ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » พรีเมียร์ลีก อังกฤษ » เจาะลึก 5 ประเด็นร้อน หลังหงส์เชือดวัตฟอร์ด จ่อท็อปโฟร์พรีเมียร์

เจาะลึก 5 ประเด็นร้อน หลังหงส์เชือดวัตฟอร์ด จ่อท็อปโฟร์พรีเมียร์

Posted 03/05/2017 by siamsport

ลิเวอร์พูลคว้าชัยชนะอย่างวัตฟอร์ด ชนิดที่แฟนๆต้องลุ้นหัวใจแทบวาย อย่างไรก็ตามพวกเขาได้สามแต้มสำคัญกลับออกไป และนี่คือประเด็นที่น่าสนใจหลังแมตช์นี้

1 เกมกับคริสตัล พาเลซเป็นแค่อุบัติเหตุ

         จุดที่น่าสนใจมาก ในการจัดไลน์อัพ 11 ตัวจริงของลิเวอร์พูล ก็คือพวกเขา ใช้ 11 ตัวจริงชุดเดียวกับเกมที่แพ้คริสตัล พาเลซ

         ทำไมเจอร์เก้น คล็อปป์ ถึงกล้ายึดตัวจริง โดยไม่เปลี่ยนแปลง ทั้งๆที่เพิ่งแพ้มา นั่นก็เป็นเพราะ เขามั่นใจในศักยภาพทีมที่มีอยู่ และรู้ว่าปัญหาในเกมที่แล้วกับพาเลซคืออะไร

         ในเกมกับพาเลซ ลิเวอร์พูลรับมือกับ หัวหอกอย่างเบนเตเก้ไม่ได้เลย แต่ในนัดนี้ พวกเขาไม่ปล่อยให้ทรอย ดีนี่ย์ กองหน้าวัตฟอร์ดได้โอกาสโจมตี เหมือนที่เบนเตเก้ทำ สังเกตได้ว่า วัตฟอร์ด ไม่มีโอกาสยิงจะจะเลย อย่างดีที่สุดก็คือการยิงไกลนอกเขตโทษ (ไม่นับลูกสุดท้ายของเซบาสเตี้ยน โพรเดิล)

         ลิเวอร์พูลใช้เกมพ่ายพาเลซ เป็นบทเรียนสำคัญ พวกเขาระมัดระวังลูกเซตพีซมากขึ้น และพวกเขารักษาสกอร์ขึ้นนำเอาไว้ด้วยชีวิต ไม่มีการเล่นติดประมาท ก่อนจะชนะ และเก็บสามแต้มได้สำเร็จ

2 เอ็มเร่ ชาน เริ่มเบ่งบาน

         เอ็มเร่ ชาน เป็นนักเตะที่มี ไดนามิคสูงมาก คือมีพลังในการขับเคลื่อน สามารถวิ่งขึ้นลงในสนามได้ตลอด นอกจากนั้น ยังมีพลังร่างกายที่แข็งแกร่ง ชนไม่ล้ม ยิงไกลก็ดี

         และในเกมกับวัตฟอร์ด สิ่งที่เราเห็นเพิ่มเข้ามาในตัวเขา คือ "ความพิเศษ" จะมีนักเตะมิดฟิลด์สักกี่คน ที่กล้าตีลังกายิงแบบนั้น แถมฟาดได้สวยงาม จนบอลเสียบตาข่ายอย่างสุดยอด

         ไม่ใช่แค่การยิงลูกนั้น แต่ยังมีหลายๆจังหวะที่เขาทำได้ดี การเล่นเกมรับที่มีวินัย ลูกจ่ายบอลคมๆ ให้ลัลลาน่า เกือบจะยิงประตูได้ เกมนี้ ชาน คือแมน ออฟ เดอะ แมตช์แน่นอน

         ช่วงต้นซีซั่น ชาน มีอาการเจ็บบ่อย มันทำให้เขาทำอะไรอย่างที่ใจอยากทำไม่ได้ คิดจะทำอย่างนึง แต่ร่างกายไม่ไปตามสมอง ซึ่งตอนนี้ ร่างกายเขาฟิต 100% แล้ว และเป็นคีย์แมนที่ทีมจะขาดไปไม่ได้เลย

3 มิโญเล่ต์พัฒนาขึ้นมาก รวมถึงแนวรับด้วย

         ซิมง มิโญเล่ต์ กลายเป็นคนที่แฟนหงส์แดง ฝากความหวังได้ ดูจากผลงานในช่วงหลัง การที่ลิเวอร์พูลมี 3 แต้ม เครดิตส่วนหนึ่งต้องยกให้เขาจริงๆ

         ในเกมกับวัตฟอร์ด ไม่ใช่แค่ 2 จังหวะที่เซฟลูกยิงของเอเตียน กาปู  กับดาริล ยานมัต เท่านั้น ตลอดเกม วัตฟอร์ดพยายามบอมบ์เข้าไปในเขตโทษ แต่มิโญเล่ต์ รับติดมือทุกครั้ง ไม่มีหลุด ไม่มีพลาดเลย

         เขาเคยโดนวิจารณ์หนัก เรื่องการรับลูกครอส การรับมือกับลูกเซตพีซ รวมถึงการออกบอล แต่ทั้งหมดนั้น มิโญเล่ต์แก้ไขแล้ว และถ้าเขายังฟอร์มดีแบบนี้ หงส์แดงก็ไม่จำเป็นต้องซื้อโกล์ใหม่ในซีซั่นหน้า

