ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » พรีเมียร์ลีก อังกฤษ » มูรินโญ่ จะทำได้จริงหรือ!? วิเคราะห์โอกาสติดท็อปโฟร์ภายในปี 2018 ของ แมนยู

มูรินโญ่ จะทำได้จริงหรือ!? วิเคราะห์โอกาสติดท็อปโฟร์ภายในปี 2018 ของ แมนยู

Posted 03/12/2018 by siamsport

"ผมรู้ดีว่าระยะห่างมันเยอะมาก แต่ถ้าผมจำไม่ผิดเนี่ย เรายังเหลือเกม พรีเมียร์ลีก ให้เล่นอีกตั้ง 8 นัด มันมีเกมลีกให้เราเล่นตั้ง 8 นัดเลยนะ เรากำลังพูดถึงแต้มที่มากถึง 24 แต้ม แน่นอนว่าทีมอื่นๆ ที่อยู่ในกลุ่มท็อปโฟร์ก็มี 24 แต้มให้เก็บเหมือนกัน แต่ผมเชื่อว่าเราจะติดอยู่ในกลุ่มนั้นได้"

นั่นคือคำพูดของ โชเซ่ มูรินโญ่ ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา โดยมันเป็นการพูดถึงเรื่องที่เขามั่นใจว่า "ปีศาจแดง" จะติดอยู่ในท็อปโฟร์ได้พอจบปี 2018 แม้ว่าพวกเขาจะออกสตาร์ตฤดูกาลนี้ได้ไม่ดีเท่าที่ควรก็ตาม

อย่างไรก็ตาม ในจำนวน 24 แต้มที่ มูรินโญ่ พูดถึงนั้น ตอนนี้ทีมของเขาก็ทำหล่นไปแล้ว 4 แต้ม หลังจากทำได้แค่เสมอกับ คริสตัล พาเลซ 0-0 และเจ๊ากับ เซาธ์แฮมป์ตัน 2-2 ทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด เก็บได้เพีง 2 แต้ม จาก 6 แต้มเต็ม ซึ่งนั่นก็ส่งผลให้โอกาสการติดท็อปโฟร์ของ แมนฯ ยูไนเต็ด ลดน้อยลงไปอีก คำถามคือในอีก 6 เกมที่เหลืออยู่ของปี 2018 นั้น มันมีโอกาสมากแค่ไหนที่ แมนฯ ยูไนเต็ด จะติดท็อปโฟร์ก่อนขึ้นปี 2019 ได้จริงๆ ?

- อาร์เซน่อล (เหย้า) 5 ธ.ค.
หนึ่งในเกมใหญ่ที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องเจอก่อนหมดปี 2018 ถึงแม้พวกเขาจะได้เล่นในบ้าน แต่คู่แข่งอย่าง อาร์เซน่อล กำลังคึกสุดขีด หลังจากที่พวกเขาไม่แพ้ใครมา 19 นัดติดต่อกันในทุกรายการแล้ว แถมล่าสุดก็เพิ่งเอาชนะ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ คู่อริตัวฉกาจมาได้อีกต่างหาก

ผลงานอันยอดเยี่ยมของ อาร์เซน่อล ทำให้ตอนนี้พวกเขามีความมั่นใจเต็มเปี่ยม สวนทางกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่เล่นกันแบบไร้ความมั่นใจสุดๆ แถมตอนนี้ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง หัวหอกชาวกาบองของ "ไอ้ปืนใหญ่" ก็กำลังฟอร์มร้อนแรงจนถึงขนาดขึ้นเป็นดาวซัลโวสูงสุดของลีกในตอนนี้ ด้วยจำนวน 10 ประตู ในทางกลับกัน เกมรับของ แมนฯ ยูไนเต็ด กำลังเปื่อยยุ่ยเหมือนทิชชู่เปียกน้ำ หลังจากเสียประตูในลีกไปถึง 23 ลูก จากการลงเล่น 14 นัด

