การตามหลังจ่าฝูงถึง 19 แต้มและต้องอยู่อันดับที่ 4 รวมถึงช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ต้องแพ้ให้กับทั้งวัตฟอร์ดและบอร์นสมัธ นอกจากอันโตนิโอ คอนเต้ที่จะต้องรับผิดชอบแล้ว ผู้เล่นเชลซีก็ต้องมีส่วนด้วยเช่นกัน หลายคนทำผลงานได้ต่ำกว่ามาตรฐาน นักเตะเหล่านั้นมีใครบ้างไปดู

1.ติเอมูเอ้ บากาโยโก้

 อดีตกองกลางโมนาโกรายนี้ ย้ายมาในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา เพื่อหวังจะเป็นตัวแทนเนมานย่า มาติช ที่ย้ายไปเล่นให้กับผีแดง บากาโยโก้ลงเล่นถึง 24 นัดจาก 26 นัดในพรีเมียร์ลีก แต่ตลอด 7 เดือนที่ผ่านมา เขาทำผลงานไม่เป็นที่ถูกอกถูกใจชาวสิงห์บลูเท่าไหร่นัก

เขาเริ่มต้นฤดูกาลด้วยอาการบาดเจ็บ ก่อนที่เชลซีต้องรีบเข็นลงสนามช่วงเดือนถัดมาเพราะนักเตะหลายคนมีอาการบาดเจ็บ ซึ่งในช่วงแรก บากาโยโก้ ดูเหมือนจะเริ่มปรับตัวกับพรีเมียร์ลีกได้ แต่ทว่าหลังจากได้เป็นผู้เล่นตัวจริงหลายต่อหลายนัด เขากลับก่อความผิดพลาดมากมาย เขาทำฟาวล์ไปถึง 41 ครั้งตลอด 24 นัด ซึ่งมากกว่านักเตะเชลซีทุกคน และเป็นถึงอันดับที่ 4 ในพรีเมียร์ลีก เขาแย่งบอลสำเร็จแค่ 39 % เท่านั้น ทำให้เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ต้องทำงานหนักในแดนกลางมากขึ้น แถมในนัดล่าสุดเขาลงเล่นไปแค่ 29 นาทีก็ต้องโดนใบเหลืองที่สองหลังจากทำฟาวล์หลายต่อหลายครั้ง กองกลางวัย 23 ปีรายนี้คงต้องหาฟอร์มเก่งสมัยค้าแข้งอยู่กับโมนาโกต่อไป 

2.แกรี่ เคฮิลล์

ปราการหลังอังกฤษรายนี้รับปลอกแขนกัปตันทีมต่อจากจอห์น เทอร์รี่ ที่ย้ายออกจากทีมไปในช่วงซัมเมอร์ แต่เขากลับกลายเป็นจุดอ่อนที่สุดในแผงหลังของทีม ใน 19 ประตูจาก 23 ประตูที่เชลซีเสียทั้งหมดมีเคฮิลล์เป็นผู้เล่นตัวจริง  นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมคอนเต้ถึงดร็อปเขาในข่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งกลายเป็นว่าแผงหลังที่มี อันเดรียส คริสเตนเซ่น, เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า และอันโตนิโอ รือดิเกอร์ จะเป็นแผงหลังดูดีที่สุดของเชลซี โดยเฉพาะในรายของ คริสเตนเซ่น ที่แจ้งเกิดกับทีมได้ในฤดูกาลนี้ เมื่อขาดกองหลังดาวรุ่งรายนี้ไป สิงห์บลูมักจะมีปัญหาในเกมรับทุกครั้ง ซึ่งในเกมล่าสุดกับวัตฟอร์ต คริสเตนเซ่น ก็ได้รับบาดเจ็บ ทำให้เคฮิลล์ได้ลงสนามแทน และเขาก็มีส่วนทำให้ทีมเสียไปถึง 4 ประตู ดังนั้นหากจะยึดตัวจริงทีมชาติอังกฤษในฟุตบอลโลกที่จะถึงนี้ เคฮิลล์ คงต้องเร่งฟอร์มตัวเองให้มากขึ้น

