ตอนแรกยัง 50-50 สำหรับความเป็นไปได้ที่ ลิเวอร์พูล จะลุยตลาดนักเตะช่วงเดือนมกราคมนี้ เพื่อเฟ้นหาผู้เล่นกองหลังคนใหม่ หลังจากที่ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ เซนเตอร์แบ็กตัวหลักชาวดัตช์ เจ็บหนักจนต้องพักยาวทั้งซีซั่น แต่ล่าสุดกับการที่กองหลังคนสำคัญอีกรายอย่าง โจ โกเมซ เกิดเจ็บ (หัวเข่า) หนักจนส่อแววพักแข้งยาวอีกคน ขณะที่ ฟาบินโญ่ กับ โฌแอล มาติป ก็ดูยังไม่ฟิตสมบูรณ์ ทำให้น่าจะ 100% แล้ว ที่ "หงส์แดง" จำเป็นต้องหากองหลังคนใหม่เข้ามาเสริมช่วงกลางฤดูกาล ซึ่งแน่นอนว่า ตอนนี้มีหลายตัวเลือกที่น่าสนใจ แต่ที่ดูเข้าตามากที่สุดคงหนีไม่พ้น ดาวิด อลาบา ปราการหลังฝีเท้าดี บาเยิร์น มิวนิค ที่กำลังจะหมดสัญญากับต้นสังกัดหลังจบฤดูกาลนี้ แถมไม่มีแววที่จะเซ็นสัญญาฉบับใหม่ด้วย และนี่คือ 6 เหตุผลเน้นๆ ที่กุนซือ เจอร์เก้น ค

- นักเตะมีใจที่จะย้ายอยู่แล้ว

ด้วยการที่อยู่รับใช้ บาเยิร์น มิวนิค มาอย่างยาวนานตั้งแต่สมัยเป็นนักเตะเยาวชนของสโมสร (นับตั้งแต่ปี 2008) แถมประสบความสำเร็จมากมายมหาศาล ด้วยตำแหน่งแชมป์ บุนเดสลีกา 9 สมัย, เดเอฟเบ-โพคาล 6 สมัย, เดเอฟแอล-ซูเปอร์คัพ 3 สมัย, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2 สมัย, ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ 2 สมัย และ ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ 1 สมัย เชื่อเหลือเกินว่า อลาบา คงอิ่มมากๆ แล้วกับชีวิตการค้าแข้งภายใต้ยูนิฟอร์ม "เสือใต้" และน่าจะถึงเวลาที่เจ้าตัวจะออกไปหาความท้าทายใหม่ๆ ในลีกแห่งอื่น ซึ่งจากกระแสข่าวล่าสุดระบุว่า เจ้าตัวไม่ปิดโอกาสที่จะอำลาถิ่น อัลลิอันซ์ อารีน่า ในช่วงตลาดหน้าหนาวที่จะถึงนี้เลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในถิ่น แอนฟิลด์ มีเพื่อนซี้อย่าง ติอาโก้ อัลกันตาร่า ด้วย

 - แข้งสารพัดประโยชน์
แม้ระยะหลังจะเล่นเป็นปราการหลังตัวกลางให้กับ บาเยิร์น แต่ทุกคนน่าจะทราบกันดีว่า อลาบา เริ่มต้นและแจ้งเกิดในตำแหน่งแบ็กซ้าย ขณะเดียวกันเจ้าตัวยังสามารถขึ้นมาเล่นในแผงมิดฟิลด์รวมถึงปีกซ้ายได้ด้วย ซึ่งเราก็เห็นกันบ่อยๆ ยามเจ้าตัวเล่นให้ทีมชาติออสเตรีย ขณะที่ คล็อปป์ ก็เป็นกุนซือที่ชื่นชอบนักเตะอเนกประสงค์ ที่เล่นได้หลากหลายตำแหน่งและบทบาทอยู่แล้ว ดังนั้น อลาบา จึงถือเป็นนักเตะที่ตรงสเปคไม่น้อยเลยทีเดียว 
 
 - ประสบการณ์เกมลูกหนังเพียบ
อายุเพิ่งครบ 28 ปี เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งเด็กกว่าบรรดาแข้งสตาร์ดัง "หงส์แดง" อย่าง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, เจมส์ มิลเนอร์, จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม, ติอาโก้ อัลกันตาร่า, โฌแอล มาติป, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่, เซอร์ดาน ชากิรี่, ซาดิโอ มาเน่ และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (ซาลาห์ แก่กว่า 9 วัน) ด้วยซ้ำ แต่ อลาบา ถือเป็นนักเตะที่ผ่านประสบการณ์โชกโชน ทั้งระดับทีมชาติและสโมสร โดยกับ บาเยิร์น นั้น เจ้าตัวลงเล่นไปแล้วถึง 396 นัด ทำได้ 32 ประตู แถมมีสถิติรับใช้ทีมชาติออสเตรีย 74 นัด ทำได้ 14 ประตู ซึ่งจากสถิติลงเล่นระดับอาชีพเกือบ 500 นัดแบบนี้ แน่นอนว่า อลาบา สามารถรับมือกับการแข่งขันเกมใหญ่ๆ ได้สบาย

 - เชี่ยวชาญเรื่องลูกนิ่ง
แน่นอนว่า เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ คือมือหนึ่งของ ลิเวอร์พูล ในการรับหน้าที่ยิงฟรีคิกรวมถึงเตะลูกนิ่งต่างๆ แต่ถ้าหากได้ อลาบา เข้ามาเสริมทัพ ก็จะทำให้ทีมมีตัวเลือกในการเล่นลูกตั้งเตะที่อันตรายเพิ่มอีกหนึ่งราย เพราะอย่างที่เรารู้ๆ กันว่า อลาบา เก่งมากๆ ในการเปิดบอลรวมถึงการยิงฟรีคิก ซึ่งเราก็เพิ่งเห็นกันมาหมาดๆ ในเกม "แดร์ คลาสซิเคอร์" ที่ บาเยิร์น บุกเชือด โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ 3-2 เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

 - ตัวหลักยาวๆ
อายุเพิ่ง 28 ปี แถมมีฝีเท้าเข้าขั้นระดับเวิลด์คลาส แน่นอนว่า อลาบา สามารถอยู่ในแผนการทำทีมระยะยาวของ คล็อปป์ ได้เลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการที่ จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม (หมดสัญญาหลังจบซีซั่นนี้) อาจจะไม่อยู่กับทีมต่อในซีซั่นหน้า รวมถึง เจมส์ มิลเนอร์ ที่กำลังจะอายุครบ 35 ปี ช่วงต้นเดือนมกราคม ก็โรยราลงทุกที

 - คุ้มค่า
น่าจะเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดเลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสถานการณ์ที่ต้องจับจ่ายใช้สอยด้วยความระมัดระวังแบบนี้ เพราะถ้าหากสุดท้ายแล้ว อลาบา ไม่ยอมต่อสัญญากับ บาเยิร์น เท่ากับว่า "เสือใต้" จำเป็นต้องรีบทำเงินและยอมขายเจ้าตัวในช่วงเดือนมกราคมที่จะถึงนี้เลย เพื่อไม่ให้เสียไปแบบฟรีๆ หลังจบซีซั่น ซึ่งก็ว่ากันว่า บาเยิร์น ตั้งค่าหัว อลาบา ไว้แค่ 30 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,200 ล้านบาท) เท่านั้น ซึ่งด้วยค่าตัวระดับนี้ เทียบกับนักเตะฝีเท้าระดับโลก ถือว่าคุ้มยิ่งกว่าคุ้ม