ประเด็นร้อนก่อนเกม พรีเมียร์ลีก สุดสัปดาห์หน้านี้ มีหลายคู่ให้ติดตาม ความน่าสนใจจะมีอะไรบ้าง ไปดูกันได้เลย
    "แอสตัน วิลล่า-อาร์เซน่อล"

    โอลลี่ วัตกินส์ กองหน้า แอสตัน วิลล่า เหมาสองประตูในเกมที่เอาชนะ อาร์เซน่อล 3-0 ตอนช่วงต้นฤดูกาล ซึ่งมีแค่ ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา เท่านั้นที่ทำประตูอย่างน้อยสองลูกติดต่อกันในการเจอ "เดอะ กันเนอร์ส" โดยอดีตกองหน้า "สิงห์บลูส์" ทำไว้เมื่อฤดูกาล 2009/10

    "สิงห์ผงาด" ไม่เคยชนะ อาร์เซน่อล ทั้งนัดเหย้าและเยือนภายในซีซั่นเดียวกันของ พรีเมียร์ลีก ได้อีกเลยนับตั้งแต่ฤดูกาล 1992-93 โดยตอนนั้นพวกเขาชนะ 1-0 ทั้ง 2 นัด

    อาร์เซน่อล มองหาการหลีกเลี่ยงความพ่ายแพ้ต่อ วิลล่า 3 เกมติดต่อกันเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ปี 1993 ซึ่งขณะนั้นพวกเขาแพ้ต่อ วิลล่า ในการเจอกัน 3 ครั้งแรกในศึกพรีเมียร์ลีก นอกจากนี้ใน 2 เกมหลังสุดที่เจอกัน "ปืนใหญ่" เจาะตาข่ายคู่แข่งรายนี้ไม่ได้เลย

    นิโกล่าส์ เปเป้ ปีกของ อาร์เซน่อล ทำประตูในการเล่นเกมเยือนได้ตลอด 3 เกมล่าสุด หลังจากก่อนหน้านี้ การเล่นเกมเยือน 18 นัดทำได้แค่ 2 ประตูเท่านั้น ซึ่งผู้เล่นคนสุดท้ายที่สามารถทำประตูเกมเยือนได้ 4 เกมติดให้แก่ อาร์เซน่อล คือ โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ตอนช่วงระหว่างเดือนกันยายน ถึง พฤศจิกายน ปี 2015

    "แมนยู-เอฟเวอร์ตัน"

    นับตั้งแต่เปิดหัวเกมในบ้าน 6 นัดแรกด้วยการไร้ชัย แมนฯ ยูไนเต็ด ก็เก็บชัยในโรงละครแห่งความฝันได้ 5 จาก 7 นัด โดยสอยตาข่ายได้ 20 ลูก และเสียแค่ 5 ลูกเท่านั้น

    อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ทำประตูกับแอสซิสต์รวมกันได้ 9 ครั้งจากการลงเล่นเจอ เอฟเวอร์ตัน 11 นัดในทุกรายการ

    "ท็อฟฟี่สีน้ำเงิน" มองหาชัยชนะเกมเยือน 5 นัดติดใน พรีเมียร์ลีก เป็นครั้งแรก โดยครั้งสุดท้ายที่พวกเขาทำได้ต้องย้อนไปเมื่อเดือนเมษายน ปี 1970 ซึ่งปีนั้น เอฟเวอร์ตัน คว้าแชมป์ดิวิชั่น1 (เดิม) มาครองได้เป็นสมัยที่ 7

    คาร์โล อันเชล็อตติ เตรียมกลายเป็นผู้จัดการทีมคนที่สองที่สามารถเอาชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ในยุค พรีเมียร์ลีก จากการลงคุมทีมที่แตกต่างกัน 3 ทีม โดยก่อนหน้านี้เขาเคยพา เอซี มิลาน และ เชลซี ซึ่งคนแรกคือ โชเซ่ มูรินโญ่ ที่คุม เชลซี, เรอัล มาริด และสเปอร์ส เอาชนะ "ปีศาจแดง" ได้

    "สเปอร์ส-เวสต์บรอมวิช"

    ซน ฮึง-มิน กองหน้า ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ มีส่วนร่วมกับประตูใส่ทีมน้องใหม่ได้ถึง 16 ลูกจาก 15 นัด โดยแบ่งเป็น 9 ประตู และ 7 แอสซิสต์

    สเปอร์ส มองหาชัยชนะเหนือ "เดอะ แบ๊กกี้ส์" เหย้า-เยือน ในศึก พรีเมียร์ลีก ครั้งแรกนับตั้งแต่ฤดูกาล 2011/12 ซึ่งพวกเขาเจอกันมา 7 ซีซั่น

    เวสต์บรอม หวังว่าจะเป็นทีมที่ 3 ที่รั้งอยู่ในโซนตกชั้นแล้วสามารถเอาชนะ "ไก่เดือยทอง" ได้ในรอบ 5 ซีซั่น

    นับตั้งแต่บุกคว้าชัยเหนือ คริสตัล พาเลซ 1-0 เมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2016 เวสต์บรอม ก็ไม่ชนะทีมใดที่กรุงลอนดอนอีกเลย (11 นัด) เสมอ 2 แพ้ 9 ซึ่งการเยือนเมืองหลวง อังกฤษ 5 นัดหลังใน พรีเมียร์ลีก ก็จบลงด้วยความพ่ายแพ้โดยเสียประตูอย่างน้อย  2 ลูกทุกนัด

