หลุยส์ เอ็นรีเก้ กุนซือ บาร์เซโลน่า ระบุ ยังไม่เหลิงจนคิดถึงแชมป์ แม้ล่าสุดจะชนะ เรอัล มาดริด 3-2 ก็ตาม แต่รับ นี่นับเป็นผลการแข่งขันที่ยอดเยี่ยมสุดๆ สำหรับ "อาซูลกราน่า"

 หลุยส์ เอ็นรีเก้ เทรนเนอร์ บาร์เซโลน่า กล่าวว่าตนยังไม่เหลิงเกินไปแต่อย่างใด ถึงแม้ล่าสุดจะพาทีมบุกไปชนะ เรอัล มาดริด 3-2 ถึงสนาม ซานติอาโก้ เบร์นาเบว ในเกม ลา ลีกา สเปน ฉบับเอล กลาซิโก้ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 23 เมษายน ที่ผ่านมา จนทำให้พวกเขาขึ้นไปเป็นจ่าฝูงของตารางคะแนนแล้วก็ตาม

 เกมนี้เจ้าถิ่นขึ้นนำก่อนจาก คาเซมิโร่ ในนาทีที่ 28 แต่หลังจากนั้นทีมเยือนก็แซงนำ 2-1 จาก ลิโอเนล เมสซี่ ในนาทีที่ 33 กับ อีวาน ราคิติช ในนาทีที่ 73 แถมสถานการณ์ของ เรอัล ยังย่ำแย่ลงไปอีกเมื่อ เซร์คิโอ รามอส มาโดนใบแดงไล่ออกจากสนามในนาทีที่ 77

อย่างไรก็ตาม "ราชันชุดขาว" ก็ยังมาฮึดตีเสมอได้จาก ฮาเมส โรดริเกซ ในนาทีที่ 85 ซึ่งตอนแรกเกมทำท่าว่าจะจบด้วยสกอร์นี้แล้ว แต่อาคันตุกะมาได้เฮในช่วงทดเวลาบาดเจ็บจาก เมสซี่ จนทำให้ตอนนี้ บาร์เซโลน่า มี 75 คะแนน จากการลงเล่น 33 นัด เท่ากับ เรอัล แต่ "อาซูลกราน่า" ได้เป็นจ่าฝูงเพราะมีผลงานการเจอกันเอง (เฮด-ทู-เฮด) ดีกว่า ถึงกระนั้น ทีมของกุนซือ ซีเนดีน ซีดาน ก็ยังลงเล่นน้อยกว่าอยู่ 1 เกม

"ตอนนี้เราเป็นจ่าฝูงแล้วก็จริง แต่ มาดริด ยังลงเล่นน้อยกว่าเรา 1 นัด มันจะต้องลุ้นกันจนถึงนัดสุดท้าย ยังไงซะ วันนี้เราก็ได้ผลการแข่งขันที่ต้องการ สำหรับเราแล้วฤดูกาลนี้มันหนักหนากว่าปกติราว 5 เท่าได้ มันมีหลายอย่างเกิดขึ้น ทั้งเรื่องดีและเรื่องไม่ดี รวมถึงเรื่องที่ผมลืมไปแล้ว ประตูตีเสมอ 2-2 ของพวกเขามันส่งผลเสียกับเราอย่างมาก แต่บรรดานักเตะก็กลับมาได้ในช่วงท้ายเกม มันเป็นตอนจบแบบแฮปปี้เอ็นดิ้งที่คนของ บาร์เซโลน่า ทุกคนต้องการ" เอ็นรีเก้ ระบุ

ทั้งนี้ การทำ 2 ประตูในเกมนี้ส่งผลให้ เมสซี่ ยิงให้ บาร์เซโลน่า ถึงหลัก 500 ลูกจากการลงเล่นในทุกรายการแล้ว หลังก่อนหน้านี้ทำไป 498 ลูก นอกจากนี้ ตอนนี้เขาก็ยังเป็นดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลแบบเดี่ยวๆ ของเกม เอล กลาซิโก้ แล้วด้วย จากจำนวน 16 ประตู โดยก่อนหน้าเกมนี้เขาเป็นอันดับ 1 ร่วมกับ อัลเฟรโด้ ดิ สเตฟาโน่ ตำนานแข้งของ เรอัล ที่จำนวน 14 ลูก