เชลซี ทำได้เพียวบุกไปแบ่งแต้มกับ ลีดส์ ยูไนเต็ด ด้วยสกอร์ 0-0 ชวดแซง เลสเตอร์ ขึ้นไปรั้งที่ 3 ของตาราง ส่วนทีม "ยูงทอง" ไร้ชัย 3 นัดรวด ยังอยู่ที่ 11 ของตาราง ในศึกพรีเมียร์ลีก เมื่อวันที่ 13 มี.ค.ที่ผ่านมา

    ลีดส์ ยูไนเต็ด คว้าชัยในลีกได้เพียงแค่เกมเดียวจาก 5 เกมหลังสุดหลังออกไปแพ้ เวสต์แฮม 0-2 ในเกมลีกนัดล่าสุด ทำให้เจ้าบ้านรั้งอันดับที่ 11 ของตารางคะแนนในเวลานี้

    เกมนี้ มาร์เซโล่ บิเอลซ่า ได้รับข่าวดีเมื่อได้ คาลวิน ฟิลลิปส์ สลัดอาการบาดเจ็บหวนกลับมาคุมแดนกลาง โดยแนวรุกฝากความหวังไว้ที่ ราฟินญ่า และ แพทริค แบมฟอร์ด

    ด้าน เชลซี ของ โธมัส ทูเคิ่ล ชนะในลีกมา 2 เกมติดต่อกัน เกมนี้มีการปรับทัพบางตำแหน่งส่ง ไค ฮาแวร์ทซ์ ลงเป็นกองหน้ตัวเป้า โดยมี  เมสัน เมาน์ท, คริสเตียน พูลิซิช และ ฮาคิม ซิเย็ค ปั้นเกมอยู่ด้านหลัง

    ครึ่งแรก นาทีที่ 7 ลีดส์ เกือบขึ้นนำก่อนจากจังหวะสวนกลับเร็ว แพทริค แบมฟอร์ด หลุดเดี่ยวเข้าเขตโทษแล้วจ่ายไปเสาไกลให้ ไทเลอร์ โรเบิร์ต ได้ซัดโล่งๆเข้าไป แต่ผู้ช่วงยกธงเป็นจังหวะล้ำหน้าของ แบมฟอร์ด ไปก่อน

    หลังจากนั้น เชลซี มีลุ้นขึ้นนำบ้างจากจังหวะที่ ลุค อายลิ่ง พยายามเคลียร์บอลในเขตโทษแต่ไปโดน  ปาสกาล สตรูจค์ บอลกระดอนไปชนคานกลับมาเข้าซองของ อิลล็อง เมสลิเย่ร์ รับไว้ได้ ในนาทีที่ 11
 
  เกมเปิดหน้าแลกกันสนุก นาที 15 ลีดส์ หวิดขึ้นนำอีกครั้ง ไทเลอร์ โรเบิร์ต ส่องไกลนอกกรอบบอลเลย เอดูอาร์ เมนดี้ ไปชนคานกระดอนออกมา

    ถัดมา นาที 33 เบน ชิลเวลล์ แบ็กซ้าย เชลซี ได้บอลหน้าเขตโทษก่อนตั้งป้อมซัดบอลไปแฉลบแนวรับ ลีดส์ เฉี่ยวเสาออกหลังไปนิดเดียว

    ลีดส์ ต้องโชคร้ายเสียโควต้าเปลี่ยนตัวคนแรก หลังจาก แพทริค แบมฟอร์ด มีอาการบาดเจ็บจนเล่นต่อไม่ไหว ก่อนจะเป็น โรดริโก้ โมเรโน่ ลงมาเล่นแทน ในนาที 35

    ช่วงเวลาที่เหลือแม้ เชลซี จะครองเกมบุกใส่ได้มากกว่าแต่ยังเจาะแนวรับ ลีดส์ เข้าไปลุ้นทำประตูแบบจะแจ้งไม่ได้ ทำให้จบครึ่งแรกทั้งสองทีมยังเสมอ 0-0

    ครึ่งหลังเล่นมาได้สองนาที ไค ฮาแวร์ทซ์ กระชากหลุดเข้ามาในเขตโทษแล้วได้ส่องด้วยขวาเน้นๆแต่บอลไปตรงตัว อิลล็อง เมสลิเย่ร์ ปัดปลายมือออกหลังไปหวุดหวิด

    จากนั้น ลีดส์ ใกล้เคียงที่จะได้ประตูขึ้นนำสุดๆเมื่อ ราฟินญ่า ได้บอลหน้าปากประตูแล้วกลับตัวซัดด้วยซ้าย เอดูอาร์ เมนดี้ ปัดทิ้งปลายมือออกไปได้อย่างหวุดหวิด ในนาที 55

    เชลซี ยังครองเกมได้เหนือกว่า อันโตนิโอ รือดิเกอร์ เติมขึ้นมาลองส่องหน้าเขตโทษ อิลล็อง เมสลิเย่ร์ ต้องออกแรงพุ่งปัดทิ้งออกไปได้ ในนาที 72

    จนแล้วจนรอด เชลซี ก็ยังไม่ได้ประตูขึ้นนำ ท้ายเกม นาที 87 คัลลั่ม ฮัดสัน โอดอย ตัวสำรอง ลากจากซ้ายตัดเข้ากลางแล้วกดด้วยขวาบอลยังพุ่งไปตรงตัวของ เมสลิเย่ร์ รับเข้าซอง

    เวลาที่เหลือทั้งสองทีมยังทำอะไรกันไม่ได้ จบเกม ลีดส์ ยูไนเต็ด เสมอ เชลซี 0-0 ส่งผลให้ทัพ "สิงห์บลูส์" ชวดแซง เลสเตอร์ ขึ้นไปรั้งที่ 3 ของตาราง ส่วนทีม "ยูงทอง" ไร้ชัย 3 นัดรวด ยังอยู่ที่ 11 ของตาราง
   

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

ลีดส์ ยูไนเต็ด (4-4-1-1) : อิลล็อง เมสลิเย่ร์ - ลุค อายลิ่ง, ดีเอโก้ ยอเรนเต้, ปาสกาล สตรูจค์, เอซยาน อลิออสกี้ - ราฟินญ่า, คาลวิน ฟิลลิปส์, สจ๊วร์ต ดัลลัส, ไทเลอร์ โรเบิร์ต, แจ็ค แฮร์ริสัน (เอลแดร์ คอสต้า น.64) - แพทริค แบมฟอร์ด (โรดริโก้ โมเรโน่ น.35)

เชลซี (4-2-3-1) : เอดูอาร์ เมนดี้ - เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า, อันเดรียส คริสเตนเซ่น, อันโตนิโอ รือดิเกอร์, เบน ชิลเวลล์ - จอร์จินโญ่, เอ็นโกโล่ ก็องเต้ - เมสัน เมาน์ท (คัลลั่ม ฮัดสัน โอดอย น.79), คริสเตียน พูลิซิช (รีช เจมส์ น.68), ฮาคิม ซิเย็ค (ติโม แวร์เนอร์ น.68) - ไค ฮาแวร์ทซ์