คล็อปป์ทาบเฟอร์กี้,เชลซีเศร้าแฮตทริก! เกร็ดน่าสนใจหลังลิเวอร์พูลปราบเชลซีซิวแชมป์เอฟเอคัพ

ฟุตบอล » พรีเมียร์ลีก อังกฤษ » คล็อปป์ทาบเฟอร์กี้,เชลซีเศร้าแฮตทริก! เกร็ดน่าสนใจหลังลิเวอร์พูลปราบเชลซีซิวแชมป์เอฟเอคัพ

คล็อปป์ทาบเฟอร์กี้,เชลซีเศร้าแฮตทริก! เกร็ดน่าสนใจหลังลิเวอร์พูลปราบเชลซีซิวแชมป์เอฟเอคัพ

Posted 15/05/2022 by siamsport

ยูฟ่า ลิเวอร์พู สเปอร์ แมนเชสเตอร์ คล็อปป์ แฮตทริก ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ เอฟเอคัพ อังกฤษ

"หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ผงาดคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ มาครองเป็นสมัยที่ 8 หลังดวลจุดโทษชนะ เชลซี 6-5 (เสมอกัน 0-0 ใน 120 นาที) ในเกมรอบชิงฯ สุดระทึกที่สังเวียนแข้ง เวมบลีย์ สเตเดี้ยม เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา ซึ่งหลังเกมมีเกร็ดและสถิติที่น่าสนใจเกิดขึ้นไม่น้อยเลยทีเดียว แต่จะมีอะไรบ้างนั้น เรามาดูกัน
- นี่คือ เอฟเอ คัพ นัดชิงฯ หนแรกของ ลิเวอร์พูล นับตั้งแต่ฤดูกาล 2011/12 และถือเป็นแชมป์ครั้งแรกนับตั้งแต่ฤดูกาล 2005/06

- ลิเวอร์พูล ซิวดับเบิ้ลแชมป์บอลถ้วยอังกฤษ (เอฟเอ คัพ และ ลีก คัพ) เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ฤดูกาล 2000/01 ซึ่งฤดูกาลดังกล่าวพวกเขาได้แชมป์ ยูฟ่า คัพ อีกรายการด้วย

- ตอนนี้ ลิเวอร์พูล ได้แชมป์ เอฟเอ คัพ 8 สมัย เท่ากับ เชลซี และ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ โดยพวกเขาเป็นรองเพียงแค่ อาร์เซน่อล (14) และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (12) เท่านั้น

- เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือ ลิเวอร์พูล เพิ่งกลายเป็นผู้จัดการทีมคนที่สองในประวัติศาสตร์ ต่อจาก เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ตำนานกุนซือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ได้ทั้งแชมป์ ยูโรเปี้ยน คัพ / ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก, เอฟเอ คัพ, ลีก คัพ และ ลีกสูงสุดเมืองผู้ดี กับการคุมสโมสรเดียวในอังกฤษ

- ปีนี้ (2022) ซาดิโอ มาเน่ ปีกจอมพลิ้ว "หงส์แดง" ได้เฮในการดวลจุดโทษมาแล้วถึง 4 หน ซึ่งประกอบไปด้วยเกม แอฟริกา คัพ ออฟ เนชั่นส์ รอบชิงฯ, เพลย์ออฟคัดบอลโลก, ลีก คัพ รอบชิงฯ และล่าสุด เอฟเอ คัพ รอบชิงฯ

- เชลซี เป็นทีมแรกที่แพ้นัดชิงฯ บอลถ้วยภายในประเทศทั้งสองรายการภายในฤดูกาลเดียว นับตั้งแต่ มิดเดิ้ลสโบรช์ เมื่อฤดูกาล 1996/97

- เชลซี เป็นทีมแรกที่แพ้นัดชิงฯ เอฟเอ คัพ 3 ครั้งติด (ปี 2020, 2021 และ 2022) นับตั้งแต่ที่ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด เคยช้ำแบบติดๆ ในปี 1974, 1998 และ 1999

- เชลซี แพ้ในเกม เอฟเอ คัพ นัดชิงฯ ไปแล้วทั้งสิ้น 8 หน ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดเทียบเท่ากับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ เอฟเวอร์ตัน

- นับตั้งแต่ปี 2015 เป็นต้นมา เชลซี แพ้เกมรอบชิงฯ มากถึง 10 จาก 16 ครั้ง โดย 6 ครั้งที่ได้แชมป์คือ ลีก คัพ (2015), เอฟเอ คัพ (2018), ยูฟ่า ยูโรปา ลีก (2019), ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก (2021), ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ (2021) และ ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ (2021)

