คาริม เบนเซม่า ซัดประตูชัยตั้งแต่ต้นเกม พา "ราชันชุดขาว" เปิดเบร์นาเบวคว้าชัยเหนือ ราโย่ บาเยกาโน่ หวุดหวิด 1-0 ทำสถิติคว้าชัยในลีกสามเกมติดต่อกัน มี 29 คะแนนตาม แอต.มาดริด และบาร์เซโลน่าที่มี 31 แต้มเท่ากันแค่สองคะแนน ทว่าเจ้าบุญทุ่มแข่งน้อยกว่าหนึ่งนัด ในศึก ลา ลีกา สเปน ที่ซานติอาโก้ เบร์นาเบว เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา

    "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด เพิ่งเปิดบ้านพ่ายให้กับ ซีเอสเคเอ มอสโก มายับเยิน 0-3 ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม นัดสุดท้าย แต่ไม่มีผลอะไร เพราะผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายไปนานแล้วในฐานะแชมป์ของกลุ่ม จี ส่วนในลา ลีกา รั้งอันดับ 4 ของตารางคะแนน

    นัดนี้ เรอัล ไม่มี แกเร็ธ เบล สตาร์ทีมชาติเวลส์ ที่เจ็บข้อเท้าขวา และ นาโช่ เฟร์นานเดซ กองหลังวัย 28 ปี ทีมชาติสเปน ที่มีอาการบาดเจ็บ แต่ได้ โทนี่ โครส มิดฟิลด์ทีมชาติเยอรมัน กลับมาทำเกมแดนกลางร่วมกับ ลูก้า โมดริช

    สามประสานแดนหน้าส่ง ลูกัส บาซเกซ, คาริม เบนเซม่า, มาร์โก อาเซนซีโอ ลงมาล่าตาข่าย

    ทางด้าน ราโย บาเยกาโน่ เพิ่งออกไปพ่ายให้กับ เรอัล เบติส 0-2 ในลา ลีกา นัดล่าสุด ทำให้อันดับรูดลงมาอยู่รองบ๊วยแล้ว

    เกมนี้ ราโยฯ ต้องขาด จอร์ดี้ อามัต กองหลังที่ติดโทษแบน รวมไปถึง กอร์ก้า เอลูสตอนโด้, ออสการ์ เตรโฮ, ฆาบี เกร์ร่า และ กาแอล กากูต้า ที่ไม่สมบูรณ์

    ก่อนเกม ลูก้า โมดริช ห้องเครื่องตัวเก่งนำถ้วย บัลลังดอร์ มาโชว์ในสนามเป็นครั้งแรกนับจากที่ได้รางวัลเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา

   ออกสตาร์ทครึ่งแรกมาได้แค่ 13 นาที เรอัล มาดริด ชิงขึ้นนำก่อน 1-0 อย่างรวดเร็ว เมื่อ ลูกัส บาซเกซ จ่ายให้กับ คาริม เบนเซม่า หลุดไปทางกรอบเขตโทษด้านขวา ก่อนซัดด้วยขวาบอลเรียดเสียบเสาสองเข้าไปอย่างเด็ดขาด และเป็นประตูที่ 6 ของเบนเซม่า ในลา ลีกา ซีซั่นนี้

    สามนาทีต่อมา เรอัล มาดริด น่าได้ประตูเพิ่ม เมื่อ โทนี่ โครส เปิดบอลให้กับ มาร์โก อาเซนซีโอ หลุดไปทางกรอบเขตโทษด้านซ้าย แล้วยิงด้วยซ้ายติดขาของ สโตเล่ ดิมิตริเอฟสกี้ นายทวารราโย บาเยกาโน่ ที่ออกมาปิดมุมได้ดี

    เกมของเรอัล เหนือกว่า มีโอกาสอีกในนาทีที่ 36 เมื่อ คาริม เบนเซม่า เปิดขวางมาให้กับ โทนี่ โครส อัดด้วยซ้ายจากหน้าเขตโทษ บอลติดไซด์ก้อยพุ่งไปชนเสาซ้ายอย่างน่าเสียดาย บอลทะลักมาทาง ลูก้า โมดริช ยิงซ้ำด้วยขวาจากนอกเขตโทษบอลติดบล็อคของ ซานตี โกเมซาญ่า ผู้เล่นทีมเยือนออกหลังไป

