แบร์นาร์โด้ ซิลวา ซัดประตูชัยพา แมนฯ ซิตี้ บุกเอาชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ 1-0 ถอนแค้นจากศึก คอมมิวนิตี้ ชีลด์ ส่งผลให้ "เรือใบสีฟ้า" คว้าชัย 3 นัดติด เก็บเพิ่มเป็น 9 คะแนน ขยับรั้งรองจ่าฝูง ขณะที่ เจ้าถิ่น มี 6 คะแนน อยู่ที่ 10

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
เลสเตอร์ ซิตี้ 0-1 แมนฯ ซิตี้
วันเสาร์ที่ 11 กันยายน 2564

สนาม : คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม

    เลสเตอร์ หวังย้ำแค้นหลังเคยชนะในศึก คอมมิวนิตี้ ชีลด์ มา โดยกุนซือ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ยังให้ อเดโมล่า ลุคมัน แข้งใหม่เป็นสำรองไปก่อน ขณะที่ ไรอัน เบอร์ทรานด์ ได้เปิดซิงตัวจริงหนแรกตั้งแต่ย้ายมาจาก เซาธ์แฮมป์ตัน เช่นเดียวกับ ยานนิค เวสเตอร์การ์ด
 
    ด้าน เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ยังยึดขุนพล "เรือใบสีฟ้า" ชุดเดิมที่ชนะมาสองนัดติด นำโดย แจ็ค กรีลิช จอมทัพทีมชาติอังกฤษเจ้าของค่าตัว 100 ล้านปอนด์ที่ลงเล่นพรีเมียร์ลีกนัดที่ 100 ขณะที่ เควิน เดอ บรอยน์ และ ฟิล โฟเด้น ที่เพิ่งหายเจ็บ กลับมามีชื่อเป็นสำรอง

    เริ่มเกมมาในนาทีที่ 6 แบร์นาร์โด้ ซิลวา ได้บอลขึ้นมาทางฝั่งซ้าย ก่อนเปิดบอลเข้ามาให้ กาเบรียล เชซุส ได้จังหวะโหม่งเต็มๆ แต่บอลไปตรงตัว แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล ปัดออกมาได้ ก่อนบอลมาเข้าทาง เฟร์ราน ตอร์เรส พยายามหาช่องยิงแต่ไปติดกองหลังเจ้าถิ่น

    ต่อมาในนาทีที่ 19 แบร์นาร์โด้ ซิลวา ได้บอลก่อนเลี้ยงหลบกองหลังเจ้าถิ่นมาหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนยิงด้วยซ้ายบอลพุ่งเข้ากรอบ แต่ยังเป็น แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล ที่ปัดออกไปได้ด้วยปลายมือ

    นาทีที่ 22 "เรือใบสีฟ้า" ได้ฟรีคิกก่อนเป็น อิลคาย กุนโดกัน ที่เล่นลูกสูตร ไหล่บอลข้ามฝั่งมามาให้ แจ็ค กรีลิช ได้จังหวะยิงโล่งๆ จากหน้ากรอบเขตโทษ แต่บอลเหินข้ามคานออกหลังไป

    นาทีที่ 28 เฟร์ราน ตอร์เรส ได้โอกาสครองบอลแถวหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนมีจังหวะได้ยิงบอลพุ่งเข้ากรอบแต่ยังไปตรงตัว แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล รับเอาไว้ได้

    ช่วงเวลาที่เหลือหลังจากนั้น ยังไม่มีทีมใดที่สามารถทำประตูออกนำได้ หมดเวลาการแข่งขันครึ่งแรก เลสเตอร์ ซิตี้ เสมอ แมนฯ ซิตี้ 0-0

    เริ่มครึ่งหลังมาในนาทีที่ 47 ติโมธี คาสตาญ ได้บอลหลุดขึ้นมาทางฝั่งขวา ก่อนเปิดบอลเข้ามาในกรอบเขตโทษแล้วเป็น ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ ที่ได้จังหวะโหม่งเต็มๆ แต่บอลไปชนคานก่อนออกหลังไป

    หลังจากนั้นอีก 1 นาที วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้ ตัดบอลได้ตรงกลางสนามก่อนจ่ายบอลทะลุช่องให้ เจมี่ วาร์ดี้ ได้บอลหลุดเดี่ยว ก่อนแตะหลบ เอแดร์ซอน แล้วยิงโล่งๆ เข้าไป แต่ผู้ช่วยผู้ตัดสินยกธงเป็นจังหวะล้ำหน้า ก่อนที่ วีเออาร์จะเช็ก และยืนยันเป็นจังหวะล้ำหน้าของ เจมี่ วาร์ดี้

    เกมดำเนินถึงนาทีที่ 62 แจ็ค กรีลิช ได้บอลแถวหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนจ่ายมาให้ ชูเอา กานเซโล่ ได้โอกาสยิงไกลบอลพุ่งเข้ากรอบ แต่ไปติด แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล ปัดออกมาเข้าทาง แบร์นาร์โด้ ซิลวา ได้จังหวะยิงซ้ำ ส่งบอลเข้าประตูไป ช่วยให้ แมนฯ ซิตี้ ออกนำ เลสเตอร์ ซิตี้ 1-0

    หลังจากนั้นไม่มีทีมใดที่สามารถทำประตูเพิ่มเติมได้ หมดเวลาการแข่งขัน แมนฯ ซิตี้ เอาชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ 1-0 ส่งผลให้ "เรือใบสีฟ้า" คว้าชัย 3 นัดติด เก็ยเพิ่มเป็น 9 คะแนน ขยับรั้งรองจ่าฝูง ขณะที่ เจ้าถิ่น มี 6 คะแนน อยู่ที่ 10

    รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีมที่ลงสนาม

    เลสเตอร์ ซิตี้ (4-4-1-1) : แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล - ติโมธี คาสตาญ,ยานนิค เวสเตอร์การ์ (จอนนี่ อีแวนส์ น.61), ซากลาร์ โซยุนชู, ไรอัน เบอร์ทรานด์ - มาร์ค อัลไบรท์ตัน, วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้, ยูริ ตีเลมันส์, ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ (อเดโมลา ลุคแมน น.74)- เจมส์ แมดดิสัน (เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ น.75)- เจมี่ วาร์ดี้ 

    แมนฯ ซิตี้ (4-3-3) : เอแดร์ซอน - ไคล์ วอล์คเกอร์, รูเบน ดิอาส, อายเมริค ลาปอร์กต์, ชูเอา กานเซโล่ - แบร์นาร์โด้ ซิลวา, โรดรี เอร์นานเดซ, อิลคาย กุนโดกัน - กาเบรียล เชซุส (แฟร์นันดินโญ่ น.85), เฟร์ราน ตอร์เรส (ราฮีม สเตอร์ลิ่ง น.64), แจ็ค กรีลิช