- เมสัน เมาท์ ดาวเตะ "สิงห์บลูส์" แพ้เกมนัดชิงฯ ที่สังเวียนแข้ง เวมบลีย์ สเตเดี้ยม 5 ครั้งติด ซึ่งประกอบไปด้วย เอฟเอ คัพ 3 หน (2020, 2021 และ 2022), ยูโร 2020 และ ลีก คัพ 2022

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

อลีสซงเจ๋ง,ซิมิกาสโคตรนิ่ง! ตัดเกรดแข้งลิเวอร์พูลดวลจุดโทษพิชิตเชลซีซิวแชมป์เอฟเอคัพ
ต้องต่อสู้กันอย่างดุเดือด 120 นาที แถมต้องดวลจุดโทษตัดสินหาผู้ชนะกันอีกครั้ง และสุดท้ายทีมที่ได้เฮยังคงเป็น "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล เหมือนเดิม ที่ผงาดคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ มาครองเป็นสมัยที่ 8 หลังดวลจุดโทษพิชิต เชลซี 6-5 (เสมอกัน 0-0 ใน 120 นาที) ในเกมรอบชิงฯ ที่สังเวียนแข้ง เวมบลีย์ สเตเดี้ยม เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา และนี่คือผลสอบของลูกทีมกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ แต่ละคนในแมตช์นี้ ซึ่งคะแนนสวยๆ ส่วนใหญ่จะอยู่ที่กลุ่มผู้เล่นแนวรับ และแน่นอนว่า ต้องรวมถึงนายทวารจอมหนึบที่ชื่อว่า อลีสซง เบ็คเกอร์ ด้วย
หงส์นับสองถึงสี่,สิงห์น้ำตาตกซ้ำสอง - 5 ข้อลิเวอร์พูลย้ำรอยแผลเชลซีซิวเอฟเอคัพ
จบลงเหมือนเดิมแต่ไม่ได้มาราธอนเหมือนเดิมสำหรับการดวลกันระหว่าง ลิเวอร์พูล กับ เชลซี ในนัดชิงชนะเลิศ เอฟเอคัพ ทีมคู่ชิงจากถ้วย คาราบาวคัพ ซึ่งต้องตัดสินกันด้วยการดวลลูกโทษอีกจนได้ในการฟาดแข้งที่ เวมบลีย์ เมื่อวันเสาร์ที่ 14 พ.ค.
ลิเวอร์พูลย้ำแค้นนัดชิง! แม่นโทษดับเชลซีผงาดเอฟเอคัพสมัยที่8
"หงส์แดง" ลิเวอร์พูล เดินหน้าลุยโปรเจ็คสี่แชมป์ต่อไป หลังดวลจุดโทษย้ำแค้นใส่ "สิงห์บลูส์" เชลซี ต่อจากนัดชิง คาราบาวคัพ ชนะไป 6-5 หลังเสมอในเวลา 120 นาที 0-0 ผงาดแชมป์เอฟเอคัพในรอบ 16 ปี เป็นสมัยที่ 8 ในการแข่งขันฟุตบอล เอฟเอ คัพ นัดชิงชนะเลิศ ครั้งที่ 141 เมื่อวันเสาร์ที่ 14 พฤษภาคม ที่ผ่านมา
ซิลวาคุมหลัง,ลูกากูยืนหอก?คาด11ตัวจริงเชลซีดวลลิเวอร์พูลนัดชิงฯเอฟเอคัพ
คืนวันนี้ "สิงห์บลูส์" เชลซี มีโปรแกรมสุดสำคัญที่จะต้องดวลกับ ลิเวอร์พูล ในศึก เอฟเอ คัพ รอบชิงชนะเลิศ ณ สังเวียนแข้ง เวมบลีย์ สเตเดี้ยม ซึ่งแน่นอนว่า พวกเขามุ่งมั่นอย่างมากที่จะแก้แค้น "หงส์แดง" จากการปราชัยในเกม คาราบาว คัพ รอบชิงฯ เมื่อช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ และนี่คือชุด 11 ผู้เล่นตัวจริงที่กุนซือ โธมัส ทูเคิ่ล น่าจะเลือกใช้สำหรับเกมนี้ ซึ่งจะมาในระบบ 3-4-3 หรือมองเป็น 3-4-2-1 ก็ได้