อันโตนิโอ คอนเต้ เริ่มเก้าอี้สั่นหลังพาแชมป์เก่า "สิงห์บลูส์" พ่ายเป็นนัดที่สองติดต่อกัน เมื่อต้องเล่นแค่10คนตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงแรกก่อนจะโดน "แตนอาละวาด" ไล่ถลุงยับเยิน 4-1 ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 19 ปี นับแต่ปี 1999 ที่คว้าชัยเหนือเชลซีได้ ในเกมพรีเมียร์ลีก เมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันจันทร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ 2561
วัตฟอร์ด 4 - เชลซี 1

สนาม : วิคาเรจ โร้ด

    เกมพรีเมียร์ลีก นัดมันเดย์ไนท์ เจ้าถิ่น "แตนอาละวาด" วัตฟอร์ด ของ ฆาบี การ์เซีย ไม่ชนะในลีกมา 5 เกมติดต่อกันแล้ว ล่าสุดบุกไปเสมอกับ สโต๊ค 0-0 เกมนี้วางแนวรุกส่ง ทรอย ดีนี่ย์ เป็นหน้าเป้า และให้ เคราร์ด เดวโลเฟว ปั้นเกมร่วมกับ ริชาร์ลิซอน

    ส่วนทางฝั่งแชมป์เก่า ของ อันโตนิโอ คอนเต้ กุนซือเชลซี ซึ่งเพิ่งเสียฟอร์มแพ้คาบ้านเมื่อเกมที่ผ่านมาให้ บอร์นมัธ 0-3 เกมนี้ ดาวิด ลุยซ์ ได้ออกสตาร์ทตัวจริงครั้งแรกนับแต่ปลายเดือนตุลาคมปีที่แล้ว แนวรุก ยังวางใจให้ เอแด็น อาซาร์ ยืนเป็นหน้าเป้าไปก่อน โดยมี วิลเลี่ยน และเปโดร สนับสนุน ขณะที่ โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ดาวยิงตัวใหม่ที่ย้ายมาจากอาร์เซน่อลเป็นแค่สำรอง เช่นเดียวกับ เอเมอร์สัน ฟูลแบ็กชาวบราซิเลี่ยนตัวใหม่

    จังหวะยิงหนแรกเป็นของเจ้าถิ่น นาที 8 แนวรับสิงห์บลูส์สกัดบอลไม่ดี ไปเข้าทาง ดูกูเร่ ที่เก็บบอลได้ก่อนซัดด้วยขวาบอลบดออกหลังไป นาทีเดียวต่อมา เดวโลเฟว กระชากบอลขึ้นทางขวาก่อนสับไกเต็มแรงบอลพุ่งเข้าข้างตาข่าย

    นาที 12 ทีมเยือนได้ลุ้นบ้างคราวนี้ บอลขึ้นทาง โมเสส ครอสบอลมาติด โฮเลบาส ไปเข้าทางปืน วิลเลี่ยน วิ่งมาอัดระยะแค่10หลาบอลเหินคานไปแบบได้เสียว

    เกมผ่านไปครึ่งชั่วโมง สถานการณ์ของ สิงห์บลูส์ แย่ลงเมื่อต้องเหลือผู้เล่นแค่ 10 คน หลัง ตีเยมูเอ้ บากาโยโก้ ไปเสียบ ริชาร์ลิซอน ข้างหลัง เคร็ก พาวสัน แจกใบเหลืองที่สองหลังจากเพิ่งแจกใบแรกเมื่อ 5 นาทีก่อน เป็นใบแดงไล่ออกจากสนามไป

    คอนเต้ แก้แท็คติก ด้วยการเปลี่ยนตัวคนแรก ในนาที 34 ส่ง เชส ฟาเบรกาส ลงไปเล่นแทน วิลเลี่ยน

    แต่เกมของ "สิงห์บลูส์" ก็ยังไม่ดีขึ้น กลายเป็น "เดอะ ฮอร์เน็ตส์" ที่ตัวมากกว่าดาหน้าเปิดเกมรุกเข้าใส่ และนาที 41 เดวโลเฟว เรียกจุดโทษให้เจ้าถิ่นจนได้ หลังหลุดเข้าไปโดน กูร์กตัวส์ รวบล้มในเขตโทษ ผู้ตัดสินชี้เป็นลูกที่จุดโทษทันที และเป็น ทรอย ดีนี่ย์ กัปตันทีมสังหารเข้าไป วัตฟอร์ด ขึ้นนำ 1-0

    ช่วงทดเจ็บ ทีมเยือนมีโอกาสได้ลุ้นจาก เปโดร แต่ยิงข้ามคานออกไป จบครึ่งแรก วัตฟอร์ด ออกนำ เชลซี 1-0 

    ครึ่งหลัง ทีมเยือนยังเล่นกันแบบสะเปะสะปะ ผิดกับ วัตฟอร์ด ที่เล่นด้วยความคึกคักและนาที 58 หวิดลุ้นหนีห่าง เมื่อ เดวโลเฟว เก็บตกบอลจากนอกรอบก่อนยิงไปเสาสองบอลถากเสาออกไปนิดเดียว

