ทำให้สาวก "เร้ด อาร์มี่" ผิดหวังไปตามๆกัน สำหรับการออกสตาร์ทศึกพรีเมียร์ลีกของ หลุยส์ ฟาน กัล หลังกุนซือคนใหม่ชาวดัตช์ พาทีมพ่ายสวอนซี ซิตี้ คาบ้าน 1-2 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา

แต่ต้องทำใจว่าควรให้เวลากับ ฟาน กัล มากกว่านี้ เพราะปัจจุบันมีปัญหาการบาดเจ็บของลูกทีม แถมเพิ่งซื้อนักเตะใหม่มาแค่ 2 ราย ซึ่งไม่แน่ใจว่าเป็นเป้าหมายที่เจ้าตัวต้องการจริงๆหรือเปล่า เพราะย้ายเข้ารัง โอลด์ แทรฟฟอร์ด ก่อนเขาเสียอีก แถมที่อยากได้ ก็ยังไม่ได้ใครมาสักราย ทั้ง อาร์ตูโร่ วิดัล, โธมัส แฟร์มาเล่น หรือ ดาลี่ย์ บลินด์ ส่วนหนึ่งอาจต้องรอให้ขาย ฮาเวียร์ "ชิชาริโต้" เอร์นานเดซ, วิลฟรีด ซาฮา, มารูยาน เฟลไลนี่, อันแดร์สัน รวมถึง นานี่ ออกไปก่อน

ที่ผ่านมา ฟาน กัล ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าฝีมือไม่ธรรมดา เพราะเคยคว้ามาแล้วทั้งแชมป์ฮอลแลนด์ 3 สมัยซ้อน (1994-96) ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก, ยูฟ่า ซูเปอร์คัพ และ อินเตอร์คอนติเนนตัล คัพ (ทั้งหมดในปี 1995) กับ อาแจ๊กซ์ อัมสเตอร์ดัม เคยนำ บาร์เซโลน่า คว้าแชมป์ลีกสเปน 2 สมัยซ้อน (1998-99) แถมเป็นดับเบิ้ลแชมป์ในฤดูกาล 1997-98 ไปคุมทีมเล็กๆอย่าง อาแซด อัล์คมาร์ ก็เป็นแชมป์ลีกดัตช์ได้อีก อยู่ บาเยิร์น มิวนิค 2 ปี มีถ้วยติดมือ 3 รายการ นอกจากนั้นยังคุมทีมชาติฮอลแลนด์มาอีก 2 รอบ

แต่หลายท่านอาจไม่ทราบว่า ฟาน กัล มักออกสตาร์ทในการคุมทัพไม่ค่อยดีนัก โดยหลังรับตำแหน่งที่ อาแจ็กซ์ แทน ลีโอ บีนฮัคเกอร์ ในเดือนกันยายน 1991 เขาไม่ชนะใครเลย 3 แมตช์แรกที่ทำศึกเอเรดิวิซี่นอกบ้าน แพ้ถึง 2 รวมแล้ว 12 นัดแรกในลีกดัตช์ ฟาน กัล ช่วยทีมชนะ 6 เสมอ 2 แพ้ 4 หน หนึ่งในนั้นคือพ่าย อูเทร็คท์ 1-2 และเสมอ เดน ฮาก 0-0 แต่หลังจากนั้นก็พาต้นสังกัดประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ และได้เครื่องราชอิสริยาภรณ์ออเรนจ์-นัสเซา เพราะนำสโมสรแห่งนี้สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศในระดับโลก

พอไปคุม บาร์เซโลน่า เขาพาทีมออกไปพ่าย เรอัล มาดริด 1-4 จนชวดแชมป์ซูเปอร์โกปา 1997 ก่อนกลับมาชนะ 6 นัดรวดในลีก แถมฤดูกาลนั้นพวกเขาชนะ "ราชันชุดขาว" ในลีก แบบไป-กลับ จนได้แชมป์ลา ลีกา หนแรกในรอบ 4 ปี ฤดูกาล 1998-99 บาร์ซ่า คว้าชัยแค่ 2 นัดในการออกสตาร์ท 6 เกมแรก (หนึ่งในนั้นคือการเชือด เอเซมาดูร่า ของ ราฟาเอล เบนิเตซ 1-0) แต่สุดท้ายก็เป็นแชมป์ลีกโดยทิ้งห่าง เรอัล มาดริด ทีมอันดับ 2 แบบหายห่วง 11 คะแนน

จากนั้นก็ไปคุมทีมชาติฮอลแลนด์ ฟาน กัล ก็ยังคงออกสตาร์ทแย่เหมือนเดิม เพราะต้องไล่ตาม ไอร์แลนด์ ทีมเยือน 0-2 ก่อนจบด้วยผลเสมอ 2-2 ในบ้านตัวเอง โดย 3 แมตช์ที่ทำศึกฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกปีนั้น พวกเขาชนะได้แค่ตอนเจอ ไซปรัส แต่โดน โปรตุเกส บุกมาเชือดคารัง 0-2 แต่ปีต่อมา ฮอลแลนด์ ชนะถึง 5 จาก 7 นัดในรายการนี้ แถมพ่ายครั้งเดียวจากทั้งหมด 10 เกม