    "วูล์ฟส์-เลสเตอร์"

    วูล์ฟส์ ทำประตูในลีกไม่ได้ถึง 5 นัดจาก 7 เกมหลังสุดในการเจอกับ เลสเตอร์ แต่พวกเขาเก็บชัยชนะได้ด้วยสกอร์ 4-3 ทั้งสองเกมในซีซั่น 2003/04 และ 2018/19 โดยในปี 2003 เป็นฝ่ายตามหลังไปก่อน 0-3 แล้วพลิกกลับมาชนะได้

    วูล์ฟส์ ยังมองหาชัยชนะสองเกมติดต่อกันเป็นครั้งที่สองของซีซั่น หลังเพิ่งทำได้แค่ครั้งเดียวเท่านั้นจากการเก็บชัยเหนือ ฟูแล่ม กับ ลีดส์ เมื่อเดือนตุลาคม

    เลสเตอร์ เอาชนะ 8 จาก 11 เกมเยือนในพรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้ (เสมอ 2 แพ้ 1) ซึ่งฤดูกาลที่พวกเขาคว้าชัยเกมเยือนมากที่สุดมีแค่ฤดูกาลที่ "เดอะ ฟ็อกซ์" คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก มาครองได้เมื่อซีซั่น 2015/16 (11 นัด)

    "สุนัขจิ้งจอก" ทำอัตราการความแม่นยำทำประตูอยู่ที่ 14.6% ในฤดูกาลนี้ ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดนับตั้งแต่ฤดูกาล 1997/98 เลยทีเดียว

    "ลิเวอร์พูล-แมนฯ ซิตี้"

    ลิเวอร์พูล แพ้เกมในบ้านมาแล้ว 2 นัดติดต่อกัน นับตั้งแต่สูญเสียสถิติไร้พ่ายในบ้าน 68 นัด อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่แพ้ในบ้านเกมลีก 3 นัดติดตั้งแต่เดือนกันยายน ปี 1963

    นับตั้งแต่แพ้ ซิตี้ 1-2 ในบ้านตัวเองเมื่อเดือนพฤษภาคม ปี 2003 "หงส์แดง" ก็แพ้ในบ้านต่อ "เรือใบสีฟ้า" ครั้งเดียวจากการเจอกัน 29 นัด (ชนะ 19 เสมอ 9)

    แมนฯ ซิตี้ เอาชนะคู่แข่งทุกรายการมาแล้ว 13 เกมติดต่อกัน หากชัยชนะที่ แอนฟิลด์ เกิดขึ้นแก่พวกเขา จะทำให้ขึ้นไปเทียบเท่าสถิติสโมสรลีกสูงสุด ที่ เปรสตัน กับอาร์เซน่อล เคยทำไว้เมื่อเดือนมกราคม ปี 1892 และเดือนพฤศจิกายน ปี 1987 ตามลำดับ

    ราฮีม สเตอร์ลิง ทำไปแล้ว 99 ประตูในการลงเล่นให้ ซิตี้ ทุกรายการภายใต้การคุมทัพของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า โดยประตูต่อไปจะทำให้เขาเป็นลูกทีมของกุนซือสแปนิช คนที่ 3 ที่สามารถทำประตูได้แตะเลขสามหลักต่อจาก เซร์คิโอ อเกวโร่ (120) และ ลิโอเนล เมสซี่ (211)

    "เชฟฯ ยูไนเต็ด-เชลซี"

    เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด เอาชนะ 3 จาก 4 เกมในบ้านต่อ เชลซี ในศึก พรีเมียร์ลีก (แพ้ 1) โดยชนะสองครั้งในปี 1993 และ 3-0 เมื่อซีซั่นก่อน

    บิลลี่ ชาร์ป กองหน้า "ดาบคู่" ทำไปประตูได้ 6 ลูกบนลีกสูงสุด ซึ่งเป็นการพาต้นสังกัดเก็บได้ 10 แต้ม ซึ่งประตูของเขาในเกมเจอ เวสต์บรอม เป็นประตูชัยให้กับทีมครั้งที่ 3 ในรอบเดือน โดยก่อนหน้านี้เขายิงประตูชัยในเกมเจอ นิวคาสเซิล และ    พลีมัธ ในศึก เอฟเอ คัพ

    ในรอบ 15 เกมที่ เชฟฯ ยูไนเต็ด เจอ เชลซี ที่ บรามอลล์ เลน ไม่มีเกมไหนเลยที่จบด้วยผลเสมอ (เจ้าถิ่นชนะ 9 ทีมเยือนชนะ 6)

    เชลซี เอาชนะได้ถึง 10 นัดจาก 12 เกมหลังในการเจอกับทีมกลุ่มโซนตกชั้น โดย 2 ครั้งที่พลาดคือการแพ้ต่อ คริสตัล พาเลซ 1-2 (ตุลาคม ปี 2017) และ เสมอ 3-3 กับ เวสต์บรอมวิช เมื่อเดือนกันยายน ปีที่แล้ว