ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » พรีเมียร์ลีก อังกฤษ » สงครามกุหลาบเดือด! เฟร็ด-อีแลงก้าซูเปอร์ซับ แมนยูบุกย้ำแค้นลีดส์

สงครามกุหลาบเดือด! เฟร็ด-อีแลงก้าซูเปอร์ซับ แมนยูบุกย้ำแค้นลีดส์

Posted 21/02/2022 by siamsport

ถือเป็นเกมที่สู้กันแบบดุเดือดเลือดพล่าน ก่อนจะเป็น แมนฯ ยูไนเต็ด ที่บุกย้ำแค้น ลีดส์ แบบสุดมันส์ แม้จะโดน "ยูงทอง" ไล่ตามตีเสมอในครึ่งหลัง 2-2 แต่ก็มาได้สองตัวสำรองทั้ง เฟร็ด และ แอนโธนี่ อีแลงก้า ลงมากดคนละตุงพา "ปีศาจแดง" คว้าชัยสองนัดรวดเก็บเพิ่มเป็น 46 แต้ม ทิ้งห่าง เวสต์แฮม อันดับ 5 เป็น 4 คะแนน

    ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำวันอาทิตย์ที่ 20 กุมภาพันธ์ 2565 ที่สนาม เอลแลนด์ โร้ด ระหว่าง ลีดส์ ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 15 พบ แมนฯ ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 4 ของตาราง

     มาร์เซโล่ บิเอลซ่า กุนซือทีม "ยูงทอง" พาทีมไม่ชนะใคร 3 ติดต่อกันในลีก โดยเกมนี้ได้ สจ๊วร์ต ดัลลัส สลัดอาการเจ็บกลับมาออกสตาร์ตเป็นตัวจริงทำเกมรุกทางฝั่งขวา ประสานงานแนวรุกร่วมกับ โรดริโก้ โมเรโน่, แจ็ค แฮร์ริสัน และ แดเนี่ยล เจมส์

     ด้าน แมนฯ ยูไนเต็ด ของ ราล์ฟ รังนิค พาทีม ปีศาจแดง ไม่แพ้ใครในลีก 3 นัดติดต่อกัน เกมนี้ตัดสินใจส่ง เจสซี่ ลินการ์ด ออกสตาร์ตเป็นตัวจริง ประสานงานแนวรุกร่วมกับ บรูโน่ แฟร์นันด์ส, เจดอน ซานโช่ และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่ยืนเป็นหอกตัวเป้า

     ครึ่งแรกเปิดฉากมา 5 นาที ลีดส์ บุกเข้าใส่ก่อน และเกือบขึ้นนำอย่างรวดเร็วจากจังหวะที่ มาเตอุสซ์ คลิช ตัดเกมได้กลางสนาม ก่อนจะตักไปให้ แจ็ค แฮร์ริสัน สอดมาซัดด้วยซ้ายระยะเผาขนบอลหลุดกรอบไปนิดเดียว

     หลังจากนั้น นาทีที่ 9 แมนยู ได้โอาสลุ้นครั้งแรกจากจังหวะทะลุเข้าเขตโทษของ ปอล ป็อกบา แล้วตะบันด้วยขวาแต่บอลยังตรงตัว อิลล็อง เมสลิเย่ร์ รับเข้าซอง

     เกมเปิดหน้าแลกกันสนุก นาที 22 ลีดส์ ได้ลุ้นอีกครั้ง อดัม ฟอร์ชอว์ ได้บอลก่อนลากเข้าเขตโทษแล้วปั่นด้วยขวาไปเสาไกล ดาบิด เด เคอา ต้องออกแรงพุ่งปัดทิ้ง

     แมนยู ใกล้เคียงจะขึ้นนำสุดๆ ในนาที 25 เมื่อ ป็อกบา ใช้ความสามารถเฉพาะตัวแหวกแนวรับ ลีดส์ เข้าเขตโทษแล้วจ่ายเรียดไปที่หน้าปากประตูให้ โรนัลโด้ เข้าชาร์จระยะเผาขนยังติดเซฟของ เมสลิเย่ร์

     จากนั้น นาทีที่ 31 ลีดส์ ต้องมาเสียโควต้าเปลี่ยนตัวคนแรกอย่างรวดเร็ว หลังจาก โรบิน คอช มีอาการบาดเจ็บที่ศีรษะจนเล่นต่อไม่ไหวทำให้ จูเนียร์ ฟีร์โป้ ถูกส่งลงมาเล่นแทน