กลับมาคุม บาร์เซโลน่า หนที่ 2 ฟาน กัล ก็ยังไม่ทิ้งลาย ชนะ 2 เสมอ 2 จาก 6 เกมแรกของศึก ลา ลีกา แต่กลับทำสถิติชนะ 10 นัดรวดใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก จนกลายเป็นสถิติใหม่ จากนั้นก็พักผ่อนไปช่วงหนึ่ง ก่อนคุมทัพ อัล์คมาร์ สโมสรที่เขาเคยลงเตะ แต่เกือบโดนไล่ออกช่วงฤดูกาล 2007-08 เพราะออกสตาร์ทศึกเอเรดิวิซี่ 8 แมตช์แรก ด้วยการชนะแค่ 2 ครั้ง ก่อนจบด้วยอันดับ 11 แต่ฤดูกาลต่อมาพวกเขากลับมาเป็นแชมป์ลีก ทำสถิติไม่แพ้ใคร 28 เกมรวด ทั้งๆออกสตาร์ทด้วยการแพ้ทั้ง 2 นัดแรก

ได้ดิบได้ดี บาเยิร์น ก็เอาไปคุมทัพ แต่ ฟาน กัล ก็ยังเป็น ฟาน กัล 3 แมตช์แรกไม่ชนะใครเลย แพ้ ไมนซ์ 1-2 ด้วยซ้ำ อยู่อันดับ 8 เมื่อผ่าน 8 นัดแรก แต่จากนั้นก็กลายเป็นแชมป์ลีกเยอรมันปี 2010 ด้วยการคว้าชัยทั้งหมด 20 เกม (จากทั้งหมด34เกม) ฤดูกาลต่อมา ผลงานยิ่งแย่กว่าเดิมอีก เพราะจบ 9 แมตช์แรกด้วยการชนะ 3 เสมอ 3 อยู่อันดับ 11 ยิงประตูได้น้อยกว่า โคโลญจน์ ทีมบ๊วย สุดท้ายเลยโดนไล่ออก ทั้งๆเริ่มต้นด้วยการคว้าแชมป์ เดเอฟเบ ซูเปอร์คัพ

 การคัมแบ๊กสู่ทีมชาติในปี 2012 ฟาน กัล ก็ยังไม่เปลี่ยน แพ้ เบลเยียม ในแมตช์แรก 2-4 เพราะโดนยิง 3 ประตูใน 5 นาที แต่พวกเขากลับมาชนะ 9 เสมอ 1 จาก 10 เกมในการเตะรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก 2014 ผ่านเข้ารอบสุดท้าย กระทั่งผ่านเข้ารอบสบายๆ และได้อันดับ 3 มาครอง

จึงเห็นได้ว่า ฟาน กัล มักจะออกสตาร์ทไม่ค่อยดีเกือบทุกครั้งที่เริ่มต้นใหม่ แต่คนอย่างเขาก็กลับมาประสบความสำเร็จเกือบทุกครั้งเช่นกัน ดังนั้นการเริ่มต้นที่ไม่สวยงามนักกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ไม่ได้แปลว่าทุกอย่างจะย่ำแย่ ยังมีหนทางอีกยาวไกลให้ติดตามกันต่อไป

อีกสิ่งหนึ่งที่ฟาน กัล ฝากผลงานไว้กับทุกสโมสรที่เขาเข้าทำงานคือ การปั้นเด็ก มีดาวรุ่งหลายคนแจ้งเกิดจนโด่งดังตั้งแต่ยุค คลาเรนซ์ เซดอร์ฟ, พาทริค ไคลเวิร์ต, เอ็ดการ์ ดาวิดส์, เอ็นวานโก้ คานู, ฟินิดี้ จอร์จ, ยารี่ ลิตมาเน่น , ชาบี เอร์นานเดซ, การ์เลส ปูโยล, บิคตอร์ บัลเดส, อันเดรส อิเนียสต้า, เยเรเมน เลนส์, โธมัส มุลเลอร์ และ โฮลเกอร์ บาดสตูเบอร์ ต่างผ่านการขัดเกลาของกุนซือคนนี้ทั้งสิ้น จึงต้องรอดูว่าเด็กผีจะมีใครแจ้งเกิดในยุคกุนซือดัตช์หรือไม่หลัง ไทเลอร์ แบล็คเกตต์ กับ เจสซี่ ลินการ์ด ได้โอกาสลงเล่นเกมเปิดซีซั่นมาแล้ว