คืนฝันร้ายของฟาส, "หงส์แดง" แรงเหนือดวง! 5 ประเด็น ลิเวอร์พูล จบปี 2565 ด้วยชัยชนะแบบหืดจับ
Posted 31/12/2022 by siamsport
ลิเวอร์พูล จบปี 2565 ด้วยผลงานในการเก็บสามคะแนน เฉือน เลสเตอร์ ซิตี้ 2-1 ที่สนามแอนฟิลด์ เกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันศุกร์ที่ 30 ธันวาคมที่ผ่านมา แม้ฟอร์มโดยรวมอาจจะไม่ได้เลิศเลอเพอร์เฟกต์แต่ก็ถือว่ามีหลายๆ จุดที่ค่อนข้างดีขึ้น แต่สิ่งหนึ่งที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ จำเป็นต้องรีบแก้ไขเป็นการด่วนนั่นก็คือเกมรับ ! เพราะถ้าเกมนี้คู่แข่งของพวกเขาเป็น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ หรือ อาร์เซน่อล สกอร์อาจจะไม่ได้เป็นแบบนี้ก็ได้ ขณะที่ ดาร์วิน นูนเญซ ต้องบอกเลยว่ามีทุกอย่างที่น่าชื่นชมแต่ขาดแค่ความมั่นใจในการยิงประตูเท่านั้น สำหรับผู้ที่โชคร้ายส่งท้ายปีคงหนีไม่พ้น เว้าท์ ฟาส แนวรับทีมเยือนซึ่งเป็นผู้ส่งมอบชัยชนะให้กับ "หงส์แดง" อย่างแท้จริง
1. ติอาโก้ โดดเด่นทั้งครองบอลและคุมจังหวะ
การที่ คล็อปป์ จำเป็นต้องถอด ฟาบินโญ่ ออกในช่วงนาทีสุดท้ายก่อนเกมจะฟาดแข้งเนื่องจากภรรยาของนักเตะคลอดลูก ทำให้สาวก "เดอะ ค็อป" ค่อนข้างเป็นห่วงแผงมิดฟิลด์เพราะ ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ ยังขาดความแน่นอนในการเล่น แต่ต้องบอกเลยว่าแมตช์นี้ ติอาโก้ เข้ามาเติมเต็มทุกอย่างจริงๆ
ดาวเตะชาวสแปนิช แสดงให้เห็นถึงทักษะลูกหนังชั้นยอดไม่ว่าจะเป็นเรื่องเทคนิคในการครองบอล การหลอกล่อคู่แข่ง และการคุมจังหวะการเล่นทุกอย่างดูเนียนตาไปหมด ที่สำคัญยังช่วยเล่นเกมรับได้ดีเยี่ยม มีสองสามจังหวะที่เขาลงมาช่วยป้องกันทำให้ทีมรอดจากสถานการณ์อันตรายไปได้
จุดเดียวที่อาจทำให้แฟนบอล "หงส์แดง" รู้สึกติดขัดนั่นก็คือการครองบอลนานไปหน่อย ทำให้ทีมพลาดโอกาสเล่นสวนกลับเร็ว แต่ถ้ามองในแง่บวก ติอาโก้ ต้องการผ่านบอลให้แม่นยำเพื่อให้ทีมได้เปลี่ยนในการเล่น เพราะหากเปิดเร็วแล้วไม่แม่นอาจนำไปสู่การโดนสวนกลับก็ได้
ขณะที่ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กับ เอลเลียตต์ ผลงานไม่ค่อยเข้าตาในครึ่งแรก โดยเฉพาะ "กัปตันเฮนโด้" ที่จ่ายบอลพลาดจนทำให้ทีมโดนโต้กลับแต่เดชะบุญที่ เลสเตอร์ ขาดความแน่นอนไม่งั้นคงมีปัญหาแน่ๆ ด้าน "เจ้าจุก" แม้จะมีความกล้าในการเล่นแต่ยังขาดความนิ่ง และความละเอียดในการจ่ายบอล
อย่างไรก็ตามครึ่งหลัง เฮนเดอร์สัน มีส่วนในการเล่นมากขึ้น จับจังหวะได้ดี ตัดเกมแม่นยำ และยังมีโอกาสยิงประตูด้วยแต่น่าเสียดายที่บอลเฉียดเสาออกไป ส่วน เอลเลียตต์ ความเป็นหนุ่มกระทงทำให้เขายังมีเวลาพัฒนาการเล่นได้อย่างต่อเนื่อง สิ่งที่น่าห่วงก็คือเรื่องอาการบาดเจ็บในเกมนี้ซึ่งไม่รู้ว่าจะหนักแค่ไหน
