สิงห์บลูส์" เชลซี กลายเป็นทีมจากอังกฤษสโมสรที่สามต่อจาก แมนยู เมื่อปี 2008 และ ลิเวอร์พูล ปี 2019 หลังกำราบ พัลไมรัส ช่วงต่อเวลา 2-1 หลังเสมอกัน 90 นาที 1-1 ครองแชมป์สโมสรโลกสมัยแรก ในการแข่งขันฟุตบอลฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ นัดชิงชนะเลิศ คืนวันเสาร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
สนาม : โมฮัมเหม็ด บิน ซาเยด สเตเดี้ยม, อาบู ดาบี

     ฟุตบอลฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ นัดชิงชนะเลิศ คืนวันเสาร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา "สิงห์บลูส์" เชลซี แชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบตัดเชือกเชือด อัล ฮิลาล นัดนี้ได้นายใหญ่ โธมัส ทูเคิ่ล หวนสั่งการหลังหายป่วยโควิด ใช้บริการฮีโร่นัดก่อน "โรเมลู ลูกากู" ล่าสกอร์อีกดวล พัลไมรัส แชมป์โกปา ลิเบร์ตาโดเรส ที่ถลุง อัล อาห์ลี กุนซือ อาเบล แฟร์เรยร่า ใส่ "โรเนลซอน ดา ซิลวา บาร์โบซ่า โรนี" หัวหอกทีเด็ดยิงแย่งแชมป์สมัยแรกกันทั้งคุ่

     ครึ่งแรกแมตช์ดำเนินถึง 31 สิงห์บลูส์ จำเป็นต้องเปลี่ยนผู้เล่นเมื่อ เมสัน เมาน์ท ถูกถอดออกใส่ คริสเตียน พูลิซิซ ลงทำหน้าที่แทน 

     ถัดมาอีกสี่นาที คริสเตียน พูลิซิซ ดอดรับบอลด้านขวาพร้อมปาดมาในเขตโทษ ดานีโล่ โดส ซานโตส ดักบอลกลิ้งเข้าหาประตูฝั่งตนเอง โชคดี โรเมลู ลูกากู ยืนถล่ำพลาดโอกาสทำสกอร์

     ช่วงทดเจ็บนาที 45+1 ติอาโก้ ซิลวา เติมสูงลองส่องไกลเกือบ 30 หลา บอลเกือบเสียบตาข่ายทางซ้าย แต่ เวเวอร์ตัน พุ่งปัดพ้นอันตรายเอาไว้ หมดครึ่งแรกเสมอกัน 0-0

     เปิดฉากครึ่งหลังนาที 55 เชลซีเฮจนได้ 1-0 มาเตโอ โควาซิช ส่งบอลไปหา คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย โยนบอลจากซ้ายมาระยะ 7 หลา โรเมลู ลูกากู เทคตัวโหม่งบอลหนีนายทวารแชมป์ทวีปละตินเข้าประตู

     เกมสกอร์เท่ากันนาที 62 ติอาโก้ ซิลวา โดนเบียดโดย กุสตาโว่ โกเมซ จนแนวรับสิงห์บลูส์มือถูกบอล กรรมการตัดสินใจดูวีเออาร์ด้วยตนเอง ชี้จุดโทษแก่พัลไมรัส ราฟาเอล เวยก้า สังหารไม่เหลือตีเสมอ 1-1

     ทีมดังแซมบ้าลุยอีกนาที 71 ดานีโล่ โดส ซานโตส แหวกแข้งเชลซีสองคน ก่อนตบให้ ราฟาเอล เวยก้า ลองซัดตรงเส้นกรอบเขตโทษทางขวา บอลเรียดแต่ เอดูอาร์ เมนดี้ อยู่ถูกตำแหน่งย่อตัวรับ หมดเวลา 90 นาทีเสมอกัน 1-1 ต้องต่อเวลาอีก 30 นาที

     ช่วงต่อเวลานาทีที่ 99 คริสเตียน พูลิซิซ ดีดต่อให้ ไค ฮาแวร์ทซ์ สอดผ่านบอลเรียด แนวรับพัลไมรัสเตะแป้กบอลลอยชนคานฝั่งตนเอง 

    เชลซี นำ 2-1 นาทีที่ 114 เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า กระโดดยิงบอลในเขตโทษไปถูกมือ ลวน การ์เซีย ที่ยกขึ้นพอดี แข้งสิงห์บลูส์รุมประท้วง เชิ้ตดำขอดูวีเออาร์ ก่อนมอบลูกโทษแก่ทีมลีกผู้ดี ไค ฮาแวร์ทซ์ ซัดแบบไม่มีความกดดัน

     โดยช่วงทดเจ็บ 120+6 ลวน การ์เซีย ผู้ทำเสียจุดโทษเตะรวบใส่ ไค ฮาแวร์ทซ์ กรรมการดูวีเออาร์ชูใบแดงไล่พ้นสนาม จบเกม เชลซี ชนะต่อเวลา พัลไมรัส 2-1 หลัง 90 นาทีเสมอกัน 1-1 ครองแชมป์สโมสรโลกสมัยแรก แถมเป็นทีมที่สามจากอังกฤษซิวถ้วยใบนี้ ต่อจาก แมนยู เมื่อปี 2008 และ ลิเวอร์พูล ปี 2019

รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม

เชลซี (3-4-3): เอดูอาร์ เมนดี้,อันเดรียส คริสเตนเซ่น (มาล็อง ซาร์ น.91),ติอาโก้ ซิลวา,อันโตนิโอ รือดิเกอร์,เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า,เอ็นโกโล่ ก็องเต้,มาเตโอ โควาซิช (ฮาคิม ซิเย็ค น.91),คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย (ซาอูล นิเกวซ น.76),เมสัน เมาน์ท (คริสเตียน พูลิซิซ น.31),โรเมลู ลูกากู (ติโม แวร์เนอร์ น.76),ไค ฮาแวร์ทซ์

พัลไมรัส (4-5-1): เวเวอร์ตัน,มาร์กอส โรช่า (เดย์เวอร์ซอน น.118),กุสตาโว่ โกเมซ,ลวน การ์เซีย (ใบแดง น.120+6),ฮัวกิน ปีเกเรซ,ดูดู้ (ราฟาเอล นาวาร์โร่ น.103),ดานีโล่ โดส ซานโตส,ราฟาเอล เวยก้า (เอดวร์ด อาตูเอสตา น.77),เซ ราฟาเอล (ชายล์ซอน น.60),กุสตาโว่ สการ์ป้า,โรเนลซอน ดา ซิลวา บาร์โบซ่า โรนี (เวสลี่ย์ น.77)