ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ

วันอังคารที่ 27 ธันวาคม 2559

ลิเวอร์พูล 4 - สโต๊ค ซิตี้ 1

        สนาม: แอนฟิลด์

         เกมนี้มี เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ผู้จัดการทีมของแมนฯซิตี้ ที่มีโปรแกรมจะบุกมาเยือนแอนฟิลด์ ของลิเวอร์พูล ในศึกพรีเมียร์ลีก วันเสาร์ที่ 31 ธันวาคม นี้ มานั่งชมเกมอยู่บนอัฒจันทน์ด้วย เช่นเดียวกับ เดวิด มอยส์ กุนซือของซันเดอร์แลนด์ ที่มีโปรแกรมรับมือกับ ลิเวอร์พูล ในวันจันทร์ที่ 2 มกราคม ปีหน้า ก็มานั่งชมอยู่ด้วยเช่นกัน

         ออกสตาร์ตครึ่งแรกมาได้ประมาณ 6 นาที จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กองกลางกัปตันทีมของหงส์แดง ปั่นโค้งจากระยะ 22 หลา บอลข้ามคานไป

         เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 12 สโต๊ค ซิตี้ เป็นฝ่ายชิงขึ้นนำก่อน 1-0 จากจังหวะที่ มาเน่ ใช้อกแตะบอลไม่ดี เลยโดน เอริค ปีเตอร์ส แบ็กซ้ายของช่างปั้นหม้อ ตัดบอลได้แล้วกระชากขึ้นทางกราบซ้าย ก่อนโยนไปที่เสาแรกให้ โจนาธานวอลเตอร์ส โฉบมาขวิดที่เสาแรกเข้าประตูไปอย่างสวยงาม

         หกนาทีให้หลัง สโต๊ค น่าจะได้ประตูที่สอง เมื่อ โจ อัลเลน พาบอลเข้ามาทางกรอบเขตโทษด้านขวา ก่อนสับไกยิงทันที แต่ ซิมง มิโญเล่ต์ นายทวารลิเวอร์พูล ใช้เท้าช่วยเซฟไว้ได้ทัน บอลปลิ้นมาทางหว่างขาของ ปีเตอร์ เคร้าช์ ทำให้ไม่มีโอกาสยิง ทั้งที่ปากประตูโล่งๆ แล้ว

         เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 23 ลิเวอร์พูล น่าจะได้ประตูตีเสมอ เมื่อ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ดาวยิงชาวบราซิล ได้ยิงด้วยขวาบอลผ่าน ลี แกรนท์ นายทวารสโต๊ค ไปแล้ว ทว่า ปีเตอร์ เคร้าช์ กองหน้าที่ลงมาช่วยเกมรับ สามารถช่วยสกัดบอลทิ้งออกหลังไปได้ ก่อนที่บอลจะข้ามเส้นประตู

         อย่างไรก็ตามนาทีที่ 34 หงส์แดง มาได้ประตูตีเสมอ 1-1 จนได้จากจังหวะที่ ซาดิโอ มาเน่ ได้บอลทางกราบขวาแล้วผ่านเข้ากลาง เกล็น จอห์นสัน แบ็กของสโต๊คจะจับบอลแต่ไม่ดี เลยโดน อดัม ลัลลาน่า สปีดตามไปยิงด้วยขวามุมแคบจากระยะแค่ 6 หลา ทางกรอบเขตโทษด้านขวาบอลเข้าประตูไป

         พอได้ประตูตีเสมอ หงส์แดง โหมเข้าใส่อย่างหนัก มีโอกาสอีกในนาทีที่ 37 รักนาร์ คลาวาน เปิดให้กับ เจมส์ มิลเนอร์ ส่องไกลด้วยขวาจากนอกเขตโทษ แต่โดน ลี แกรนท์ นายทวารของสโต๊ค เซฟได้

         ก่อนหมดครึ่งแรกแค่นาทีเดียว เจ้าถิ่นมาได้ประตูแซงนำ 2-1 จากจังหวะที่ เจมส์ มิลเนอร์ จ่ายให้กับ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ แต่งหนึ่งจังหวะแล้วง้างเท้าตะบันด้วยซ้ายเต็มข้อจากทางกรอบเขตโทษด้านซ้ายบอลเช็ดเสาในทั้งสองเสา เข้าไปตุงตาข่ายช่วยให้ ลิเวอร์พูล นำก่อน 2-1 เมื่อหมดครึ่งแรก

         มาเล่นกันต่อในครึ่งหลัง เจ้าถิ่นยังเปิดเกมบุกแล้วมาได้ประตูที่สามในนาทีที่ 59 จากจังหวะที่ ดิว็อค โอริกี้ ได้บอลทางกราบซ้ายแล้วผ่านเข้ากลางจะให้ มาเน่ แต่ จานเนลลี่ อิมบูล่า กองกลางของสโต๊ค ตามมาสไลด์สกัดบอลเข้าประตูตัวเองไป สงเคราะห์ให้ลิเวอร์พูล นำห่าง 3-1 แล้ว

         สโต๊ค ต้องปรับทัพทันทีส่ง รามาดาน โซบี อาห์เหม็ด ลงมาเล่นแทน เกล็น วีแลน ในนาทีที่ 66

         อย่างไรก็ตามเป็นหงส์แดง ที่มาได้ประตูทิ้งขาด 4-1 ในนาทีที่ 70 เมื่อ ไรอัน ชอว์ครอสส์ ปราการหลังกัปตันทีมของสโต๊ค จ่ายบอลคืนหลังไม่ดี เลยโดน แดเนียล สเตอร์ริดจ์ กองหน้าเจ้าถิ่นที่เพิ่งเปลี่ยนตัวลงมาโฉบแย่งบอลไปได้แล้วเกี่ยวหนี ลี แกรนท์ นายทวารของสโต๊ค ก่อนยิงด้วยซ้ายเข้าประตูไปอย่างง่ายๆ และเป็นประตูแรกของสเตอร์ริดจ์ ในพรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้ด้วย

         เวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันไม่ได้อีก จบเกม ลิเวอร์พูล เปิดบ้านถล่มสโต๊ค 4-1 เก็บสามแต้มเต็มแซงกลับขึ้นไปรั้งรองจ่าฝูงตามเดิม มีแต้มตามหลังเชลซี จ่าฝูงอยู่ 6 คะแนน

        รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

         ลิเวอร์พูล : ซิมง มิโญเล่ต์ - เนธาเนียล ไคลน์, รักนาร์ คลาวาน, เดยัน ลอฟเรน, เจมส์ มิลเนอร์ - อดัม ลัลลาน่า (เอ็มเร่ ชาน น.68), จอร์แดน เฮนเดอร์สัน (กัปตันทีม), จอร์จินโย่ ไวนัลดุม - ซาดิโอ มาเน่, ดิว็อค โอริกี้ (แดเนียล สเตอร์ริดจ์ น.69), โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ (อัลเบร์โต้ โมเรโน่ น.78)

         สำรองไม่ได้ใช้ : ลอริส คาริอุส (ผู้รักษาประตู) - ลูคัส เลวา, โอวีมูโน่ เอยาเรีย, เบน วู้ดเบิร์น

         สโต๊ค ซิตี้ : ลี แกรนท์ - เกล็น จอห์นสัน, ไรอัน ชอว์ครอสส์ (กัปตันทีม), บรูโน่ มาร์ตินส์ อินดี้, เอริค ปีเตอร์ส - เกล็น วีแลน (รามาดาน โซบี อาห์เหม็ด น.66), จานเนลลี่ อิมบูล่า, โจ อัลเลน, มาเม่ บิราม ดิยุฟ (อิบราฮิม อเฟลลาย น.74) - โจนาธาน วอลเตอร์ส, ปีเตอร์ เคร้าช์

         สำรอง : เชย์ กิฟเว่น (ผู้รักษาประตู) - ชาร์ลี อดัม, เซอร์ดาน ชากิรี่, โบยัน เกร์กิช, วิลฟรีด โบนี่

         ผู้ตัดสิน: ไมเคิล โอลิเวอร์