การเก็บ 12 แต้มเต็มพร้อมกับปราบเซาธ์แฮมป์ตันเข้าชิงชนะเลิศฟุตบอลเอฟเอ คัพ น่าจะเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงที่สุดของกุนซืออันโตนิโอ คอนเต้ ในฤดูกาลนี้ ยังทำให้ตอนนี้ทีมกลับมามีลุ้นพื้นที่แชมเปียนส์ลีกอีกครั้ง โดยหวังเก็บชัยในคืนนี้เพื่อไปลุ้นต่อนัดสุดท้าย แต่หลายคนคงสงสัยว่า คอนเต้ ปรับแท็คติกอย่างไรทำไมถึงเพิ่งมาฟอร์มร้อนแรง เรามีคำตอบ

ยังจำกันได้ไหมว่าเมื่อต้นเดือนเมษายน เชลซีโดนท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ บุกมาอัดคาบ้านเป็นครั้งแรกในรอบ 28 ปี แถมสัปดาห์ถัดมาทำได้แค่เสมอเวสต์แฮม จนสิงห์บลูส์แทบหมดสิทธิ์ไปแชมเปียนส์ลีกเพราะห่างสเปอร์สถึง 10 แต้มและเหลืออีก 6 เกมเท่านั้น

 ไม่เท่านั้นในเกมถัดมา จาก "แย่" จะกลายเป็นคำว่า "เลวร้าย" อยู่แล้วเพราะพวกเขาโดน เซาธ์แฮมป์ตันนำไปถึง 2-0 แต่ไม่น่าเชื่อ สิงห์บลูส์ ก็แก้เกมและพลิกนรกแซงนักบุญไป 3-2 และหลังจากนั้นก็ติดเครื่องยาวเมื่อคว้าชัย 5 เกมติด มาดูกันว่าคอนเต้ปรับเปลี่ยนทีมอย่างไรถึงทำทีมกลับมาฟอร์มร้อนแรงจนได้ลุ้นฟุตบอลยุโรปอีกครั้ง

1.ดร็อปอันเดรียส คริสเตนเซ่น

 แม้ว่าฤดูกาลนี้จะเป็นฤดูกาลยอดเยี่ยมของ ปราการหลังวัย 21 ปี หลังจากหักด่านขึ้นมาเป็นตัวจริงได้อย่างต่อเนื่องในช่วงกลางฤดูกาล แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในเกมใหญ่เฉกเช่น เกมกับบาร์เซโลน่า, แมนฯยูไนเต็ด และแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เขายังไม่พร้อมเท่าที่ควร

 หลังจากมีส่วนทำพลาดในเกมดังกล่าวก็ทำให้ คอนเต้ กลับมาเลือกใช้ กัปตันทีมอย่าง แกรี่ เคฮิลล์ ที่ฟอร์มย่ำแย่ในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งกลายเป็นว่าเขากลับมาทำผลงานได้ดี โดยเก็บคลีนชีตไป 3 นัดติดต่อกัน ในเกมล่าสุดกับหงส์แดง เคฮิลล์เคลียร์บอลได้ 7 ครั้งเป็นรองแค่รูดิเกอร์ที่ทำไป 9 ครั้ง ไม่แน่ว่าการเป็นตัวจริงของเขาอาจจะส่งผลไปต่อตัวจริงในทีมชาติก็เป็นได้

2.ชิรูด์ผู้นี้นี่เอง!

หลังจากช่วงต้นฤดูกาลเชลซีได้ขายดีเอโก้ คอสต้าออกจากทีมแล้วสอยกองหน้าหน้าหล่อของเรอัล มาดริดอย่างอัลบาโร่ โมราต้า มาร่วมทัพ ทำให้แฟนบอลคาดหวังในการถล่มสกอร์ของเขาเหมือนกับที่คอสต้าเคยทำ แม้ช่วงเริ่มฤดูกาลจะเริ่มต้นได้ดี แต่พอผ่านไปหลายเกมโมราต้ากลับเท้าบอดไปซะอย่างนั้น แถมยังใช้โอกาสเปลืองในหลายต่อหลายเกม ดังนั้นทำให้ช่วงตลาดหน้าหนาว คอนเต้ ไปแอบสอย โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์มาจากอาร์เซน่อลเพื่อมาแย่งตัวจริงในแดนหน้า ซึ่งหลังจากชิรูด์เป็นซุปเปอร์ซับลงมายิง 2 ประตูใส่เซาธ์แฮมป์ตัน เขาได้เป็นตัวจริงตลอดพร้อมซัดไปอีก 2 ประตู ทำให้ในที่สุดเชลซีก็หาผู้เล่นที่เหมาะกับตำแหน่งนี้สักที

3.แผนลงล็อค

    ไม่ใช่แค่การมาของ ชิรูด์ ทำให้โชคมาอยู่ทางฝั่งสิงห์บลูส์ แต่ยังทำให้แผน 3-5-2 ของคอนเต้ลงล็อค มิดฟิลด์ 3 คนในแดนกลางทำให้แนวรุกสามารถอยู่ด้านหน้าได้ตลอดส่งผลให้การโต้กลับน่ากลัวเช่นกัน การมีชิรูด์ ยืนค้ำหน้าก็ทำให้เอแด็น อาซาร์ สามารถมีอิสระในแนวรุก ถึงที่ผ่านมา อาซาร์ จะไม่ได้มีส่วนร่วมทำประตู แต่ก็มีอิทธิพลกับเกมเป็นอย่างมาก ดูเหมือนเขาจะสนุกกับการเล่นแดนหน้ากับชิรูด์เป็นอย่างมาก

4.เข็นบากาโยโก้ต่อ

การกลับมาของ ติเอมูเอ้ บากาโยโก้ ก็เป็นอีกหนึ่งส่วนสำคัญ แม้ว่าช่วงกลางฤดูกาลเขาจะโชว์ฟอร์มย่ำแย่จนแฟนเชลซีถึงกับเบือนหน้าหนี  ยิ่งโดนไล่ออกในเกมกับวัตฟอร์ดยิ่งทำให้อนาคตของเขาในถิ่นสิงห์บลูส์กลายเป็นคำถาม แถมหลังจากเกมนั้นเขาได้ลงอยู่แค่ 2 นาทีใน 6 เกมถัดมา

บากาโยโก้ กลับมาเป็นตัวจริงอีกครั้งในเกมกับเบิร์นลีย์ ซึ่งเป็นเกมก่อนเอฟเอ คัพรอบรองฯ หลังจากนั้นเกมกับทั้งสวอนซีและลิเวอร์พูล เขาก็กลับมาเป็นตัวจริงและทำผลงานได้อย่างดีเยี่ยม มิดฟิลด์วัย 23 ปีดูมีความมั่นใจมากขึ้น สามารถเล่นเกมรับคู่กับก็องเต้ได้เป็นอย่างดี มีผลทำให้ฟาเบรกาสสามารถขึ้นไปเล่นเกมรุกได้

ในเกมกับหงส์แดง เขาเป็นผู้เล่นที่แย่งบอลได้เยอะที่สุดในทีม แถมเขายังเป็นจ่ายบอลให้โมเซสก่อนจะนำไปซึ่งประตูชัยของชิรูด์ ถ้ายังรักษาฟอร์มที่ดีแบบนี้ต่อไปคาดว่าฤดุกาลหน้าอาจจะยึดตัวจริงถาวรก็เป็นได้