3.อัลบาโร่ โมราต้า

 การขาดหายไปของดีเอโก้ คอสต้า ทำให้เชลซีต้องไปปาดหน้าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเพื่อคว้าตัวเขามาในช่วงตลาดหน้าร้อน ถึงแม้ว่าเขาจะเริ่มต้นฤดูกาลได้อย่างสวยงามด้วยการยิงไป 6 ประตู จาก 6 นัดแรกที่ลงเล่น แต่หลังจากนั้นเขากลับทำผลงานได้น่าผิดหวัง ทั้งๆที่เขาทำ 6 ประตูแรกจากลูกโหม่งทั้งหมด แต่โมราต้ากลับเอาชนะลูกกลางอากาศได้แค่ 37 ครั้งจากการดวลขึ้นโหม่ง 77 ครั้ง

    นอกจากนี้เขามักจะพลาดโอกาสทองหลายต่อหลายครั้ง จะเห็นได้จากเกมกับ อาร์เซน่อล ที่มีโอกาสยิงมากมายแต่กลับพลาดแบบไม่น่าเชื่อ โดยในฤดูกาลนี้เขามีโอกาสยิงไปทั้งหมด 59 ครั้ง แต่กลับยิงตรงกรอบ 26 ครั้ง ทำ 10 ประตู คิดเป็นแค่ 21.9 % เท่านั้นเอง นอกจากการจบสกอร์ที่เป็นปัญหาแล้วเขาต้องเจอกับปัญหาอาการบาดเจ็บที่ทำให้เขาพลาด 4 เกมหลังสุดอีกด้วย

4.เปโดร โรดริเกซ

เป็นอีกหนึ่งกำลังสำคัญที่พาสิงห์บลูเป็นแชมป์ในฤดูกาลที่แล้ว แต่ในฤดูกาลนี้กลับกลายเป็นตัวเลือกในม้านั่งสำรองของคอนเต้มากกกว่า ถึงแม้ว่าในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เขาได้ลงสนามบ่อยขึ้นเนื่องจากทีมต้องดันเอแด็น อาซาร์ไปเล่นในตำแหน่งศุนย์หน้า เขาเลยได้ลงสนามแทนที่ในตำแหน่งอาซาร์ แต่กลับทำผลงานได้น่าผิดหวัง ฤดูกาลนี้เขาสร้างโอกาสให้ทีมทำประตูแค่ 19 ครั้งเท่านั้นจาก 20 เกมที่ลงเล่น และเพิ่งทำแอสซิสต์ได้แค่ 2 ครั้ง โดยครั้งสุดท้ายต้องย้อนกลับไปเดือนตุลาคมที่เชลซีชนะวัตฟอร์ต 4-2 ส่วนการทำประตูเขายิงไปแค่ 4 ประตูจากโอกาสยิงทั้งหมด 47 ครั้ง น่าสนใจว่าถ้าวิลเลี่ยนหายจากอาการบาดเจ็บมาหรือถ้าชิรูด์ ลงเล่นในตำแหน่งกองหน้า จะทำให้เปโดรหลุดจาก 11 ผู้เล่นตัวจริงหรือไม่

5.วิคเตอร์ โมเซส

ปีที่แล้วฟูลแบ็ครายนี้ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมทั้งเกมรุกและเกมรับ เป็นอีกหนึ่งส่วนสำคัญที่พาทีมคว้าแชมป์ แต่ฤดูกาลนี้เขาทำผลงานได้น่าผิดหวัง ฟอร์มยังถือว่าไม่คงเส้นคงวา เขาลงสนามไปทั้งหมด 18 นัดเพิ่งจะทำประตูและแอสซิสต์ไปแค่อย่างละครั้ง  เขามีโอกาสโยนเข้ากรอบเขตโทษมากถึง 60 ครั้งแต่ความแม่นยำในการเปิดบอลมีแค่ 15% เท่านั้น เมื่อเทียบกับฟูลแบ็คอีกฝั่งอย่างมาร์กอส อลอนโซ่  ที่ยังยิงประตูและทำแอสซิสต์ได้อย่างต่อเนื่องแล้ว  มันก็คนละเรื่องกันเลย นอกจากนี้เขามักจะมีอาการบาดเจ็บรบกวนในปีนี้ทำให้ลงเล่นไม่สม่ำเสมอ แถมยังมีดาวิเด้ ซัปปาคอสต้า คอยแย่งชิงตำแหน่งอยู่อีกด้วย