ผลงานของ “เบิร์นลีย์” ในฤดูกาลนี้ที่จบด้วยอันดับ 7 ได้สิทธิ์ไปเล่นฟุตบอลยูโรปา ลีกแบบหักปากกาเซียน

หนึ่งในผู้เล่นที่ได้รับการยกย่องว่ามีส่วนสำคัญมากทีเดียวคือ “นิก โปป”

ในฐานะทีมกลางตาราง ค่อนไปทางการถูกมองว่าจะหนีตกชั้นด้วยซ้ำ กองหลังสร้างงานให้โปป เป็นระยะๆแต่ โปป พลิกวิกฤตเป็นโอกาสเมื่อเขาเซฟอุตลุดจนล่าสุดมีชื่อติดเป็นหนึ่งในสามนายทวารทีมชาติอังกฤษชุดลุยฟุตบอลโลก “รัสเซีย 2018” เบียด “โจ ฮาร์ต” นายทวารขาประจำจนตกขอบหลุดโผ

แต่ใครจะเชื่อว่า นายด่านวัย 26 ปีคนนี้ เมื่อ 7 ปีก่อนหน้านี้ เขายังมีอาชีพเสริมเป็น “เด็กส่งนม” อยู่เลย
โปป ยอมลดตัวไปเล่นซัลฟอล์ก บอร์เดอร์ ลีก หลังโดนอิปสวิช ทีมที่สร้างเขามาตั้งแต่อายุ 16 ปียกเลิกสัญญา และกลับไปเรียนวิทยาลัยทางธุรกิจ โดยระหว่างนั้น โปป ต้องไปทำงานเสริมเป็นเด็กส่งนมตามบ้านเพื่อหาเงินจ่ายค่าเทอม

“ริชาร์ด ไรต์ คือฮีโร่ของผม เขาคือผู้รักษาประตูที่ดีที่สุด อิปสวิชคือทีมที่ผมเชียร์ แต่เมื่อคุณถูกสโมสรบอกว่าคุณดีไม่พอ และไม่เป็นที่ต้องการในวัย 16 ปีมันเหมือนโลกจะถล่มตรงหน้า ผมทุ่มเททั้งชีวิตฝึกซ้อมและแข่งขัน”

“ผมดีไม่พอ ก็คงจริง ผมเห็นด้วย ผมดีไม่พอในช่วงเวลานั้น ผมดีไม่พอที่จะได้ทุน มันมีคนที่ดีกว่า และคุณจำเป็นต้องเป็นคนเดียวที่ดีที่สุด”

หลังจากนั้น โปป ยังไม่ยอมแพ้ ฟอร์มหนึบในลีกล่างทำให้เขาถูกบิวรี่ ทาวน์ดึงตัวไป และเริ่มมีชื่อเสียงกับชาร์ลตัน ซึ่งริชาร์ด วิลกิ้น กุนซือใหญ่ในเวลานั้น มองว่า โปป เหมาะกับการไปหาประสบการณ์ และช่วง 4 ปี โปป ถูกยืมตัวไปเล่นกับ แฮร์โรว์โบโร่, เวลลิง ยูไนเต็ด, แคมบริดจ์ ยูไนเต็ด, อัลเดอร์ชอต ทาวน์, ยอร์กซิตี้ และ บิวรี่

และสร้างชื่อกับ เบิร์นลีย์ จนติดทีมชาติอังกฤษที่สุด

“ผมเรียนด้านการตลาด และธุรกิจอยู่ 2 ปี ซึ่งมีวิชาเกี่ยวกับกีฬาด้วย และผมต้องทำงานอื่นไปด้วย ผมเป็นเด็กส่งนม ไปส่งตามหมู่บ้านในตอนตี 4 แล้วจากนั้นก็ไปเล่นในเกมลีกล่างๆระดับดิวิชั่น 7 อยู่ 150 นัดในช่วง 3 ปี มันทำให้ผมเติบโตขึ้นมาก”