เบิกตัว 11 ดาวเตะยอดเยี่ยมพรีเมียร์ลีกวีก 14
Posted 06/12/2016 by siamsport
ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ แม็ตช์เดย์ที่ 14 ผ่านไปแล้ว 9 คู่ ยังเหลือคู่สุดท้ายในค่ำคืนวันจันทร์นี้ เป็นเกมระหว่าง มิดเดิลสโบรช์ พบกับ ฮัลล์ ซิตี้ จะหวดกันเวลา ตี 3 ตามเวลาประเทศไทย
โดยทีมงาน Siamsport ได้คัดเลือก 11 แข้งฟอร์มเจ๋ง ประจำสัปดาห์นี้มาให้ได้รับชมกัน มีใครติดโผกันบ้าง....
ผู้รักษาประตู : ติโบต์ กูร์กตัวส์ (เชลซี)
นายด่านเบลเจี้ยนเซฟไป 4 ครั้งในเกมนี้ ซึ่งจังหวะหยุดลูกยิงของ เซร์คิโอ อเกวโร่ 2 ครั้ง และลูกหลุดเข้ามายิงในเขตโทษของ เควิน เดอ บรอยน์ ถือเป็นเซฟสำคัญสุดๆของเขา ที่ช่วยให้ทีมไม่พลาดพลั้งเสียเปรียบทางเจ้าบ้านอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไปมากกว่า 1 ประตู
ถึงตอนนี้ กูร์กตัวส์ สะสมคลีนชีตไว้ที่ 7 ครั้งจาก 14 เกม ซึ่งทำได้เร็วกว่าซีซั่นก่อนถึงสองครั้ง และจำนวนเกมที่น้อยกว่า (5 ครั้งจาก 23 เกม)
แบ๊คขวา : ไคล์ วอล์คเกอร์ (ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์)
กลับมาเล่นได้สะเด่าอีกครั้งสำหรับแบ๊กขวาสายลุยของคลับไก่...
วอล์คเกอร์ บุกมันส์ รับแน่นในเกมนี้ เมื่อเข้าแท็กเกิ้ล 4 ครั้งในเกมนี้ และเอาชนะการปะทะได้ทุกครั้ง แถมยังมีโอกาสได้ยิงตรงกรอบ 1 ครั้ง แต่น่าเสียดายที่ไม่เป็นประตู
ซึ่งเกมนี้เจ้าตัวเรตติ้งดี และฟอร์มแจ่มที่สุดในแผงแบ๊คโฟร์ของ สเปอร์ส
เซนเตอร์ฮาล์ฟ : สตีฟ คุ๊ก (เอเอฟซี บอร์นมัธ)
แม้เกมนี้ บอร์นมัธ จะเสียไปถึง 3 ประตู แต่ปราการหลังวัย 25 ปีรายนี้ทำผลงานได้ดีที่สุดในแผงเกมรับ
คุ๊ก ชนะดวลลูกโด่ง 6 ครั้ง, ป้องกันลูกโด่ง 7 ครั้ง มากกว่าผู้เล่นทุกคนในเกมนี้ แถมยิงได้ 1 ประตู จากลูกตีเสมอ 3-3 และมีส่วนกับประตูชัยที่ทีมได้ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บอีกด้วย
เซนเตอร์ฮาล์ฟ : ดาวิด ลุยซ์ (เชลซี)
ปราการหลังสายฮา เล่นได้นิ่ง และเนียนที่สุดในบรรดาแนวรับ 3 คนของทีมในเกมบิ๊กแม็ตช์กับ แมนฯซิตี้
จังหวะสำคัญที่เจ้าตัวตัดสินใจเล่นคือการเข้ากระแทกบังไลน์วิ่งของ เซร์คิโอ อเกวโร่ ที่กำลังจะตามไปเล่นลูกจ่ายน้ำหนักขาดของ เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า ซึ่งจังหวะนั้นเสี่ยงมากๆ แต่ ลุยซ์ ทำมันได้อย่างเนียนตา และรอดพ้นจากการโดนลงโทษจากตุลาการกลางสนาม
ในสัปดาห์นี้ ไม่มีแข้งของเชลซีคนไหนเลยที่เคลียร์บอลได้มากกว่า ลุยซ์ แล้ว (6 ครั้ง)
เซนเตอร์ฮาล์ฟ : มาร์ค มูเนียซ่า (สโต๊ค ซิตี้)
เป็นเกมที่อดีตแนวรับบาร์เซโลน่า ฉายแววเด่นเอามากๆ ในเกมเปิดบ้านเอาชนะ เบิร์นลี่ย์ 2-0
มูเนียซ่า ป้องกันลูกโด่ง ถึง 7 ครั้ง, เข้าแท็กเกิ้ล 4 ครั้ง สำเร็จ 100% และเคลียร์บอลได้ถึง 10 ครั้ง มากที่สุดในเกมนี้
อีกทั้งลูก 2-0 เขาก็เป็นคนขึ้นเกมมาจากแดนหลัง และขึ้นมาซัดประตูแรกของตัวเองในซีซั่นนี้ด้วย
แบ๊คซ้าย : เลย์ตัน เบนส์ (เอฟเวอร์ตัน)
ตลอดทั้งเกม เบนส์ เข้าแย่งบอลได้ 4 ครั้ง, ป้องกันลูกโด่ง 4 ครั้งมากที่สุดในเกม และเป็นคนเซฟชีวิตเหล่า "ทอฟฟี่เมนส์" เมื่อรับหน้าที่สังหารจุดโทษอย่างเลือดเย็น เป็นประตูตีเสมอ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-1 ในช่วงท้ายเกม
