ขึ้นชื่อว่า คริสเตียโน่ โรนัลโด้ แล้ว ถึงจะถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักแค่ไหนก็ไม่อาจมาหยุดยั้งความระห่ำกระฉูดในการถล่มประตูของซูเปอร์สตาร์ เรอัล มาดริด ได้เลย

ยอดดาวยิงทีมชาติโปรตุเกสถูกพวกปากหอยปากปูนินทาทั้งต่อหน้าและลับหลังว่าฟอร์มตกลงไปหรือเปล่าในซีซั่นนี้ หลังจากที่ต้นสังกัดของเขาดูดร็อปลงไปในช่วงหลัง

อย่างไรก็ตาม ดาวเตะตีนจรวดก็ตอบโต้เสียงเหล่านั้นด้วยการระเบิดแฮตทริกในเกมที่ลูกทีม ซีเนดีน ซีดาน กลับมาคืนฟอร์มเก่งไล่ถล่ม เอสปันญ่อล 6-0 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

3 ประตูในเกมนี้ส่งให้ โรนัลโด้ ขยับขึ้นไปนำเป็นดาวซัลโวสูงสุดลา ลีกา ฤดูกาลนี้ ที่จำนวน 19 ประตูเท่ากับ หลุยส์ ซัวเรซ ยอดหัวหอก บาร์เซโลน่า และยังสร้างสถิติขึ้นใหม่ด้วย

แข้งวัย 30 ปี ที่ดูเหมือนว่าไม่มีท่าทีที่ฟอร์มจะตกลงอย่างง่ายๆ ได้กลายเป็นนักเตะคนแรกที่ยิงใส่คู่แข่งทีมเดียวได้ถึง 8 ประตูในการเจอกันในลา ลีกา ฤดูกาลเดียวในรอบศตวรรษ หลังจากที่นัดแรกเขาก็ยิง เอสปันญ่อล ถึง 5 ประตู

หนึ่งในนั้นในการยิงจุดโทษ ซึ่งหมายความว่า "เจ็ตโด้" ซัดลูกนิ่งจากระยะ 12 หลาไปแล้วทั้งสิ้น 7 ประตูในฤดูกาลนี้ มากกว่านักเตะทุกคนที่ค้าแข้งใน 5 ลีกใหญ่ของยุโรปในซีซั่น 2015-16

นอกจากนี้อดีตสตาร์ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังทำให้ต้นสังกัดได้จุดโทษในลีกถึง 14 ครั้งแล้ว มากกว่านักเตะทุกคนอย่างน้อย 5 ครั้งนับตั้งแต่ฤดูกาล 2009-10 เป็นต้นมา

ขณะที่แฮตทริกของ โรนัลโด้ รวมกับการทำประตูของ คาริม เบนเซม่า และ ฮาเมส โรดริเกซ ในนัดล่าสุดนี้ ยังทำให้ เรอัล มาดริด มีสถิติถล่มตาข่ายในลา ลีกา ไปแล้วถึง 64 ประตู มากที่สุดในบรรดาลีกยักษ์ใหญ่ของยุโรป

ด้วยฟอร์มแบบนี้ทำให้ ซีเนดีน ซีดาน เทรนเนอร์ เรอัล มาดริด อดไม่ได้ที่จะต้องออกมาชื่นชม โรนัลโด้ ว่าทำผลงานได้ดีอยู่เสมอ ถึงแม้ในยามที่ซูเปอร์สตาร์ทีมชาติโปรตุเกส ไม่สามารถถล่มประตูคู่แข่งได้ก็ตาม

"เราคุ้นเคยกับการที่ คริสเตียโน่ ยิงประตูได้มากมาย ถ้าเขายิงได้ไม่ถึง 3 ประตู เขาก็กลายเป็นว่าทำได้ไม่ดีในสายตาของบางคน มันจะเป็นแบบนี้เสมอ เพราะเราต่างคุ้นเคยกับประตูของเขา นั่นไม่ใช่ปัญหาถ้าเขาไม่ได้ยิงประตูทุกนัด เขามีความทะเยอทะยานอย่างเต็มที่ นอกจากนี้เขายังทำงานหนักในเกมรับด้วยในวันนี้" กุนซือชาวฝรั่งเศส กล่าว