การอำลาจากสโมสรฮ็อกไกโด คอนซาโดเล่ ซัปโปโร ของ เจย์ โบธรอยด์ อดีตกองหน้าทีมชาติอังกฤษ วัย 39 ปี กลายเป็นการลาจากของกองหน้าที่เป็นเหมือนพี่ชายของ “เจ”ชนาธิป สรงกระสินธุ์ เพลย์เมคเกอร์ชาวไทย

ก่อนหน้าที่จะสนิทสนมกันฉันท์พี่น้อง เจย์โบธรอยด์ เคยทำให้ ชนาธิป น้ำตาตกมาสมัยที่เจ้าตัวเพิ่งได้ร่วมงานกันในสนามจากการเล่นพลาด โดยเป็นการตำหนิกันแบบซึ่ง ๆ หน้า ที่ทำให้ชนาธิปถึงกับหลั่งน้ำตาด้วยความไม่เข้าใจ

“ทิซัง”ทิวาพล สังขพันธุ์ ล่ามคู่ใจของ ชนาธิป ได้เผยว่า เจย์ โบธรอยด์ มาสนิทสนมกับชนาธิปจริงจัง ตอนที่เกิดโรคระบาดโควิด19 ซึ่งครอบครัวไม่สามารถเดินทางมาได้ และนักเตะต่างชาติก็ได้ใช้เวลาว่างในการทำกิจกรรมร่วมกัน จึงมีความสนิทสนมกันมาตั้งแต่บัดนั้น

“จากที่เคยไม่เข้าใจว่าทำไมต้องโดนตำหนิ ตอนหลัง “เจ”เริ่มรู้แล้วว่า เจย์ โบ เป็นคนที่ชอบพูดตรงไปตรงมาไม่อ้อมค้อม เมื่อเห็นเจ ทำผิดพลาดก็จะพูดตรง ๆ ไม่อ้อมค้อมประสาคนอังกฤษ ซึ่งเขาเคยบอกว่าเขาคิดว่า “เจ”พัฒนาตัวเองได้ถ้ามีการปรับอย่างที่เขาบอก เขาจึงกล้าที่จะบอกและตำหนิเมื่อเห็นจุดผิดพลาด”

สิ่งหนึ่งที่ เจย์ โบธรอยด์ บอกกับ “เจ”ก็คือ การเล่นฟุตบอลของ “เจ”ต้องใช้สัญชาตญาณในการเล่น บางครั้งไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยตาแล้วค่อยส่ง แต่อาจใช้การฟังเสียงแล้วให้ตามสัญชาตญาณ ซึ่งประตูที่ 3 ที่ซัปโปโร “เจ”ไม่ต้องหันไปมองได้ยินเสียง คาเนโกะ ก็แปะขึ้นหน้าให้ทั้งที่หันหลัง ซึ่งคาเนโกะ ก็ส่งต่อเข้ากลางให้ มิลาน ทูซิซ ยิงเข้าไป นั่นคือสัญชาตญาณที่ “เจ”บอกว่า เล่นตามที่เจย์ โบธรอยด์ แนะนำ นอกจากนี้ โบธรอยด์ ยังแนะนำ”เจ”ในเรื่องนอกสนามว่า ตอนนี้ยังสามารถทำรายได้จากการเล่นบอลอยู่ ต้องใช้เงินลงทุนให้งอกเงย ซึ่งการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ เป็นการลงทุนที่ดีอย่างหนึ่ง นี่คือคำสอนของ เจย์ โบธรอยด์ที่มีให้กับ “เจ”ชนาธิป