กองกลาง : ไรอัน เฟรเซอร์ (เอเอฟซี บอร์นมัธ)
ตัวสำรองที่ลงมาเป็นซูเปอร์ซับชุบชีวิตให้กับ "เดอะ เชอร์รี่ส์" ในช่วงครึ่งหลังของเกมหลังโดนทีมเยือนอย่าง ลิเวอร์พูล บุกมานำ 2-0
เจ้าหนูเลือดสก็อตต์รายนี้ลงมาเรียกจุดโทษให้กับทีม เป็นลูกตีไข่แตกทำให้เจ้าถิ่นยังมีความหวัง และสังหารเอง 1 ดอก แถมยังแอสซิสต์ให้ สตีฟ คุ๊ก พังประตูตีเสมอ 3-3 ก่อนจะพลิกนรกกลับมาชนะได้สำเร็จ 4-3
กองกลาง : คริสเตียน เอริกเซ่น (ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์)
จอมทัพสุดหล่อของ "ไก่เดือยทอง" โชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมสุดๆในเกมเปิดบ้านเอาชนะสวอนซี 5-0 เมื่อ เอริกเซ่น มีชื่อทำ 2 ประตู และผ่านบอลให้ ซน เฮือง-มิน สังหารอีก 1 ครั้ง ส่งผลให้ผ่าน 14 เกม เจ้าตัวยิงไปแล้ว 3 ลูก และแอสซิสต์ 4 ครั้ง
กองกลาง : ซน เฮือง-มิน (ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์)
ดาวเตะเลือดโสม เล่นได้ตื่นตาตื่นใจเหลือเกินในเกมนี้ และทำ 1 ประตูได้ในจังหวะกระโดดยิงวอลเลย์สุดสวย แถมแอสซิสต์ให้ แฮร์รี่ เคน พังประตูได้ด้วย ถึงตอนนี้ ซน กดไปแล้ว 5 ประตูในลีก ถือเป็นซีซั่นที่เจ้าตัวทำผลงานได้ร้อนแรงจริงๆ
กองหน้า : อเล็กซิส ซานเชซ (อาร์เซนอล)
โหดร้ายทารุณคู่แข่งอย่างต่อเนื่องสำหรับ อเล็กซิส ซานเชซ หลังเพิ่งยิง 2 ประตูในเกมเอาชนะ บอร์นมัธ มาหมาดๆ
นัดนี้เจ้าตัวคลั่งอีกแล้ว หลังกดแฮตทริกใส่ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด แถมมี 1 แอสซิสต์ให้ เมซุต โอซิล ยิงเปิดหัวขึ้นนำ ก่อนสรุปสุดท้ายจะบุกไปเอาชนะเพื่อนร่วมเมืองได้ถึง 5-1
5 ประตู จาก 2 เกมหลังสุด ทำให้ตอนนี้เขาไปคั่วดาวซัลโวร่วมกับ ดิเอโก้ คอสต้า ที่ 11 ประตูเรียบร้อยแล้ว
กองหน้า : ดิเอโก้ คอสต้า (เชลซี)
ชัยชนะ 5 นัดหลังสุดของ เชลซี ต้องมีชื่อของ ดิเอโก้ คอสต้า เอี่ยวอยู่ด้วยทุกครั้ง ไม่ว่าจะซัดประตูได้หรือผ่านบอลให้เพื่อนทำสกอร์
เกมบิ๊กแม็ตช์กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็เช่นกัน เมื่อ คอสต้า ทำลายแนวรับของเจ้าถิ่นจนเปื่อยยุ่ย โดยเฉพาะ นิโกลัส โอตาเมนดี้ ที่หยุดหัวหอกกระทิงดุรายนี้ไม่อยู่เลย
นัดนี้เจ้าตัวเล่นได้อย่าง ดุดัน แข็งแกร่ง และทำได้ 1 ประตู กับ 1 แอสซิสต์ ให้ทีมบุกมาคว้าชัยถึง เอติฮัด สเตเดี้ยม 3-1 นำจ่าฝูงต่อไปอีก 1 สัปดาห์ ทิ้งอันดับสองอย่าง อาร์เซนอล 3 แต้ม และเป็นการชนะติดต่อกันในลีกเป็นเกมที่ 8 เข้าไปแล้วของทัพสิงโตน้ำเงินคราม!
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน
อัปเดตตลาดนักเตะ 2 ม.ค. 68 : แมนยู โละสตาร์เพียบ, โอลโม่ เนื้อหอม
อยากติดทีมชาติ! มาร์คัส แรชฟอร์ด ปฏิเสธข้อเสนอมหาศาลจากซาอุฯ
อัปเดตตลาดนักเตะ 1 ม.ค. 68 : ลิเวอร์พูล ปัดขาย เทรนต์, อาร์เซน่อล เล็ง เบลลิงแฮม !!!
ลาทีปีเก่า! 5 เป้าหมายหลักของ แมนยู ปี2025
ต่างจากยุค คล็อปป์ ! 5 การเปลี่ยนแปลงที่อาร์เน่อทำจนนำ ลิเวอร์พูล ฟอร์มโหด
อัลบั้มภาพเด็ดๆ
แม่เจ้าโว้ย! นักร้องสาวนุ่งบิกิน...
มาย ฮาเร็ม ส่งภาพเขย่าโซเชียล นุ...
เจนนี่ ธมนภัค พริตตี้สุดฮอต นุ่ง...
ฮาน่า ฮาอึน ชอง ดาว TikTok สาวสว...
นาฟ ฉัฐนันท์ ปล่อยแซ่บท้าลมหนาว ...
เต็มที่แล้ว! ไทย พ่าย อุซเบกิสถา...
คลิปไฮไลท์