ฟุตบอลยูโร 2016 รอบคัดเลือก กลุ่มอี นัด 7

วันเสาร์ที่ 5 กันยายน 2558

ซาน มารีโน่ 0-6 อังกฤษ

สนาม : โอลิมปิโก้ ดิ เซอร์ราวัลเล่ (เซอร์ราวัลเล่, อังกฤษ)

          ฟุตบอลยูโร 2016 รอบคัดเลือก กลุ่มอี ซาน มารีโน่ บ๊วยของกลุ่มเจอศึกหนักรับการมาเยือนของ อังกฤษ จ่าฝูงของตาราง โดยเกมนี้ รอย ฮอดจ์สัน ส่ง เจมี่ วาร์ดี้ ลงเป็นหัวหอกตัวจริงร่วมกับ เวย์น รูนีย์ มี รอสส์ บาร์คลีย์ คอยทำเกมรุก

          เริ่มเกมได้ 11 นาที ทีมชาติอังกฤษมาได้ลูกโทษแบบน่ากังขา จากลูกเซ็ตพีซที่ เชลวีย์ โยนเข้ามาก่อนที่บอลจะไปโดนแขนของ มาร์โก เบอร์ราดี้แบบเฉี่ยวๆ ทำให้ผู้ตัดสินใจเป่าเป็นจุดโทษทันทีก่อนจะเป็น เวย์น รูนีย์ ที่รับหน้าที่สังหารเข้าไป อังกฤษออกนำ 1-0

          ถัดมา 5 นาทีสิงโตคำรามเกือบนำห่าง หลังเจมี่ วาร์ดี้ ลากเลื้อยมาจากทางกราบซ้ายก่อนจะยิงไปติดเซฟของ อัลโด้ ซิมอนซีนี่ บอลมาเข้าทาง รูนีย์ ที่ปรี่เข้าซ้ำแต่ ซิมอนซินี่ ก็ยังรับไว้ได้อีก

           ล่วงเลยไปนาที 29  ทีมจากแดนผู้ดีก็ทิ้งห่างจนได้ ลุค ชอว์ ควบบอลไปทางซ้ายก่อนปาดเข้ากลาง คริสเตียน บรอลลี่ เซนเตอร์แบ็กเจ้าถิ่นพยายามจะโขกสกัดแต่บอลเจ้ากรรมดันผิดเหลี่ยม พุ่งลอดขา ซิมอนซีนี่ เข้าประตูตัวเองไปแบบโชคร้าย ทำให้อังกฤษขยับนำ 2-0

          ท้ายครึ่งแรกยังคงเป็นผู้มาเยือนที่เดินหน้าเข้าใส่ไม่ยั้ง ส่วนเจ้าบ้านยังหาโอกาสยิงไม่ได้สักครั้งเดียว ทำให้จบครึ่งแรกแข้ง "สิงโตคำราม" ตุนสกอร์แบบสบายเท้า 2-0

          เข้าสู่ครึ่งเวลาหลังเปรียบดั่งโศกนาฏกรรมจริงๆ หลังเริ่มได้แค่ไม่กี่วินาที ลูกทีมของรอย ฮอดจ์สัน ก็นำขาดไปอีก อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด- แชมเบอร์เลน ได้บอลก่อนเปิดให้ รอสส์ บาร์คลีย์ โขกเข้าไปอย่างเด็ดขาด ทำให้สกอร์บอร์ดขยับไปเป็น 3-0 แล้ว

          ยิ่งเล่นเหมือนยิ่งดุ ถัดมานาทีที่ 68 อังกฤษจัดการเชือดเจ้าถิ่นอีกแล้ว จากการประสานงานของสองตัวสำรอง ฟาเบียน เดล์ฟ เปิดเรียดไปให้กับ ธีโอ วัลค็อตต์ ปรี่เข้าชาร์ตไปแบบง่ายๆ ทำให้ สิงโตคำราม ทิ้งห่างเป็น 4-0

          วิบากกรรมเจ้าบ้านยังไม่จบ  นาทีที่ 77  แฮร์รี่ เคน หลุดเดี่ยวเข้าไปก่อนชิพบอลซุกตาข่ายอย่างเหนือชั้น อังกฤษฉีกหนีเพิ่มไปอีก 5-0

          ถัดมานาทีเดียว รอสส์ บาร์คลีย์ ไหลทะลุช่องให้ ธีโอ วัลค็อตต์ ได้หลุดเดี่ยวก่อนจะทำประตูที่สองของตนเองให้แข้ง "ทรี ไลออนส์" ไล่ต้อนถึง 6-0 เข้าแล้ว

          ท้ายเกมยังคงเป็นผู้มาเยือนที่ไล่ต้อนอย่างสนุกเท้าก่อนที่จากนั้นจะทำไรกันเพิ่มไม่ได้ จบเกม ทีมชาติอังกฤษ บุกมาถลุงซาน มารีโน่ ไส้แตก 6-0 เก็บชัยได้ 7 นัดรวด มี 21 แต้ม นำโด่งเป็นจ่าฝูงของกลุ่มพร้อมแหย่เท้าเข้ารอบไปกว่า 99.99 %

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
          ซาน มารีโน่  : อัลโด้ ซิมอนซีนี่ - โจวานนี่ บอนินี่ (คาโรลิส ชเวดูคัส น.71), คริสเตียน บรอลลี่, ดาวิเด้ ซิมอนชินี่ (อเลสซานโดร เดลา วัลเล่ น.80), มาร์โก เบอร์ราดี้, เมียร์โค ปาลาซซี่, มานูเอล บาตติสตินี่ - อดอลโฟ่ เฮิร์สท์, นิโคล่า เชียรุซซี่, มัตเตโอ วิตาโอลี่ - แอนดี้ เซลว่า (ดานิโล่ รินัลดี้ น.74)

          อังกฤษ : โจ ฮาร์ท - เนธาเนียล ไคลน์, จอห์น สโตน, ฟิล จากิลก้า, ลุค ชอว์ - เจมส์ มิลเนอร์ (ฟาเบียน เดลฟ์ น.58), จอร์โจ้ เชลวี่ - อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน (ธีโอ วัลค็อตต์ น.66),รอสส์ บาร์คลี่ย์ - เจมี่ วาร์ดี้, เวย์น รูนี่ย์ (แฮร์รี่ เคน น.58)