เทียบตามปัจจัยต่างๆ แล้ว อย่าว่าแต่เรื่องชนะเลย แค่เก็บ 1 แต้มในบ้านให้ได้ก็เป็นงานยากแล้ว และมันมีโอกาสสูงมากที่ แมนฯ ยูไนเต็ด จะต้องแพ้คาบ้านด้วยซ้ำ

แต้มที่จะได้ : 0 แต้ม

- ฟูแล่ม (เหย้า) 8 ธ.ค.
แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่ต้องเดินทางไปไหนให้เหนื่อย พวกเขาจะได้เฝ้าบ้านต่อทันที ซึ่งคู่แข่งของพวกเขาในเกมนี้จะต่างจากเกมในกลางสัปดาห์แบบฟ้ากับเหว เพราะตอนนี้ ฟูแล่ม เป็นบ๊วยของตารางคะแนน และเป็นทีมที่เสียประตูมากที่สุดในลีก หลังโดนยิงไปแล้ว 35 ลูก

แม้ว่า "เจ้าสัวน้อย" จะเพิ่งดึง เคลาดิโอ รานิเอรี่ มาเป็นกุนซือคนใหม่ แต่ถ้าว่ากันตามตรงแล้วมันก็อาจจะทำให้ ฟูแล่ม ดีขึ้นนิดหน่อยเท่านั้น และ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็น่าจะเก็บชัยชนะไปได้ ส่วนสกอร์จะมากน้อยแค่ไหนก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

แต้มที่จะได้ : 3 แต้ม

- ลิเวอร์พูล (เยือน) 16 ธ.ค.
หลายปีก่อนหน้านี้ "เร้ด อาร์มี่" หลายคนมักจะได้คุยข่ม "เดอะ ค็อป" อยู่บ่อยๆ หลังจากที่ทีมรักของพวกเขาเป็นแชมป์ลีกอย่างต่อเนื่อง ส่วนคู่อริสีแดงจากฝั่งเมอร์ซี่ย์ไซด์กลับไม่เคยได้สัมผัสแชมป์ลีกอีกเลย นับตั้งแต่ที่ลีกสูงสุดของอังกฤษเปลี่ยนมาใช้ชื่อ พรีเมียร์ลีก

อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่ที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน บอกลาตำแหน่งกุนซือ แมนฯ ยูไนเต็ด ไปในปี 2013 แล้วนั้น สถานการณ์ก็พลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ ลิเวอร์พูล ทำผลงานได้ดีกว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ถึงหลายซีซั่น ส่วนฤดูกาลนี้ฟอร์มของ "หงส์แดง" ก็ดีกว่า "ปีศาจแดง" เยอะจนเทียบกันไม่ได้

แนวรุกของ ลิเวอร์พูล เป็นหนึ่งในแนวรุกที่ดุดันที่สุดของวงการฟุตบอลยุโรปในตอนนี้ นอกจากนี้ ทีมของกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ ก็กำลังต้องการ 3 แต้มสุดๆ เพื่อขับเคี่ยวลุ้นแชมป์กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต่อไป แถมพวกเขายังได้เล่นใน แอนฟิลด์ อีกต่างหาก ทำให้มีโอกาสริบหรี่สุดๆ ที่ แมนฯ ยูไนเต็ด จะมีแต้มติดมือในเกมนี้

แต้มที่จะได้ : 0 แต้ม

- คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ (เยือน) 22 ธ.ค.
"เดอะ บลูเบิร์ดส์" เป็นหนึ่งในทีมที่กำลังหนีตกชั้น แต่ช่วงนี้พวกเขาฟอร์มดีขึ้น หลังจากเก็บชัยชนะในลีกได้ 2 เกมจาก 3 นัดหลังสุด จนทำให้ตอนนี้มี 11 คะแนน พร้อมขึ้นมาอยู่ที่ 16 ของตารางคะแนน

ทั้งนี้ ตลอดฤดูกาลนี้ คาร์ดิฟฟ์ เก็บชัยชนะในลีกได้ 3 นัด เมื่อได้เฝ้ารัง คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ สเตเดี้ยม ของพวกเขาเอง ดังนั้นนี่จึงจะไม่ใช่งานง่ายของ แมนฯ ยูไนเต็ด แน่นอน ขนาด อาร์เซน่อล ยังเคยเกือบทำแต้มหลุดมือกับการมาเล่นที่นี่เลย (อาร์เซน่อล ชนะไปหวุดหวิด 3-2)