     เกมรุกของ แมนยู มาเป็นพายุ นาที 32 ป็อกบา แหวกแนวรับ ลีดส์ มาที่หน้าเขตโทษแล้วไหลต่อให้ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ตั้งป้อมปั่นด้วยขวาเน้นๆ เมสลิเย่ร์ ต้องออกแรงบินปัดออกหลังไปหวุดหวิด

     จนกระทั่งนาที 34 ความพยายามของ "ปีศาจแดง" มาสัมฤทธิ์ผลขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะเตะมุมทางฝั่งขวา ลุค ชอว์ เปิดมาเข้าหัว แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ขึ้นโหม่งเน้นๆส่งบอลตุงตาข่าย พร้อมกับเป็นประตูแรกในซีซั่นนี้ที่ "ปีศาจแดง" ทำได้จากลูกเตะมุม

     เท่านั้นไม่พอช่วงทดเวลา นาที 45+5 สกอร์ไหลห่างเป็น 2-0 เจดอน ซานโช่ ตักบอลให้ บรูโน่ ขึ้นโหม่งจ่อๆเข้าไปไม่เหลือ และเป็นประตูปิดท้ายครึ่งแรกให้ แมนยู นำ ลีดส์ 2-0

     กลับมาเล่นกันต่อในครึ่งหลัง ลีดส์ มีการปรับทัพเปลี่ยนตัวรวดเดียวสองคนส่งทั้ง ราฟินญ่า และ โจ เกลฮาร์ท ลงมาเล่นแทน แจ็ค แฮร์ริสัน และ ดีเอโก้ ยอเรนเต้

     ลีดส์ เริ่มครึ่งหลังอย่างคึกคัก นาที 53 มาได้ประตูตีไข่แตกในนาทีที่ 53 จากจังหวะที่ โรดรีโก้ ลากบอลขึ้นมาทางฝั่งขวาก่อนหลอกยิงด้วยส่งบอลเสียบหน้าต่าง

     เท่านั้นไม่พออีก 58 วินาทีต่อมา ลีดส์ ตามตีเสมอทันควัน 2-2 แดเนียล เจมส์ ได้บอลในเขตโทษก่อนตวัดเรียดไปที่เสาไกลให้ ราฟินญ่า ชาร์จจ่อๆหน้าปากประตูไม่เหลือ  
 
     เจ้าถิ่นยิ่งเล่นยิ่งได้ใจบุกมาเป็นพายุ นาที 60 โจ เกลฮาร์ท จะหลุดเข้าเขตโทษมากดด้วยซ้าย แต่บอลไม่มีน้ำหนักไปเข้าซอง เด เคอา

     หลังจากนั้น แมนยู มีการปรับหมากส่งทั้ง เฟร็ด และ แอนโธนีย์ อีแลงก้า ลงมาเล่นแทน ปอล ป็อกบา และ เจสซี่ ลินการ์ด ตามลำดับ

     จนกระทั่งนาที 70 กลายเป็น แมนยู ที่พลิกขึ้นนำอีกครั้งเป็น 3-2 จากจังหวะที่ เฟร็ด ทำชิ่งกับ ซานโช่ ก่อนจะเป็นมิดฟิลด์ชาวบราซิลที่หลุดมายิงยัดเสาแรกเข้าไปอย่างสวยงาม

     นาที 82 ลีดส์ หวิดตีเสมออีกครั้ง มาเตอุสซ์ คลิช ได้กดด้วยซ้ายหน้าเขตโทษ เด เคอา ต้องปัดทิ้งออกหลัง

     เวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม แมนฯ ยูไนเต็ด บุกชนะ ลีดส์ 4-2

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

ลีดส์ (4-1-4-1) : อิลล็อง เมสลิเย่ร์ - ดีเอโก้ ยอเรนเต้, โรบิน คอช, ปาสกาล สเตร๊าจ์ค, ลุค อายลิ่ง - อดัม ฟอร์ชอว์- มาเตอุสซ์ คลิช, สจ๊วร์ต ดัลลัส, โรดริโก้ โมเรโน่, แจ็ค แฮร์ริสัน - แดเนี่ยล เจมส์

แมนฯ ยูไนเต็ด (4-2-3-1) : ดาบิด เด เคอา - ดีโอโก้ ดาโล่ต์, วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ, แฮร์รี่ แม็คไกวร์, ลุค ชอว์ - สกอตต์ แม็คโทมิเนย์, ปอล ป็อกบา (เฟร็ด น.67)- เจสซี่ ลินการ์ด (แอนโธนีย์ อีแลงก้า น.67), บรูโน่ แฟร์นันด์ส, เจดอน ซานโช่ - คริสเตียโน่ โรนัลโด้

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »