"ซิโก้" ให้ลงสระคลายเส้นเย็นไม่ซ้อม

 
         ความเคลื่อนไหวทีมชาติไทยชุดคัดเลือกฟุตบอลโลก 2017 โซนเอเชีย กลุ่ม เอฟ ในฐานะจ่าฝูงของกลุ่มหลังเตะมา 3 นัด ชนะ เวียดนาม 1-0 (ห) ,ชนะ ไต้หวัน 2-0 (ย), เสมอ อิรัก 2-2 (ห) ที่ล่าสุดอุ่นเครื่องเมื่อ 9 ต.ค. 58 ที่ผ่านมา เปิดบ้านเอาชนะ ฮ่องกง ไปได้ 1-0 โดยทีมชาติไทยจะเตะเกมนัดที่ 4 ด้วยการไปเยือนเวียดนาม อันดับ 3 ของกลุ่ม ที่เตะมา 3 นัด แพ้ ไทย 0-1 (ย), ชนะ ไต้หวัน 2-1 (ย) ล่าสุดเมื่อ 8 ต.ค. 58 ที่ผ่านมา  เปิดบ้าน เสมอ อิรัก 1-1 สำหรับเกมนัดที่ 4 นี้ที่สนามมีดิ่งห์ สเตเดี้ยม กรุงฮานอย เวียดนามนั้นจะเตะวันอังคารที่ 13 ต.ค. 58 เวลาไทย 19.00 น. ไทยรัฐทีวี ถ่ายทอดสดให้แฟนบอลได้รับชมกันตั้งแต่เวลา 18.30 น.

 
         ล่าสุดเมื่อ 10 ต.ค. 58 ที่ผ่านมา "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือใหญ่ทีมชาติไทยไม่ได้ใส่โปรแกรมซ้อมหนักกับนักเตะโดยช่วงเช้าให้นัก เตะผ่อนคลายกล้ามเนื้อด้วยการลงเล่นน้ำที่สระว่ายน้ำของโรงแรมเอสซีปาร์ค ที่พักพร้อมกับวิ่งจ็อกกิ้งเบาๆบริเวณสนามหญ้าของโรงแรม โดยช่วงเย็นไม่มีโปรแกรมฝึกซ้อมโดยได้ปล่อยให้นักเตะไปทำธุระส่วนตัวก่อนที่ ทุกคนจะต้องเข้ามารายงานตัวที่โรงแรมที่พักเวลา 19.00 น. เพื่อพักผ่อน และรอเดินทางไปยังฮานอย เวียดนาม ในช่วงเช้าของวันอาทิตย์ที่ 11 ต.ค. 58 นี้ ด้วยสายการบินแอร์เอเชีย เที่ยวบิน เอฟดี 642 ในเวลา 06.45 น. ต่อไปที่สนามบินดอนเมือง โดยช่วงเช้า "บิ๊กน้อย" พลเอก สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รัฐมนตรีช่วยกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะผจก.ทีมชาติไทยชุดนี้ได้เดินทางมาหารือกับ "ซิโก้" ด้วยที่โรงแรมเอสซี ปาร์ค

      
ทีมปึ้ก "กวินทร์" พร้อมลงเฝ้าเสา

 
         "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง พูดถึงความพร้อมของทีมก่อนเดินทางบุกเวียดนามว่า "สภาพทีมชาติไทยขณะนี้สมบูรณ์ 100 เปอร์เซ็นต์ ไม่มีผู้เล่นคนไหนจากที่มีอยู่ในทีม 23 รายมีปัญหาอาการบาดเจ็บแต่อย่างใดรายของ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ผู้รักษาประตูที่มีอาการกล้ามเนื้อกระตุกก่อนลงสนามเกมอุ่นเครื่องกับฮ่องกง ก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง "ตอง" จะได้ลงสนามในฐานะตัวจริงในเกมเยือนเวียดนามแน่นอน ส่วนรายของ สารัช อยู่เย็น, ชนาธิป สรงกระสินธิ์ 2 กองกลางก็สมบูรณ์ดี

      
เชื่อญวนบุกใส่ยันไปเพื่อชนะ

 
         นอกจากนี้ "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ยังกล่าวถึงการคาดหวังผลงานของทีมชาติไทยที่ต้องไปเยือนเวียดนาม วันที่ 13 ต.ค. นี้ด้วยว่า "เป้าหมายของผมในเกมนี้มีอย่างเดียวคือหวังบุกไปชนะเวียดนามกลับมาให้ได้ สภาพทีมนักเตะสมบูรณ์ดีทุกคนอยู่ในฟอร์มที่ยอดเยี่ยม สถานการณ์ขณะนี้แน่นอนว่าเวียดนาม เองนั้นเขาหวังที่จะชนะเราให้ได้ เพราะผลเสมอหรือแพ้จะทำให้เขาน่าจะหมดลุ้นไปเลยทันที นั่นหมายถึงเขาจะต้องเปิดเกมรุกเข้าใส่เราแน่นอน ซึ่งผมเองก็ไม่ได้วิตกกังวัลอะไรมีแผนรับมือเขาอยู่แล้ว แต่จะเน้นย้ำกับลูกทีมว่าห้ามประมาทเป็นอันขาด และต้องมีสมาธิให้มากที่สุดรวมไปถึงต้องควบคุมอารมณ์ให้ดีเป็นพิเศษ เพราะอาจต้องเจอกับการยั่วยุทั้งจากผู้เล่นเวียดนามรวมไปถึงแฟนบอลเขาด้วย หากเราไปหลงเหลี่ยมเขาตรงจุดนี้อาจทำให้ทีมเสียเปรียบได้ อย่างไรก็ดีเป้าหมานนัดนี้ผมจะขอพาทีมบุกไปชนะกลับมาให้ได้เพื่อเพิ่มโอกาส ที่เราจะผ่านไปเล่นรอบ 12 ทีมสุดท้ายเอเชียเพิ่มขึ้นมาอีก"