         ขณะที่คู่เซ็นเตอร์แบ็ก ก็เริ่มเข้าขากันมากขึ้น โจเอล มาติป มีความกล้า มีจังหวะกระชากจากแนวรับขึ้นไป ขณะที่เดยัน ลอฟเรน ก็แข็งแกร่ง อ่านเกมดี คู่นี้ถ้าเล่นกันได้แบบนี้ต่อไป หงส์แดง อาจเบาใจได้ไปเปลาะหนึ่ง

4 ลิเวอร์พูลไม่มีโอกาสพลาดอีกแล้ว

         ตอนที่แมนฯซิตี้ ตามหลังหงส์แดง 2 แต้ม และ แมนฯยูไนเต็ด ตามหลัง 3 แต้ม ขณะที่แข่งน้อยกว่า 2 เกมทั้งคู่ หลายคนมองว่า ทีมหงส์แดง ยังไงก็โดนแซง และถูกร่วงจากท็อปโฟร์แน่ๆ

         แต่ไปๆมาๆ หงส์แดงกลับมีโชค เพราะในเกมแมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ ทั้งสองทีมเสมอกัน 0-0 เท่ากับว่า ตัดแต้มกันเองทีมละ 2 แต้ม จากนั้นในเกมสุดสัปดาห์ แมนฯยูไนเต็ด เสมอสวอนซี 1-1 และ แมนฯซิตี้ บุกไปเสมอกับ โบโร่ 2-2 ในเกมที่ทั้งคู่ควรเป็นผู้ชนะ

         นั่นหมายความว่า ก็ยังไม่สามารถแซงลิเวอร์พูลได้ และทุกอย่างจึงกลับมาอยู่ในกำมือหงส์แดงอีกครั้ง พวกเขามีโอกาสตัดสินชะตาชีวิตตัวเอง

         อย่างไรก็ตาม หากดูโปรแกรมที่เหลือ แมนฯซิตี้ เหลืออีก 4 นัด เป็นเกมในบ้านซะ 3 พวกเขาคงไม่สะดุดแน่ๆ  เช่นเดียวกับแมนฯยูไนเต็ด ที่อาจเจอโปรแกรมยาก แต่ใครๆก็รู้ว่ามูรินโญ่ เขี้ยวแค่ไหน

         ยังไม่นับอาร์เซน่อล ที่นับแต้มจริงๆ ก็ตามหลังหงส์แดงไม่เท่าไหร่ อาจฟื้นกลับมาได้ ถ้าชนะติดๆกันสัก 2-3 เกม
 ดังนั้น ลิเวอร์พูลใช้โชคไปหมดแล้ว และถ้าพวกเขาอยากไปแชมเปี้ยนส์ลีก ซีซั่นหน้า เกมที่เหลืออีก 3 นัด จะพลาดไม่ได้อีกแล้ว

5 สิ่งที่หงส์แดงขาด คือแนวรุก

         ลิเวอร์พูล ต้องซื้อนักเตะมาเสริมทัพหลายรายในฤดูกาลหน้า ในกรณีที่พวกเขาได้ไปยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก และจุดสำคัญมากๆที่ต้องซื้อ คือ ผู้เล่นในแนวรุก ทั้งปีก และกองหน้าตัวเป้า

         ดิว็อค โอริกี้ ได้โอกาส 83 นาที แต่ทำได้ดีที่สุดแค่หวาดเสียว โอเคเจ้าตัวอายุแค่ 22 ยังมีพัฒนาการอีกมาก แต่จะให้ยืนตัวหลักทุกเกมบางทีก็ไม่ไหว

         ขณะที่แดเนียล สเตอร์ริดจ์ ยังแสดงให้เห็นถึงความคม และการเลี้ยงบอลที่คุกคาม แต่คำถามคือเรื่องของความฟิต ที่วันนี้เล่นได้ พรุ่งนี้อาจจะเจ็บก็ได้ ไม่มีใครรู้

         ดังนั้น การได้กองหน้าเกรดเอ ที่สามารถจบสกอร์ได้คม และมีร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ จึงเป็นสิ่งสำคัญมากของหงส์แดง คือจะใช้โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ เล่นฟอลส์ไนน์ ไปทุกนัด ก็อาจโดนคู่แข่งจับทางได้

         ไม่ใช่แค่กองหน้า แต่รวมถึงปีก และมิดฟิลด์ตัวรุกด้วย จะสังเกตได้ว่า ลิเวอร์พูล จะมี ปีก/มิดฟิลด์ตัวรุก ที่ใช้งานหลักๆสี่คน คือ มาเน่ , ลัลลาน่า , คูตินโญ่ และฟีร์มีโน่ นักเตะเหล่านี้ต้องหมุนเวียนลงเล่นทุกนัด

         ในเกมนี้ โชคดี ที่พอคูตินโญ่เจ็บ แล้วลัลลาน่า เสียบแทนลงต่อได้เลยในตำแหน่งใกล้ๆกัน แต่คำถามคือ ในซีซั่นหน้าถ้าต้องเล่นหลายถ้วย 4 คนนี้ ไม่พอแน่นอน

        ต้องติดตามต่อไปว่า สุดท้าย ลิเวอร์พูลจะซื้อใคร ในช่วงซัมเมอร์ แต่ก่อนอื่น สิ่งที่พวกเขาต้องรู้ก่อน คือในซีซั่นหน้าได้ไปแชมเปี้ยนส์ลีกหรือไม่

         ถ้าพลาด แผนทุกอย่างพัง แต่ถ้าได้ไป แฟนๆคงได้อ่านข่าว การซื้อตัวกันอย่างสนุกแน่นอน ในช่วงปิดฤดูกาล

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »