ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » พรีเมียร์ลีก อังกฤษ » เขาเกิดมาเพื่อสังหาร! เผยสถิติน่าทึ่ง "ฮาลันด์" ที่แทบไม่ต้องสัมผัสบอล แต่ยิงกระจาย

เขาเกิดมาเพื่อสังหาร! เผยสถิติน่าทึ่ง "ฮาลันด์" ที่แทบไม่ต้องสัมผัสบอล แต่ยิงกระจาย

Posted 17/09/2022 by siamsport

หลังจากที่โชว์ลูกยิงสไตล์กังฟู ช่วย แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดบ้านพลิกเชือด โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ สุดมันน์ 2-1 ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อคืนวันพุธ เท่ากับว่าฤดูกาลนี้ เออร์ลิง ฮาลันด์ กระทุ้งไปแล้วถึง 13 ประตู จากการลงเล่นให้ต้นสังกัดรวมทุกรายการเพียง 9 นัด

ภายใต้สถิติตัวเลขที่ยอดเยี่ยมนี้ มันก็มีเรื่องน่าทึ่งแฝงอยู่  แถมเป็นอะไรที่ดูขัดแย้งกับสไตล์การเล่นของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยุคกุนซือ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ที่เน้นการครองบอลเป็นหลัก และที่สำคัญประเด็นนี้ ฮาลันด์ ดันถูก (บางคน) วิจารณ์ซะอย่างงั้น เกี่ยวกับเรื่องที่ว่า เจ้าตัวมีส่วนร่วมกับการเล่นของทีมไม่มากเท่าที่ควร

สถิติจาก The Sun เผยว่า ฮาลันด์ ได้สัมผัสกับลูกบอลแค่ 177 ครั้ง จากการลงเล่น 9 เกมที่ผ่านมา และด้วยการที่ทำได้ถึง 13 ประตู เท่ากับว่า เจ้าตัวทำทุกๆ 1 ประตู ต่อการสัมผัสบอลเพียงแค่เกือบ 14 ครั้งเท่านั้น!!! ซึ่งมันเป็นอะไรที่น่าทึ่งมาก

หากยังทึ่งไม่พอ เราลองมาโฟกัสแค่ผลงานในลีกดู ซึ่งสถิติจาก Opta ระบุว่า ฮาลันด์ ซึ่งเพิ่งคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยม พรีเมียร์ลีก ประจำเดือนสิงหาคม สดๆ ร้อนๆ ได้สัมผัสบอลเพียง 132 หน จากการลงเล่น 6 นัด ซึ่งเฉลี่ยแล้วตกเกมละ 22 ครั้งเท่านั้น แต่นั่นอาจยังเห็นภาพไม่ชัดพอ

ว่าแล้วจึงเอาสถิติของดาวยิงจากสโมสรยักษ์ใหญ่รายอื่นๆ อย่าง กาเบรียล เชซุส (อาร์เซน่อล), โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (ลิเวอร์พูล) และ แฮร์รี่ เคน (ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์) มาเปรียบเทียบดู ซึ่งมันทำให้ได้เห็นความแตกต่างอย่างชัดเจนเลย

Opta เผยว่า ฤดูกาลนี้ เชซุส ได้สัมผัสบอลเฉลี่ยเกมละ 53.3 ครั้ง, ซาลาห์ 47.6 ครั้ง และ เคน 41.8 ครั้ง ซึ่งเท่ากับว่า พวกเขาเหล่านี้มีส่วนร่วมกับเกมของทีมตัวเอง มากกว่า ฮาลันด์ ร่วมๆ เท่าตัว แต่กลับทำประตูได้น้อยกว่า เพราะในลีกตอนนี้ ฮาลันด์ กดไปแล้ว 10 ตุง ขณะที่ เคน 5 ประตู, เชซุส 3 ประตู และ ซาลาห์ 2 ประตู

หากออกนอกอังกฤษ ไปดูสถิติของ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ ดาวยิวตัวจี๊ดแห่ง ปารีส แซงต์-แชร์กแมง และ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ยอดกองหน้าเลือดโปลของ บาร์เซโลน่า มันก็ให้ความรู้สึกไม่ต่างกัน เพราะ เอ็มบัปเป้ มีสถิติได้สัมผัสบอลเฉลี่ยเกมละ 64.5 ครั้ง ส่วน เลวานดอฟสกี้ 48.5 ครั้ง  

