"เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ หวังเก็บชัยเพื่อทำอันดับลุ้นตั๋วลุยถ้วยยุโรปซีซั่นหน้า โดยจะส่ง ราฮีม สเตอร์ลิง ลงกระชากยิงประตูเกมพบ ''เดอะ แบ็กกี้ส์'' เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนวันอังคารที่ 16 พ.ค. ศกนี้ ถ่ายทอดสด : บีอิน สปอร์ตส์ 1 (เวลา : 02.00 น.)

ปรีวิวฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันอังคารที่ 16 พฤษภาคม 2560
แมนฯ ซิตี้  -  เวสต์บรอมวิช
ถ่ายทอดสด : บีอิน สปอร์ตส์ 1 (เวลา : 02.00 น.)

สนาม : เอติฮัด สเตเดี้ยม

        แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ลงเตะนัดตกค้างนัดที่ 37 เป้าหมายอยู่ที่การขับเคี่ยวชิงอันดับ 3 กับ ลิเวอร์พูล และยังต้องระวังหลัง เพราะอันดับ 5 อาร์เซน่อล ไล่จี้มากระชั้น

        เรือใบสีฟ้า กวาด 6 แต้มเต็มจาก 2 นัดหลังในบ้าน ที่ถล่ม คริสตัล พาเลซ 5-0 และเฉือนชนะ เลสเตอร์ 2-1 เมื่อวันเสาร์ ก่อนลงเล่นในรังนัดที่ 3 ติดต่อกัน

        กุนซือ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ซึ่งจบฤดูกาลมือเปล่าเป็นครั้งแรก ยืนยันว่า จอห์น สโตนส์ ที่เจ็บกล้ามเนื้อจนร้างสนามไปตั้งแต่ต้นเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา พร้อมเป็นตัวเลือกอีกครั้ง

        ส่วน ฟาเบียน เดลฟ์ (ขา), เคลาดิโอ บราโว่ (น่อง) และ อิลคาย กุนโดกัน (เข่า) ยังต้องพักยาวเหมือนเดิม

        การจัดทัพอาจไม่เปลี่ยนจากนัดก่อน ผู้รักษาประตู วิลลี่ กาบาเยโร่ ลงเฝ้าเสา แผงหลัง แฟร์นันดินโญ่, แว็งซ็องต์ ก็องปานี, นิโกลัส โอตาเมนดี้ และ กาแอล กลิชี่

        แดนกลาง ยาย่า ตูเร่ คุมเกมคนเดียว ขยับขึ้นมาแนวรุกมี ราฮีม สเตอร์ลิง, เควิน เดอ บรอยน์, ดาบิด ซิลบา, ลีรอย ซาเน่ และหน้าเป้า กาเบรียล เชซุส ได้รับโอกาสก่อน เซร์คิโอ อเกวโร่ เหมือนเดิม

        ส่วน เซร์คิโอ อเกวโร่ อาจเริ่มต้นข้างสนามต่ออีกนัด แม้หายเจ็บโคนขาหนีบกลับมาแล้วก็ตาม

        ฝั่ง เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ฟอร์มช่วงหลังย่ำแย่อย่างน่าเกลียด 6 นัด เสมอ 1 แพ้ถึง 5 ล่าสุดพ่ายคาบ้านต่อ เชลซี 0-1 เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

        กุนซือ โทนี่ พูลิส ยอมรับว่า แกเร็ธ แม็คคอลี่ย์ เซนเตอร์ตัวหลักที่บาดเจ็บจากนัดก่อน น่าจะไม่ฟิตพร้อมประจำการ ส่วน แม็ตต์ ฟิลลิปส์ ปีกที่เจ็บเอ็นหลังหัวเข่าอยู่ก่อนแล้ว ไม่พร้อมคืนสนามแน่นอน ขณะที่ ฮัล ร็อบสัน-คานู ต้องรอประเมินความฟิตจนนาทีสุดท้าย

        การจัดทัพ ผู้รักษาประตู เบน ฟอสเตอร์ ลงเฝ้าเสา แผงหลัง 4 คนประกอบด้วย เคร็ก ดอว์สัน, มาร์ค วิลสัน, จอนนี่ อีแวนส์ และ อัลแล็ง นียอม

        แดนกลาง ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ คุมเกมกับ เจค ลิเวอร์มอร์ แผงรุกเลือก คริส บรันท์, แซม ฟิลด์ และ เจมส์ แม็คคลีน ปั้นเกมข้างหลังหอกเป้า โฮเซ่ ซาโลมอน รอนดอน

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม             

        แมนฯ ซิตี้ (4-1-4-1) : วิลลี่ กาบาเยโร่ - แฟร์นันดินโญ่, นิโกลัส โอตาเมนดี้, แว็งซ็องต์ ก็องปานี, กาแอล กลิชี่ - ยาย่า ตูเร่ - ลีรอย ซาเน่, เควิน เดอ บรอยน์, ดาบิด ซิลบา, ราฮีม สเตอร์ลิง - กาเบรียล เชซุส

        เวสต์บรอมวิชฯ (4-2-3-1) : เบน ฟอสเตอร์ - เคร็ก ดอว์สัน, มาร์ค วิลสัน, จอนนี่ อีแวนส์, อัลล็อง นีย็อม - เจค ลิเวอร์มอร์, ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ - คริส บรันท์, แซม ฟิลด์, เจมส์ แม็คคลีน - ซาโลมอน รอนดอน

        ผู้ตัดสิน : เคร็ก พอว์สัน

ข้อมูลเพิ่มเติมที่น่าสนใจ
- แมนฯ ซิตี้ ชนะรวด 10 เกมพรีเมียร์ลีกหลังสุดที่พบเวสต์บรอมวิช เป็นคู่แข่งที่พวกเขาชนะติดต่อกันมากเป็นอันดับ 2 (ต่อจากนิวคาสเซิ่ล, 12 นัด, 2009-15)
- ในทางกลับกัน มีเพียงทีมเดียวที่เวสต์บรอมวิชแพ้ติดต่อกันมากกว่าแมนฯ ซิตี้นั่นคือ เชลซี (11, 2002-2011)
- โทนี่ พูลิส ชนะแค่ครั้งเดียวจาก 16 เกมลีกที่พบแมนฯ ซิตี้ (เสมอ 4 แพ้ 11) สมัยคุมสโต๊ค เมื่อมกราคม 2009
- เซร์คิโอ อเกวโร่ "กุน" ทำ 4 ประตูและ 2 แอสซิสต์จาก 4 เกมลีกที่เปิดบ้านพบเวสต์บรอมวิช
- กาเบรียล เชซุส มีส่วนร่วม 7 ประตูจาก 6 เกมลีกที่เป็นตัวจริง (ยิง 5, แอสซิสต์ 2) โดยกองหน้าบราซิเลียน ยิงได้ 5 ประตูจากการยิงเข้ากรอบ 7 ครั้งในพรีเมียร์ลีก
- 47.5% ของประตูที่เวสต์บรอมวิชทำได้ในฤดูกาลนี้ ได้จากเซ็ตพีช (ไม่รวมจุดโทษ) เป็นอัตราสูงสุดในลีก โดยได้ 15 ประตูจากลูกเตะ มากที่สุดในลีกอีกเช่นกัน
- นับตั้งแต่ชนะ 3-1 เหนืออาร์เซน่อล เมื่อ 18 มีนาคม "แบ็กกี้ส์" ยังไม่ชนะใครนับจากนั้น โดยยิงไม่ได้ 6 จาก 7 เกม (เสมอ 2 แพ้ 5)
- แมนฯ ซิตี้ ชนะ 7 และไม่แพ้ใน 11 เกมพรีเมียร์ลีกที่เอติฮัด สเตเดี้ยม โดยหนล่าสุดที่พวกเขาไม่แพ้ 12 เกมในบ้าน เกิดขึ้นเมื่อธันวาคม 2012 (37 เกม)
- เควิน เดอ บรอยน์ ทำ 15 แอสซิสต์ในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ มากที่สุดในบรรดาแมนฯ ซิตี้ ต่อหนึ่งฤดูกาล (เท่ากับ ดาบิด ซิลบา ฤดูกาล 2011-12)