ฟุตบอล » ลีกคัพอื่นๆ » ความหวังของแอฟริกา! โมร็อกโก ดวลเป้าเขี่ย สเปน ร่วงบอลโลก ลิ่ว 8 ทีมครั้งแรก
ความหวังของแอฟริกา! โมร็อกโก ดวลเป้าเขี่ย สเปน ร่วงบอลโลก ลิ่ว 8 ทีมครั้งแรก
Posted 07/12/2022 by siamsport
โมร็อกโก ยิงได้แม่นยำเฉียบขาดกว่าดวลจุดโทษเอาชนะ สเปน 3-0 หลังเสมอในเวลา 0-0 โดย ยาสซีน บูนู ฮีโร่ของทีมเซฟถึง 2 จุดโทษ พาทีมผ่านเข้าไปเล่นในรอบก่อนรองชนะเลิศได้เป็นครั้งแรก รอพบคู่ชนะระหว่าง โปรตุเกส หรือสวิตเซอร์แลนด์ ในวันที่ 10 ธันวาคมนี้
"กระทิงดุ" ภายใต้การนำทัพของ หลุยส์ เอ็นรีเก้ พลาดท่าโดนทีเด็ดของ ซามูไรบลู พลิกแซงชนะ 2-1 ในเกมนัดส่งท้ายรอบแบ่งกลุ่ม อี จึงทำให้พวกเขาหล่นมาเป็นอันดับที่ 2
ครึ่งแรกเล่นมาได้ถึงนาทีที่ 12 กลายเป็น โมร็อกโก ที่ได้ทักทายก่อนจากจังหวะซํดฟรีคิกของ อาชราฟ ฮาคิมี่ ส่งบอลเหินข้ามคานออกไป
หลังจากนั้น นาทีที่ 26 สเปน ได้ลุ้นครั้งแรกและเกือบได้ประตูขึ้นนำเมื่อ จอร์ดี้ อัลบา เปิดบอลตัดแนวรับ โมร็อกโก ให้ มาร์โก อเซนซิโอ หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปกดด้วยซ้ายในเขตโทษบอลไปเข้าข้างตาข่าย
นาที 33 โมร็อกโก ตัดบอลได้ที่กลางสนามก่อนจะมาเข้าทาง นุสแซร์ มาซราอุย กดด้วยซ้ายหน้ากรอบแต่ไม่ผ่านมือของ อูไน ซิม่อน
แม้ โมร็อกโก จะบุกน้อยกว่าแต่จังหวะลุ้นแบบจะแจ้งทำได้ดีกว่า นาที 43 โซฟิยาน บูฟัล ตักบอลจากกราบซ้ายไปที่เสาไกลให้ นาเยฟ อาเกิร์ด ขึ้นโขกเน้นๆบอลเหินข้ามคานไปแบบหวุดหวิด
ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบครึ่งแรกเสมอกันอยู่ 0-0
ครึ่งหลัง สเปน ได้โอกาสทักทายก่อนในนาทีที่ 54 จากจังหวะฟรีคิกทางฝั่งซ้าย เปดรี้ เขี่ยบอลสั้นให้ ดานี่ โอลโม่ ตะบันเต็มข้อบอลพุ่งไปตรงตัว ยาสซีน บูนู ปัดทิ้งออกมาได้
สเปน ยังเป็นฝ่ายครองเกมเหนือกว่าชัดเจน แต่ปัญหาคือการเจาะแนวรับ โมร็อกโก เข้าไปลุ้นทำประตู หลังยังหาโอกาสไม่ได้แม้แต่ครั้งเดียวช่วงครึ่งหลัง
จนนาที 78 สเปน ต้องลองยิงจากแถวสอง ดานี่ โอลโม่ เก็บตกได้หน้าเขตโทษก่อนลองตะบันด้วยขวาตูมเดียวบอลข้ามคานไปไกล
ช่วงทดเวลา นาที 90+1 สเปน ได้โอกาสทอง การ์ลอส โซแลร์ เปิดฟรีคิกไปเสาไกลให้ โมราต้า ได้โหม่งแต่บอลยังเหินข้ามคานไปอีก
หลังจากนั้นทั้งสองทีมก็ยังทำอะไรกันไม่ได้ จบ 90 นาทีเสมอ 0-0 ต้องไปตัดสินกันในช่วงต่อเวลาพิเศษอีก 30 นาที
ช่วงต่อเวลาพิเศษ นาที 104 โมร็อกโก เกือบชิงขึ้นนำหลัง วาลิด เชดดิร่า ตัวสำรองหลุดเข้าไปซัดด้วยซ้ายแต่ยังไปติดขา อูไน ซิม่อน ช่วยเซฟให้ทัพกระทิงดุไม่เสียประตู
จบช่วงต่อเวลาพิเศษ 120 นาทียังทำอะไรไม่ได้ เสมอกัน 0-0 โมร็อกโก ต้องไปดวลจุดโทษกับ สเปน เพื่อหาทีมเข้าไปเล่นในรอบก่อนรองชนะเลิศ
ซึ่งผลปรากฎว่า โมร็อกโก ยิงได้แม่นยำกว่า เอาชนะ สเปน 3-0 ชนิดที่ทีมกระทิงดุยิงไม่เข้าเลยซักคน ขณะที่ ยาสซีน บูนู กลายเป็นฮีโร่ของทีมหลังเซฟสองจุดโทษ พาทีมเข้าไปเล่นในรอบ 8 ทีม่สุดท้ายได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ โดยรอพบผู้ชนะระหว่าง โปรตุเกส หรือ สวิตเซอร์แลนด์ ในวันที่ 10 ธันวาคมนี้
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
โมร็อกโก (4-3-3) : ยาสซีน บูนู - อาชราฟ ฮาคิมี่, นาเยฟ อาเกิร์ด (จาวาด เอล ยามิก น.84), โรแม็ง ซาอิสส์, นุสแซร์ มาซราอุย (ยาห์ยา อัตติอัต-อัลลาห์ น.82) - อัซเซดีน อูนาฮี (บาดร์ เบอนูน น.120), โซฟียาน อัมราบัต, เซลิม อมาลลาห์ (วาลิด เชดดิร่า น.82) - ฮาคิม ซิเย็ค, ยุสเซฟ เอ็น-เนซีรี่ (อับเดลฮามิด ซาบิรี่ น.82), โซฟิยาน บูฟัล (อับเด เอราซซูรี่ น.66)
สเปน (4-3-3) : อูไน ซิม่อน - มาร์กอส ยอร์เรนเต้, โรดรี, เอมเมอริค ลาป๊อร์กต์, จอร์ดี้ อัลบา (อเลฮานโดร บัลเด้ น.98) - เปดรี้, เซร์คิโอ บุสเก็ตส์, ปาโปล กาบี (การ์ลอส โซแลร์ น.63) - เฟร์ราน ตอร์เรส (นิโก้ วิลเลี่ยมส์ น.75) (ปาโบล ซาราเบีย น.118), มาร์โก อเซนซิโอ (อัลบาโร่ โมราต้า น.63), ดานี่ โอลโม่ (อันซู ฟาติ น.98)
การแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 รอบ 16 ทีมสุดท้าย ประจำวันอังคารที่ 6 ธันวาคม 2565 ที่สนาม เอดูเคชั่น ซิตี้ สเตเดี้ยม ระหว่าง โมร็อกโก พบ สเปน
วาลิด เรกรากุย กุนซือทีมชาติโมร็อกโก นำลูกทีมผ่านเข้ารอบมาเป็นอันดับที่ 1 ของกลุ่ม เอฟ ด้วยสถิติไร้พ่าย (ชนะ 2 เสมอ 1) หลังเฉือนชนะ แคนาดา 2-1 ในเกมนัดที่ผ่านมา"กระทิงดุ" ภายใต้การนำทัพของ หลุยส์ เอ็นรีเก้ พลาดท่าโดนทีเด็ดของ ซามูไรบลู พลิกแซงชนะ 2-1 ในเกมนัดส่งท้ายรอบแบ่งกลุ่ม อี จึงทำให้พวกเขาหล่นมาเป็นอันดับที่ 2
ครึ่งแรกเล่นมาได้ถึงนาทีที่ 12 กลายเป็น โมร็อกโก ที่ได้ทักทายก่อนจากจังหวะซํดฟรีคิกของ อาชราฟ ฮาคิมี่ ส่งบอลเหินข้ามคานออกไป
หลังจากนั้น นาทีที่ 26 สเปน ได้ลุ้นครั้งแรกและเกือบได้ประตูขึ้นนำเมื่อ จอร์ดี้ อัลบา เปิดบอลตัดแนวรับ โมร็อกโก ให้ มาร์โก อเซนซิโอ หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปกดด้วยซ้ายในเขตโทษบอลไปเข้าข้างตาข่าย
นาที 33 โมร็อกโก ตัดบอลได้ที่กลางสนามก่อนจะมาเข้าทาง นุสแซร์ มาซราอุย กดด้วยซ้ายหน้ากรอบแต่ไม่ผ่านมือของ อูไน ซิม่อน
แม้ โมร็อกโก จะบุกน้อยกว่าแต่จังหวะลุ้นแบบจะแจ้งทำได้ดีกว่า นาที 43 โซฟิยาน บูฟัล ตักบอลจากกราบซ้ายไปที่เสาไกลให้ นาเยฟ อาเกิร์ด ขึ้นโขกเน้นๆบอลเหินข้ามคานไปแบบหวุดหวิด
ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบครึ่งแรกเสมอกันอยู่ 0-0
ครึ่งหลัง สเปน ได้โอกาสทักทายก่อนในนาทีที่ 54 จากจังหวะฟรีคิกทางฝั่งซ้าย เปดรี้ เขี่ยบอลสั้นให้ ดานี่ โอลโม่ ตะบันเต็มข้อบอลพุ่งไปตรงตัว ยาสซีน บูนู ปัดทิ้งออกมาได้
สเปน ยังเป็นฝ่ายครองเกมเหนือกว่าชัดเจน แต่ปัญหาคือการเจาะแนวรับ โมร็อกโก เข้าไปลุ้นทำประตู หลังยังหาโอกาสไม่ได้แม้แต่ครั้งเดียวช่วงครึ่งหลัง
จนนาที 78 สเปน ต้องลองยิงจากแถวสอง ดานี่ โอลโม่ เก็บตกได้หน้าเขตโทษก่อนลองตะบันด้วยขวาตูมเดียวบอลข้ามคานไปไกล
ช่วงทดเวลา นาที 90+1 สเปน ได้โอกาสทอง การ์ลอส โซแลร์ เปิดฟรีคิกไปเสาไกลให้ โมราต้า ได้โหม่งแต่บอลยังเหินข้ามคานไปอีก
หลังจากนั้นทั้งสองทีมก็ยังทำอะไรกันไม่ได้ จบ 90 นาทีเสมอ 0-0 ต้องไปตัดสินกันในช่วงต่อเวลาพิเศษอีก 30 นาที
ช่วงต่อเวลาพิเศษ นาที 104 โมร็อกโก เกือบชิงขึ้นนำหลัง วาลิด เชดดิร่า ตัวสำรองหลุดเข้าไปซัดด้วยซ้ายแต่ยังไปติดขา อูไน ซิม่อน ช่วยเซฟให้ทัพกระทิงดุไม่เสียประตู
จบช่วงต่อเวลาพิเศษ 120 นาทียังทำอะไรไม่ได้ เสมอกัน 0-0 โมร็อกโก ต้องไปดวลจุดโทษกับ สเปน เพื่อหาทีมเข้าไปเล่นในรอบก่อนรองชนะเลิศ
ซึ่งผลปรากฎว่า โมร็อกโก ยิงได้แม่นยำกว่า เอาชนะ สเปน 3-0 ชนิดที่ทีมกระทิงดุยิงไม่เข้าเลยซักคน ขณะที่ ยาสซีน บูนู กลายเป็นฮีโร่ของทีมหลังเซฟสองจุดโทษ พาทีมเข้าไปเล่นในรอบ 8 ทีม่สุดท้ายได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ โดยรอพบผู้ชนะระหว่าง โปรตุเกส หรือ สวิตเซอร์แลนด์ ในวันที่ 10 ธันวาคมนี้
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
โมร็อกโก (4-3-3) : ยาสซีน บูนู - อาชราฟ ฮาคิมี่, นาเยฟ อาเกิร์ด (จาวาด เอล ยามิก น.84), โรแม็ง ซาอิสส์, นุสแซร์ มาซราอุย (ยาห์ยา อัตติอัต-อัลลาห์ น.82) - อัซเซดีน อูนาฮี (บาดร์ เบอนูน น.120), โซฟียาน อัมราบัต, เซลิม อมาลลาห์ (วาลิด เชดดิร่า น.82) - ฮาคิม ซิเย็ค, ยุสเซฟ เอ็น-เนซีรี่ (อับเดลฮามิด ซาบิรี่ น.82), โซฟิยาน บูฟัล (อับเด เอราซซูรี่ น.66)
สเปน (4-3-3) : อูไน ซิม่อน - มาร์กอส ยอร์เรนเต้, โรดรี, เอมเมอริค ลาป๊อร์กต์, จอร์ดี้ อัลบา (อเลฮานโดร บัลเด้ น.98) - เปดรี้, เซร์คิโอ บุสเก็ตส์, ปาโปล กาบี (การ์ลอส โซแลร์ น.63) - เฟร์ราน ตอร์เรส (นิโก้ วิลเลี่ยมส์ น.75) (ปาโบล ซาราเบีย น.118), มาร์โก อเซนซิโอ (อัลบาโร่ โมราต้า น.63), ดานี่ โอลโม่ (อันซู ฟาติ น.98)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
ฟุตบอลคือเพื่อน!ริชาร์ลิซอน ส่งกำลังใจให้ ซน ฮึง-มิน
ริชาร์ลิซอน ร่วมให้กำลังใจ ซน ฮึง-มิน เพื่อนร่วมทีม สเปอร์ส ยกให้เป็นฮีโร่ของชาวเกาหลีใต้ หลังทุ่มเทเต็มที่เพื่อมาเล่นในบอลโลกเคบียูโพลเผยแฟนบอลไทยยกบราซิลมีโอกาสคว้าแชมป์บอลโลกมากสุด
เคบียู สปอร์ต โพล เผยมุมมองของแฟนกีฬาไทยที่มีต่อฟุตบอลโลก 2022 หลังเกมดำเนินมาถึงรอบน็อคเอาท์ เชื่อมั่นบราซิลซึ่งโชว์ฟอร์มได้อย่างน่าประทับใจตั้งแต่เริ่มทัวร์นาเมนท์ มีโอกาสคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2022 มากที่สุด โดยทีมที่คาดว่ามีโอกาสจะคว้าแชมป์รองลงมา คือ ฝรั่งเศส, อังกฤษ และอาร์เจนตินา ตามลำดับสุดแฮปปี้ได้คืนสนาม!เนย์มาร์รับเคยหวั่นปิดฉากฟุตบอลโลกตั้งแต่นัดแรก
เนย์มาร์ เปิดอก เคยกลัวว่าจะไม่ได้ลงเล่น ฟุตบอลโลก 2022 อีก ในตอนที่เจ็บตรงข้อเท้าจากนัดแรก พร้อมบอกว่าตอนนี้ไม่รู้สึกปวดอะไรแล้ว แต่ก็ยังตั้งเป้าที่จะปรับปรุงในจุดต่างๆ ต่อไปแค่อยากฉลอง! ตีเต้ ยันเปล่าเต้นเพื่อดูหมิ่นเกาหลีใต้
ตีเต้ ระบุ ตนกับเหล่าพลพรรคทีมชาติบราซิลไม่ได้ตั้งใจจะดูหมิ่นทีมชาติเกาหลีใต้เลย โดยที่เต้นหลังจากทำประตูได้มันเป็นแค่การอยากแสดงออกถึงความสุขเท่านั้น
TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน
ไม่เผาผี ! ลิโอเนล เมสซี่ เผย 1 ทีมลีกผู้ดีที่ บาร์เซโลน่า เกลียดยิ่งกว่า เรอัล มาดริด
ตั๋วยูโรปาแค่เอื้อม ! เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ อวยชัยให้พรแข้ง เชลซี ฟอร์มสอย ไบรท์ตัน
วิเคราะห์บอล ฮอฟเฟ่นไฮม์ พบ บาเยิร์น วันเสาร์ที่ 18 พฤษภาคม 2567
วิเคราะห์บอล ดอร์ทมุนด์ พบ ดาร์มชตัดท์ วันเสาร์ที่ 18 พฤษภาคม 2567
3 สตาร์ ลิเวอร์พูล มาครบ! โรนัลด์ คูมัน คอนเฟิร์ม 30 แข้งชุดเบื้องต้นทีมชาติเนเธอร์แลนด์ลุย ยูโร 2024
อัลบั้มภาพเด็ดๆ
เจนนี่ ธมนภัค พริตตี้สุดฮอต นุ่ง...
ฮาน่า ฮาอึน ชอง ดาว TikTok สาวสว...
นาฟ ฉัฐนันท์ ปล่อยแซ่บท้าลมหนาว ...
เต็มที่แล้ว! ไทย พ่าย อุซเบกิสถา...
ตัดเกรด นักเตะไทย เกมเสมอ โอมาน ...
"ศุภชัย" ซัดเบิ้ล! ไทย ทุบ คีร์ก...
คลิปไฮไลท์