    ถัดมาแค่นาทีเดียว ริชาร์ลิซอน แย่งบอลได้จากความผิดพลาดของเกมรับเชลซี ก่อนตะบันเต็มข้อบอลพุ่งหลุดกรอบเช่นกัน

    นาที 63 ทีมเยือนเปลี่ยนตัวคนที่สอง ส่ง โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ดาวยิงตัวใหม่ลงมาเล่นแทน เปโดร ที่มีอาการเจ็บ ส่วนทางฝั่งวัตฟอร์ด ถอดเอา ริชาร์ลิซอน ออกแล้วส่ง โรแบร์โต้ เปเรยร่า ลงเล่นแทน

    นาที 66 ทรอย ดีนี่ย์ โขกตั้งบอลให้ ดูกูเร่ ลากจากครึ่งสนามเข้ามาซัดด้วยซ้ายบอลพุ่งเสาแรกแต่บอลยังไม่ผ่านมือ กูร์กตัวส์ เซฟออกไปได้

    นาที 76 ยังเป็นเจ้าถิ่นที่ได้ลุ้นเรื่อยๆ คราวนี้เป็น โฮเซ่ โฮเลบาส ตั้งป้อมยิงไกลนอกกรอบแต่บอลก็พุ่งไม่หนีตัว กูร์กตัวส์ ถึงตอนนี้สถิติการยิงเป็น วัตฟอร์ด ที่มีโอกาสส่องถึง 16 หน ส่วนสิงห์บลูส์แค่ 3 ครั้งชนิดไม่กรอบอีกด้วย

    ต้องรอถึงสิบนาทีสุดท้าย สิงห์บลูส์ จะลุ้นยิงเข้ากรอบเป็นครั้งแรก จาก ฟาเบรกาส ที่กดเสาแรกแต่บอลไม่ผ่านมือ คาร์เนซิส
    กระนั้น นาที 82 เจ้าถิ่นต้องมาเสียประตูจนได้ เมื่อเจอทีเด็ดของ อาซาร์ เข้าไปหลังพลิกหลบแนวรับเจ้าถิ่น ก่อนซัดด้วยขวานอกกรอบบอลพุ่งหนีมือ คาร์เนซิส เข้าไปอย่างสวยงาม เชลซี ตีเสมอเจ้าถิ่น 1-1

    แต่แล้วแค่สองนาทีต่อมา กลายเป็นฝั่งสาวก แตนอาละวาด ที่ได้เฮกันลั่นอีกครั้ง เมื่อได้ประตูขึ้นนำ 2-1 จากจังหวะที่ ยานมัต ทำชิ่งหนึ่งสอง เปเรยร่า ก่อนที่ฟลูแบ็กชาวดัตช์จะหลุดเข้าไปยิงบอลผ่านตัว กูร์กตัวส์ ซุกก้นตาข่าย เป็นประตูที่ 3 ของเจ้าตัวในซีซั่นนี้

    เท่านั้นยังไม่พอ สกอร์ของเจ้าถิ่นไหลเป็น 3-1 เดวโลเฟว ที่เล่นได้โดดเด่นในวันนี้ รับบอลจากกลางสนามก่อนกระชากตัดเข้ากลางเข้าไปยิงแฉลบ เคฮิลล์ เข้าไป

    ช่วงทดเจ็บ แตนอาละวาด มาได้ประตูปิดท้ายเป็น 4-1 ดูกูเร่ จ่ายบอลให้ โรแบร์โต้ เปเรยร่า ตัวสำรองยิงเข้าไปอย่างสวยงาม จบเกม วัตฟอร์ด ไล่ถล่ม เชลซี ยับเยิน 4-1 และเป็นหนแรกในรอบ 19 ปี นับแต่ปี 1999 ขณะที่ อันโตนิโอ คอนเต้ เก้าอี้เริ่มร้อนหลังพาทีมพ่ายติดต่อกันเป็นนัดที่สอง

    รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

    วัตฟอร์ด (3-4-2-1) : โอเรสติส คาร์เนซิส - เอเดรียน มาริอัปป้า, เซบาสเตียน โพรเดิ้ล, โฮเซ่ โฮเลบาส - ดาริล ยานมัต, เอเตียน กาโป, อับดูลาย ดูกูเร่, มาร์วิน ซีเกลาร์ - เคราร์ด เดวโลเฟว, ริชาร์ลิซอน - ทรอย ดีนี่ย์

    ผู้จัดการทีม : ฆาบี การ์เซีย

    เชลซี (3-4-3) : ติโบต์ กูร์กตัวส์ - เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า, ดาวิด ลุยซ์, แกรี่ เคฮิลล์ - ดาวิเด้ ซัปปาคอสต้า, เอ็นโกโล่ ก็องเต้, ตีเยมูเอ้ บากาโยโก้, วิคเตอร์ โมเสส - วิลเลี่ยน, เอแด็น อาซาร์, เปโดร โรดริเกซ

    ผู้จัดการทีม : อันโตนิโอ คอนเต้

    ผู้ตัดสิน : เคร็ก พาวสัน