      
"บังยี" เชื่อไทยดีกว่ากำชับห้ามประมาท

 
         ด้าน "บังยี" วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลฯ พูดถึงเกมที่ไทยต้องไปเยือนเวียดนามวันที่ 13 ต.ค. นี้ว่า "โดยส่วนตัวแล้วผมมั่นใจว่าศักยภาพของทีมชาติไทยเราดีกว่าเวียดนาม แม้ว่าต้องออกไปเล่นในฐานะทีมเยือนแต่ผมก็เชื่อว่าเราจะบุกไปเก็บแต้มกลับ ออกมาได้ และก็น่าจะเป็นผู้ชนะได้มากกว่าเวียดนามอีกด้วย เมื่อดูจากผลงานที่ผ่านมาที่ทีมชาติไทยเราชุดนี้ทำได้ดีกว่าเขา แต่ทั้งนี้เราก็ห้ามประมาทกันเป็นอันขาดเรื่องนี้ผมได้กำชับไปยังทีมงาน สตาฟฟ์โค้ชแล้วให้กำชับกับนักเตะทุกคนด้วย"

      
"บิ๊กน้อย" ไร้กังวัลมั่นใจไทยชนะ

 
         ขณะที่ "บิ๊กน้อย" พลเอก สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รัฐมนตรีช่วยกระทรวงศึกษาธิการในฐานะผจก.ทีม ได้ออกมากล่าวว่า "เดินทางไปเวียดนามครั้งนี้ทีมชาติไทยมีเป้าหมายเดียวเท่านั้น คือบุกไปชนะกลับมาให้ได้ เพราะเป้าหมายแรกในรอบคัดเลือกรอบ 2 นี้ของเราคือผ่านเข้าไปเล่นรอบ 12 ทีมสุดท้ายให้ได้ เกมนี้เราต้องชนะเวียดนามให้ได้เพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้ารอบให้มีมากขึ้น ขณะนี้ไม่มีอะไรต้องกังวลสภาพทีมพร้อมเต็มที่ทีมงานสตาฟฟ์โค้ช และนักเตะรู้ดีอยู่แล้วว่าพวกเขาต้องทำอะไรในการไปเยือนเวียดนามครั้งนี้ ฝากให้แฟนบอลชาวไทยส่งแรงใจไปเชียร์ทีมชาติไทยเราด้วย"

      
"มุ้ย" เชื่อเพื่อนไม่หวั่นสาวกญวน

 
         ด้าน "เจ้ามุ้ย" ธีรศิลป์ แดงดา ก็ออกมาแสดงความเชื่อมั่นว่า เขาเชื่อว่าเพื่อนร่วมทีมทุกคนจะรับมือกับเสียงเชียร์ของแฟนบอลเวียดนาม เจ้าถิ่นที่แน่นอนว่าจะมีปฏิกริยาด้านลบต่อนักเตะไทย ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาของแฟนบอลทีมเหย้า พวกเราทุกคนรู้ดีว่าต้องเจอกับอะไรที่สนามมีดิ่งห์ วันที่ 13 ต.ค. นี้ และผมก็เชื่อว่าทุกคนไม่มีใครหวั่นเกรงเพราะหลายคนเคยผ่านประสบการณ์เช่นนี้ มาแล้ว

      
แฟนในโซเชียลมองไทยดีกว่าเหงียน

 
         ด้านความมั่นอกมั่นใจของแฟน "ช้างศึก" ในโลกโซเชียลที่ออกมาให้ทรรศนะทางเว็บไซต์ต่างๆ ในโลกไซเบอร์นั้นต่างแสดงความมั่นอกมั่นใจ และบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าทีมชาติไทยดีกว่าเวียดนาม และมั่นใจด้วยว่าไทยจะบุกไปชนะเวียดนามกลับมาได้ โดยหลายคนมีมุมมองที่ว่าทีมชาติเวียดนามนั้นมักจะแพ้ทางทีมชาติไทยเจอกันที ไรนักเตะเวียดนามใจแพ้ให้ไทยไปตั้งแต่ยังไม่ลงสนามแล้ว จะเห็นว่าจากสถิติที่ผ่านมานั้นทีมชาติไทยทำได้ดีกว่า เวียดนามมาโดยตลอดอีกด้วย