ใช่ครับ เรื่องนี้ใครจะแคร์ เพราะการเป็นกองหน้า หน้าที่หลักคือการทำประตู และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซื้อ ฮาลันด์ เข้ามา ก็เพื่อตอบโจทย์สิ่งนี้ หลังจากที่ทนเล่นแบบ False 9 ในฤดูกาลก่อน ขนาด กวาร์ดิโอล่า ยังมั่นใจเลยว่า ทีมกำลังไปได้สวยกับการมี ฮาลันด์ ยืนแดนหน้า ต่อให้ หัวหอกร่างยักษ์ชาวนอร์เวย์วัย 22 ปี มีส่วนร่วมกับการเล่นน้อยมากๆ ก็ตาม

"เราจำเป็นต้องปรับจูน บางครั้งผมก็มีความรู้สึกนะว่า เขาไม่มีส่วนร่วมกับเกมเลย แต่เขามักจะไปอยู่ตรงนั้นเสมอ เขาอาจไม่ต้องสัมผัสบอล แต่เขาจะไปโผล่ตรงตำแหน่งที่ต้องการ เขามีเซนส์ในการทำประตู"

"ที่ผ่านมาเราเล่นแบบ false 9 ซึ่งมันแตกต่างออกไป แต่ตอนนี้เรามี เออร์ลิง ยืนรออยู่ตรงนั้นเสมอ เราก็แค่ผ่านบอลให้เขา ผ่านไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็หาเขาเจอเอง" ยอดกุนซือชาวสแปนิชวัย 59 ปี กล่าว

ขณะที่ ฮาลันด์ เองก็ไม่ได้ใส่ใจเช่นกัน กับการที่ถูกมองว่า มีส่วนร่วมกับการเล่นของทีมน้อยไป

"ผมก็แค่มีสมาธิอยู่ตลอด ผู้คนมักพูดกันว่า ผมได้สัมผัสบอลไม่มากพอ แต่ผมไม่แคร์หรอก ผมรู้ดีว่าผมจำเป็นต้องทำอะไร และผมก็จะทำแบบนั้นต่อไปเรื่อยๆ ความฝันของผมคือการสัมผัสบอล 5 ครั้ง และทำ 5 ประตู" ยอดดาวยิง แมนฯ ซิตี้ พูดได้เห็นภาพสุดๆ

มันก็จริงแหละ การเป็นกองหน้า คุณก็แค่ทำประตูให้ได้ ต่อให้มีส่วนร่วมกับเกมน้อย ก็ไม่มีใครว่า แต่ ฮาลันด์ ดันเป็นกองหน้าที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าชาวบ้านนี่สิ เพราะหากย้อนกลับไปดูสถิติข้างบน จะเห็นได้ว่า 9 เกมที่ผ่านมา ฮาลันด์ มีโอกาสยิง 32 หน, ตรงกรอบ 19 ครั้ง และจำนวนที่ยิงตรงกรอบ สามารถเปลี่ยนเป็นประตูได้ถึง 13 ลูก เมื่อเทียบเป็นเปอร์เซนต์แล้ว สูงถึง 68.4% เลยทีเดียว ซึ่งมันเป็นอะไรที่โหดมากๆ

...แน่นอนว่า ฮาลันด์ คือดาวยิงระดับท็อปๆ ของโลกในปัจจุบัน แต่เรื่องนี้ก็ต้องยกความดีความชอบให้กับ กวาร์ดิโอล่า ด้วย ที่สามารถปรับเปลี่ยนการเล่นของทีมให้เข้ากับ ฮาลันด์ ได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงเพื่อนๆ ร่วมทีม "เรือใบสีฟ้า" โดยเฉพาะ เควิน เดอ บรอยน์ ที่ปั้นเก่งเหลือเกิน เล่นกันเข้าขาแบบนี้ ใครจะมาหยุดพวกนายได้ล่ะ?

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »