รูดี้ การ์เซีย กุนซืออาแอส โรม่า รับ เอ็มโปลี สร้างปัญหาให้ทีมของตนอย่างมากในช่วงครึ่งแรกของเกมเมื่อวันเสาร์ แต่ชี้เหตุที่ทีมกลับมาคว้าชัยได้ก็เพราะเปลี่ยนมาเล่นแผน 4-4-2 พร้อมเผยผิดหวังที่ทีมเสียประตูง่ายๆอีกแล้ว

รูดี้ การ์เซีย เทรนเนอร์ อาแอส โรม่า สโมสรแกร่งแห่งศึก กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ออกมาเผยว่าเหตุที่ทีมของเขาชนะ เอ็มโปลี 3-1 ที่สนามสตาดิโอ โอลิมปิโก้ เมื่อวันเสาร์ที่ 17 ตุลาคม ที่ผ่านมา เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงแท็กติกในช่วงพักครึ่ง ที่ทำให้ทีมลงมายิง 3 ลูกรวด และชนะไปได้ในที่สุด

กุนซือชาวฝรั่งเศส ชี้ว่าการเปลี่ยนระบบมาเป็น 4-4-2 ทำให้ "หมาป่าเหลือง-แดง" สามารถควบคุมการเล่นโดยมิดฟิลด์ที่เพิ่มขึ้นมา จนครองเกมได้อยู่หมัด หลังมีครึ่งแรกที่ยากลำบาก โดยพวกเขาได้ มิราเล็ม ปานิช ยิงฟรีคิกปลดล็อกในนาที 56 ต่อด้วย ดานิเอเล่ เด รอสซี่ และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เป็นชัยชนะนัดที่ 3 ติดต่อกัน พร้อมขึ้นไปรองจ่าฝูงของลีกแดนมะกะโรนีแบบชั่วคราวได้สำเร็จ

การ์เซีย กล่าวว่า "เอ็มโปลี สร้างปัญหาให้เราแทบทุกรูปแบบ โดยเฉพาะครึ่งแรกที่พวกเขาขึ้นมาบีบเราสูง ช่วง 45 นาทีแรกเราพยายามหาพื้นที่เจาะหลังแนวรับของพวกเขา แต่เราไม่สามารถทำได้ เราเปลี่ยนระบบหลังช่วงพักครึ่ง และลงมาเล่นด้วยระบบ 4-4-2 ซึ่งทำให้เรามีผู้เล่นในแผงมิดฟิลด์มากขึ้น และเราเล่นได้ดีหลังจากนั้น"

หลังทำได้ 3 ประตู ซึ่ง 2 ลูกมาจากการเล่นลูกนิ่ง โดย การ์เซีย ยังคงผิดหวังกับประตูที่ โรม่า เสีย โดยระบุว่า "น่าเสียดายกับประตูที่เสียไป เพราะมันทำให้ผมคิดทบทวนการเปลี่ยนตัวผู้เล่นคนที่ 3 ที่ผมต้องการจะทำ มันเป็นเรื่องดีที่เราทำประตูได้เยอะ แต่เรามักจะเสียอย่างน้อย 1 ประตูเช่นกัน"

ทั้งนี้ โรม่า จะเจอกับ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก วันอังคารที่ 20 ตุลาคม นี้