อังกฤษ โชว์ฟอร์มนัดอุ่นเครื่องแจ่มแมว หลังเปิดรัง เวมบลีย์ สเตเดี้ยม ถล่ม สหรัฐอเมริกา 3-0 โดย เจสซี่ ลินการ์ด ซัดประตูสุดสวยเบิกร่อง ก่อนที่ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ และคัลลั่ม วิลสัน จะมาบวกสกอร์เพิ่ม กลายเป็นประตูแรกในนามทีมชาติของทั้งสอง ในเกมกระชับมิตร เมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ 15 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา

กระชับมิตรทีมชาติ
วันพฤหัสบดีที่ 15 พฤศจิกายน 2561
อังกฤษ 3-0 สหรัฐฯ

สนาม :  เวมบลีย์ สเตเดี้ยม

　　เกมกระชับมิตรที่สนามเวมบลีย์ แกเร็ธ เซาธ์เกต กุนซือทีมชาติอังกฤษเลือกที่จะพักแข้งตัวหลักเกือบยกทีม นำมาโดยกองหน้าป้ายแดงอย่าง คัลลั่ม วิลสัน พร้อมแนวรุกทั้ง เจสซี่ ลินการ์ด, เดเล่ อัลลี่ และไอ้หนูวัย 18 ที่ลงเล่นเป็นตัวจริงครั้งแรกอย่าง จอร์ดอน ซานโช่ ส่วน เวย์น รูนีย์ ที่ถูกเรียกมาติดทัพเป็นกรณีพิเศษเพื่อเป็นการสั่งลาทีมชาตินั่งเป็นตัวสำรองไปก่อน

　　ทางด้าน สหรัฐฯ จัดเต็มแนวรุกนำทัพมาโดย คริสเตียน พูลิซิช กองกลางดาวรุ่งจากทีม ดอร์ทมุนด์ และ ทิโมธี เวอาห์ ลูกชาย จอร์จ เวอาห์ ก็ลงสนามด้วยเช่นกัน

　　ก่อนเกมเริ่ม สมาคมฟุตบอลอังกฤษ ได้มอบโล่ที่ระลึกให้กับ เวย์น รูนีย์ หลังจากทำสถิติติดทีมชาติครบ 120 นัด และเกมนี้จะเป็นเกมอำลาทีมชาติอย่างเป็นทางการของเขา

เวย์น รูนีย์ และครอบครัว รับโล่ที่ระลึกจากสมาคมฟุตบอลอังกฤษ

　　เริ่มเกม ส่วนใหญ่เกมบุกจะเป็นของสิงโตคำราม แต่ทว่านาทีที่ 24 สหรัฐฯ มาได้โอกาสจังๆ จากจังหวะลากลุยของ คริสเตียน พูลิซิช หลุดเดี่ยวเข้าไปดวลตัวต่อตัว กับ จอร์แดน พิคฟอร์ด แต่ พูลิซิช ยิงติดเซฟไปแบบน่าเสียดาย

เจสซี่ ลินการ์ด ปั่นบอลโค้งเสียบเสาสองเข้าไปแบบสุดสวย พาสิงโตคำรามนำ

    อย่างไรก็ตาม แฟนเมืองผู้ดีก็ได้เฮลั่นกันในนาทีที่ 26 เมื่อ เดเล่ อัลลี่ จ่ายบอลจากริมเส้นเข้าในให้ เจสซี่ ลินการ์ด ได้ปั่นโค้งบริเวณเส้นกรอบเขตโทษ บอลลอยไปเสียบสามเหลี่ยมแบบสุดสวย ทำให้ อังกฤษ ขึ้นนำ 1-0

เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ซัดบอลเข้าไปเสียบเสาสองแบบคมกริบ กลายเป็นประตูแรกในนามทีมชาติของเจ้าตัว

　　ถัดมาแค่นาทีเดียว อังกฤษ มาได้ประตูนำ 2-0 ห่างไปอีกจากจังหวะที่ จอร์ดอน ซานโช่ จ่ายบอลให้ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ที่เติมขึ้นมาด้านขวาในกรอบเขตโทษ วิ่งมาแปบอลด้วยความแรง บอลพุ่งไปเสียบตาข่ายมุมเสาสอง เป็นประตูแรกของเจ้าตัวในสีเสื้อทีมชาติ

　　จบครึ่งแรก ทัพ "ทรีไลอ้อนส์" นำ สหรัฐอเมริกา 2-0

เวย์น รูนีย์ ลงสนามเป็นนัดที่ 120 และเป็นนัดสุดท้ายของเจ้าตัวในสีเสื้อสิงโตคำราม

    ครึ่งหลัง นาทีที่ 59  เวย์น รูนีย์ ได้ลงสนามแทนที่ เจสซี่ ลินการ์ด พร้อมกับรับปลอกแขนกัปตันทีมต่อจาก ฟาเบียน เดล์ฟ

    สหรัฐฯ น่าได้ประตูตีไข่แตกเป็นอย่างยิ่งในนาทีที่ 66 จังหวะลูกครอสด้านเข้าในกรอบเขตโทษของผู้เล่นสหรัฐ และ บ๊อบบี้ วู๊ด ได้เทคตัวขึ้นโหม่งอย่างแรงแต่บอลข้ามคานไปฉิวเฉียด

คัลลั่ม วิลสัน ติดทีมชาติครั้งแรก ลงสนามเป็นตัวจริงครั้งแรก และทำประตูได้ตั้งแต่นัดแรก

    สิงโตคำราม นำห่างออกไปอีก 3-0 นาทีที่ 77 จาก ฟาเบียน เดล์ฟ ครอสบอลจากด้านซ้ายของกรอบเขตโทษเข้าด้านในให้ คัลลั่ม วิลสัน วิ่งมาแปบอลเข้าประตูไป กลายเป็นเป็นประตูแรกในนาทีมชาติเช่นกัน

    ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เวย์น รูนีย์ เกือบซัดประตูส่งท้ายอำลาทีมชาติได้ หลังตะลุยเข้ากรอบเขตโทษและล็อคหลอกยิงหนึ่งจังหวะ ก่อนจะซัดบอลเรียด แต่ติดเซฟของ  แบรด กูซาน

    จบเกม อังกฤษ เปิดบ้านถล่ม สหรัฐฯ 3-0 เป็นนัดสั่งลาที่สมบูรณ์แบบของหัวหอกสิงโตคำราม เวย์น รูนีย์

รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม   

    อังกฤษ (4-2-3-1) : จอร์แดน พิคฟอร์ด - เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, ไมเคิ่ล คีน,ลูอิส ดังค์, เบน ชิลเวลล์ - แฮร์รี่ วิงค์ส, ฟาเบียน เดล์ฟ - เจดอน ซานโช่, เดเล่ อัลลี่, เจสซี่ ลินการ์ด - คัลลั่ม วิลสัน

    สหรัฐฯ (4-3-2-1) : แบรด กูซาน - ดีอังเดร เยดลิน, แม็ตต์ เมียซก้า, จอห์น แอนโธนี่ บรู๊คส์, ฮอร์เก้ บิญาฟานญ่า  - วิล แทร็พพ์, เวสตัน แม็คเคนนี่ - คริสเตียน พูลิซิช, จูเลี่ยน กรีน, ทิโมธี เวอาห์ -  บ๊อบบี้ วู๊ด