    นาทีเดียวกันนั้น ราชันชุดขาว ได้ส่องอีกครั้งจากการปั่นด้วยขวาของมาร์เซโล่ วิเอยร่า จากหน้าเขตโทษ บอลเบาไปเข้าซองของ สโตเล่ ดิมิตริเอฟสกี้ นายทวารราโย บาเยกาโน่ หมดครึ่งแรก เรอัล มาดริด นำอยู่ 1-0

    กลับมาบู๊กันต่อในครึ่งเวลาหลังได้ 5 นาที ทีมชุดขาวได้ลุ้นก่อน เมื่อ ลูก้า โมดริช กระชากเข้าไปทางกรอบเขตโทษด้านขวาแล้วหักย้อนคืนให้ มาร์โก อาเซนซีโอ จับแล้วยิงด้วยซ้ายจากกลางเขตโทษ แต่ไปติดตัวของ สโตเล่ ดิมิตริเอฟสกี้ นายทวารราโยฯ ที่ถลันออกมาบล็อคได้ทัน
    กระเถิบมานาทีที่ 54 ราโยฯ ปรับแท็คติกเปลี่ยนผู้เล่นสองรายส่ง อับดูลาย บา กับ เบเบ้ ลงเล่นแทน อเล็กซ์ กัลเบซ และ อัลบาโร่ เมดราน

    ล่วงเลยมานาทีที่ 65 เรอัล มาดริด น่าจะได้ประตูที่สอง เมื่อ โทนี่ โครส โยนฟรีคิกจากทางด้านขวาให้ เซร์คีโอ รามอส ทะยานขึ้นขวิดตุงตาข่าย แต่ผู้ตัดสินไม่ให้ประตู โดยเป่าเป็นล้ำหน้า ราอมส ไปก่อนแล้ว

    ถัดมาสามนาที ราโย บาเยกาโน่ ได้ลุ้นบ้าง เบเบ้ ที่ลงมาเป็นสำรอง กดด้วยขวาจากนอกเขตโทษ แต่ ติโบต์ กูร์กตัวส์ นายทวารเรอัล มาดริด ชกทิ้งออกมาได้

    จากนั้นนาทีที่ 78 เรอัล มาดริด ส่ง วินิซิอุส กองหน้าดาวรุ่งชาวบราซิล ลงเล่นแทน คาริม เบนเซม่า คนทำประตูให้ทีมขึ้นนำ ที่มีอาการบาดเจ็บรบกวน

   ช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 90+1 ราโยฯ เกือบได้ประตูตีเสมอ เมื่อ เวลาซเกซ โหม่งชงให้กับ อเล็กซ์ อเลเกรีย ตวัดยิงกลับหลังติดเซฟของ ติโบต์ กูร์กตัวส์ มาเข้าทาง เวลาซเกซ หวดซ้ำด้วยซ้ายติดตัวของ กูร์กตัวส์ เด้งมาโดนตัวของ รามอส เพื่อนร่วมทีมที่คุมเส้น ก่อนหลุดออกหลังไปอย่างน่าหวาดเสียว  

    เวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้อีก จบเกม เรอัล มาดริด เปิดรังเชือด ราโย บาเยกาโน่ 1-0 เก็บสามแต้มสำคัญ เขยิบขึ้นมาอยู่อันดับ 3 ของตารางแล้ว ส่วน ราโยฯ รั้งรองบ๊วยตามเดิม

    รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

    เรอัล มาดริด: ติโบต์ กูร์กตัวส์ - ดาเนียล การ์บาฆาล, ราฟาแอล วาราน, เซร์คีโอ รามอส (กัปตันทีม), มาร์เซโล่ วิเอยร่า - โทนี่ โครส, มาร์กอส ยอเรนเต้, ลูก้า โมดริช (เฟเดรีโก้ วัลเวร์เด้ น.90+2) - ลูกัส บาซเกซ, คาริม เบนเซม่า (วินิซิอุส น.78), มาร์โก อาเซนซีโอ (ดาเนียล เซบาโยส น.71) 

    ราโย บาเยกาโน่: สโตเล่ ดิมิตริเอฟสกี้ - ลุยส์ อัดวินคูล่า, โรมัน ตีโต้, เอมิเลียโน่ เวลาซเกซ, อเล็กซ์ กัลเบซ (อับดูลาย บา น.54), อเล็กซ์ โมเรโน่ - จานเนลลี่ อิมบูล่า, อัลบาโร่ เมดราน (เบเบ้ น.54), ซานตี โกเมซาญ่า, อัลบาโร่ การ์เซีย - อาเดรียน เอ็มบาร์บา (อเล็กซ์ อเลเกรีย น.73)

    ผู้ตัดสิน: รีการ์โด้ เด บูร์โกส