งขันไปอย่างขาดลอย 3-0 ในแมตช์ชิงอันดับ 3 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยเป็นทีมแรกในประวัติศาสตร์ที่ส่งนักเตะลงสนามครบทั้ง 23 คน"พละกำลัง" อีกหนึ่งปัจจัยสู่แชมป์โลก
ในฟุตบอลโลก ไม่ใช่เพียงแค่บททดสอบของความสามารถเท่านั้น แต่ยังรวมถึงสภาพร่างกาย และความฟิต บวกกับความกดดันต่างๆ ที่ต้องเล่นท่ามกลางสายตาคอยจดจ้องเป็นล้านๆ จากทั่วทุกมุมโลก
TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน
ซูฮกโคตรทีม! เลเวอร์คูเซ่น สร้างสถิติไร้พ่าย 48 เกมเท่า เบนฟิก้า
วิเคราะห์บอล โรม่า พบ ยูเวนตุส วันอาทิตย์ที่ 5 พฤษภาคม 2567
เหลือเวลา 1 เดือนคัดบอลโลก! แข้งไทยต่างแดนฟอร์มแจ่มแค่ไหน?
TOA ทุ่ม 8.4 ล้านเช่าเหมาลำขนทัพ ทีมชาติไทย ดวล จีน คัดบอลโลก
เช็กกัปตัน บรูโน่,ไร้ แม็กไกวร์!คาดไลน์อัพ แมนยู บุกเยือน พาเลซ
อัลบั้มภาพเด็ดๆ
ฮาน่า ฮาอึน ชอง ดาว TikTok สาวสว...
นาฟ ฉัฐนันท์ ปล่อยแซ่บท้าลมหนาว ...
เต็มที่แล้ว! ไทย พ่าย อุซเบกิสถา...
ตัดเกรด นักเตะไทย เกมเสมอ โอมาน ...
"ศุภชัย" ซัดเบิ้ล! ไทย ทุบ คีร์ก...
โดนรัวครึ่งหลัง! ไทย บุกพ่าย ญี่...
คลิปไฮไลท์