แต้มที่จะได้ : 1 แต้ม

- ฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ (เหย้า) 26 ธ.ค.
หลังจากไปเยือนในลีกมา 2 นัดติด ทีมของ มูรินโญ่ จะได้กลับมาเล่นในบ้านอีกครั้ง และเป็นอีกหนึ่งนัดที่พวกเขาจะได้เจอกับทีมหนีตกชั้น โดยปัจจุบัน ฮัดเดอร์สฟิลด์ มีเพียง 10 แต้มเท่านั้น แถมยังเป็นทีมที่มีเกมรุกแย่ที่สุดในตอนนี้ เพราะเพิ่งยิงในลีกได้แค่ 9 ลูกเท่านั้น ในขณะที่ชาวบ้านชาวช่องเขาทำประตูถึงเลข 2 หลักกันไปแล้ว

แม้ว่าเกมรับของ แมนฯ ยูไนเต็ด จะย่ำแย่แค่ไหน แต่พวกเขาก็ไม่น่าจะพลาดท่าให้กับเกมรุกที่ไร้ความเฉียบคมของ ฮัดเดอร์สฟิลด์ เช่นกัน ทำให้ถ้าดูตามปัจจัยต่างๆ แล้ว นี่น่าจะเป็นเกมที่พวกเขาเก็บชัยชนะไปได้

แต้มที่จะได้ : 3 แต้ม

- บอร์นมัธ (เหย้า) 30 ธ.ค.
ทีมของ มูรินโญ่ ได้สั่งลาปี 2018 ต่อหน้าแฟนๆ ใน โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด แต่คู่แข่งของพวกเขาก็ไม่ใช่คนใจดีที่จะมามอบ 3 แต้มให้พวกเขาเป็นของขวัญก่อนขึ้นปีใหม่ง่ายๆ เพราะ บอร์นมัธ กำลังทำผลงานได้ดีพอตัว โดยตอนนี้พวกเขาอยู่ที่ 9 ของตารางคะแนน และมีแต้มน้อยกว่า แมนฯ ยูไนเต็ด เพียงแค่ 2 แต้มเท่านั้น

หนึ่งในตัวอันตรายของ บอร์นมัธ ชุดนี้คือ ไรอัน เฟรเซอร์ ดาวเตะชาวสกอตต์ที่ทำแอสซิสต์ในลีกไปแล้ว 6 ครั้ง จนเป็นผู้นำร่วมในชาร์ตแอสซิสต์ของ พรีเมียร์ลีก ขณะที่ คัลลั่ม วิลสัน ก็เป็นตัวที่ประมาทไม่ได้เช่นกัน ทำให้นี่จะเป็นอีก 1 เกมที่ แมนฯ ยูไนเต็ด น่าจะต้องผิดหวัง

แต้มที่จะได้ : 1 แต้ม

สรุป : จากอีก 6 เกมที่เหลือ แมนฯ ยูไนเต็ด น่าจะเก็บแต้มเพิ่มได้เพียง 8 แต้ม จากจำนวนเต็ม 18 คะแนน ซึ่งนั่นจะทำให้พวกเขามีเพิ่มเป็น 30 คะแนนเท่านั้น และพวกเขาก็จะไล่ อาร์เซน่อล ทีมที่เป็นอันดับ 4 ในตอนนี้ไม่ทันชัวร์ เพราะปัจจุบัน "ไอ้ปืนใหญ่" มี 30 แต้มอยู่แล้ว และทีมของ อูไน เอเมรี่ ก็จะได้คะแนนเพิ่มจาก แมนฯ ยูไนเต็ด ในเกมวันพุธนี้ นั่นหมายความว่าเป้าหมายของ มูรินโญ่ ที่จะมอบตำแหน่งท็อปโฟร์เป็นของขวัญให้แฟนๆ รับปีใหม่ จะเป็นเพียงความฝันลมๆ แล้งๆ เท่านั้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »