ราล์ฟ รังนิก กุนซือทีม แมนฯ ยูไนเต็ด ยอมรับว่าเกมในครึ่งแรกเป็นรอง เบรนท์ฟอร์ด ลิบลับ แต่แก้ลำในครึ่งหลังด้วยการเปลี่ยนให้นักเตะ ผีแดง เน้นบอลโยนโด่ง และกลายเป็นตัวแปรทำให้ถล่ม เบรนท์ฟอร์ด 3-1

ในเกม พรีเมียร์ลีก ที่ คอมมิวนิตี้ สเตเดี้ยม ผีแดง เล่นในครึ่งแรกได้อย่างย่ำแย่ เป็นรองเจ้าบ้านทุกกระบวน และน่าจะเสียประตูหลายหน จนในที่สุดกุนซือชาวเมืองเบียร์สั่งให้ลูกทีมเปลี่ยนมาเล่นบอลโด่งกระทั่งพิชิต เดอะ บีส์ ได้อย่างขาดลอย

"ผมคุยกับนักเตะช่วงพักครึ่ง มันไม่ได้เผ็ดร้อนอะไร แต่เราเปลี่ยนแปลงบางอย่างเพราะเราไม่ดีพอในครึ่งแรกแทบจะทุกด้าน"

"การผ่านบอลแย่มาก เราไม่แข็งแกร่งมากพอในจังหวะ 50-50 และเราเก็บบอลจังหวะสองไม่ได้เลย"

"ครึ่งหลังเราเร่งเกมให้เร็วขึ้น และเราจู่โจมพวกเขาด้วยลูกกลางอากาศ มันเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง"

"แอนโธนี่ อีแลงก้า โชว์ฟอร์มได้ดีเช่นเดียวกับนัดดวลกับ วิลล่า เขาเด่นมากในครึ่งหลัง เขาทำงานหนักในการไล่บอล และจากนั้นเขาก็ทำประตูแรกได้"

"แต่ผมแฮปปี้กับฟอร์มของคนอื่นเช่นกัน โดยเฉพาะสามนักเตะหนุ่มอังกฤษ" รังนิก กล่าว

"ดาบิด เด เคอา เซฟได้เยี่ยมในครึ่งแรก เขาเจ็บเล็กน้อย และเพิ่งหายไม่นาน"

"มันเหมือนเกมกับ วิลล่า เราต้องตั้งรับหลังจากนำหน้า และเป็นเรื่องสำคัญที่เราต้องเล่นหลังห้า แม้ว่าเราจะเก็บคลีนชีตไม่ได้ แต่มันก็สำคัญที่มันไม่เกิดเหตุการณ์แบบนัดก่อนอีก"

"มันเป็นเรื่องปกติเพราะในฐานะกองหน้า เขาต้องการทำประตู"

"เรามีอีกเกมให้เล่นในรอบสามวัน และตอนนั้นเรานำ 2-0 แล้ว"

"ผมคิดว่ามันเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง และจากนั้นเราก็ได้ประตูที่สาม"

ด้าน แอนโธนี่ อีแลงก้า ซึ่งทำประตูแรกในเกมให้ ผีแดง นำก่อนช่วงต้นครึ่งหลังเปิดปากว่า "ครึ่งหลังเราเล่นกันได้ดี เรามีพัฒนาการ ประตูแรกช่วยเราได้มาก จากนั้นประตูที่สองและสามก็ตามมาซึ่งทำให้ทุกอย่างดีขึ้น"

"หลังจากผมสัมผัสบอลได้ ผมก็เห็นผู้รักษาประตูขยับออกมา ผมจึงโหม่งบอลเข้าไป"

"ผมอยากทำงานหนักต่อ และทำประตูให้มากขึ้น ผมชื่นชมเจ้านายมาก คุณสามารถเห็นได้จากการซ้อมอย่างจริงจังของเราที่เขานำมาใช้ และมันส่งผลดีต่อการทำงาน มันทำให้คุณคว้าผลลัพธ์ได้อย่างสมควร"