2. นูนเญซ ขาดแค่ความเฉียบคมเท่านั้น
ผลงานของ ดาร์วิน นูนเญซ ในช่วงที่ผ่านมาต้องบอกว่าเริ่มค่อยๆ ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่สิ่งเดียวที่นักเตะยังขาดหายไปนั่นก็คือการจบสกอร์ที่เฉียบคมเท่านั้น โดยในแมตช์กับ เลสเตอร์ จะเห็นได้ชัดว่าเจ้าตัวมีส่วนร่วมกับเกมอย่างมาก โดยเฉพาะในเรื่องการเล่นเกมบุกทางฝั่งซ้ายต้องบอกว่าอันตรายมากๆ
หัวหอกทีมชาติอุรุกวัย สร้างสรรค์เกมได้ดี โดยความเร็วของเขาทำให้แนวรับ "สุนัขจิ้งจอก" ต้องพะวักพะวง และไม่กล้าที่จะดันเกมขึ้นสูง ซึ่งครึ่งแรก นูนเญซ แสดงให้เห็นแล้วว่าสปีดต้นของเขาอันตรายสุดๆ ทุกครั้งเพื่อนทิ้งบอลให้เขาได้มีพื้นที่วิ่ง หรือได้กระชากมักจะหลุดตลอด
จังหวะที่ "หงส์แดง" ได้ประตูนำ 2-1 ช่วงท้ายครึ่งแรก เป็นการแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าความเร็วของ นูนเญซ สร้างประโยชน์ให้กับทีมได้อย่างมาก น่าเสียดายที่จังหวะดังกล่าวเจ้าตัวดันชิพบอลไปชนเสาก่อนที่ เว้าท์ ฟาส จะวิ่งมาชนบอลเข้าประตู ซึ่งถ้าเป็นการจบสกอร์ของเขาเองคงเป็นจังหวะที่สมบูรณ์แบบสุดๆ
การหาพื้นที่เพื่อโหม่งทำประตูก็คือว่าใช้ได้ แต่สิ่งเดียวที่นักเตะจำเป็นต้องรีบปรับอย่างเร่งด่วนก็คือความมั่นใจ เพราะมีหลายครั้งที่เขาได้โอกาสยิงประตูมักจะยิงออกไปอย่างไม่น่าเชื่อ
3. ปัญหาเดิมๆ กลับมาอีกแล้ว
หนึ่งในปัญหาสำคัญมากๆ ของลิเวอร์พูลตลอดทั้งฤดูกาลนี้ก็คือจุดอ่อนเรื่องเกมรับ นี่คือปัญหาเดิมๆ ที่น่าปวดเศียรเวียนเกล้าจริงๆ เพราะต่อให้ทีมเล่นดีแค่ไหน แต่แนวรับมักจะทำพลาดจนนำไปสู่หายนะทุกครั้ง
ลองนึกสภาพเกมเล่นไปแค่สี่นาทีพวกเขาก็โดน "จิ้งจอกสยาม" ส่งบอลเข้าไปซุกก้นตาข่าย แถมจังหวะที่เสียประตูเป็นการประกบตัวที่ผิดพลาด และทำให้เกิดช่องโหว่ในแผงแบ็กโฟร์ ที่ปล่อยให้คู่แข่งได้หลุดเดี่ยวไปแบบง่ายๆ
จุดเริ่มต้นมาจากจังหวะที่ แดนนี่ วอร์ด เปิดบอลยาว และเกมรับของเจ้าบ้านได้สับสนตำแหน่ง ส่งผลให้ เคียร์แนน ดิวส์บิวรี่-ฮอลล์ ได้โอกาสกระชากบอลหลุดเดี่ยวกว่าครึ่งสนามเข้าไปยิงประตูแบบสบายอุรา
ทีมเยือนยังมีโอกาสเล่นงานจุดอ่อนของ "หงส์แดง" ด้วยการเน้นขึ้นเกมทางริมเส้น และพวกเขาน่าจะยิงประตูได้มากกว่า 1 ลูกด้วยซ้ำในแมตช์นี้ แต่น่าเสียดายที่ เลสเตอร์ ขาดความเฉียบคมไม่งั้นทีมที่น้ำตาตกอาจเป็น ลิเวอร์พูล ก็ได้
สำหรับช่วงหยุดปีใหม่ คล็อปป์ กับทีมงานคงต้องเตรียมแก้ปัญหาเรื่องเกมรับกันยกใหญ่ และดีไม่ดีพวกเขาอาจจะต้องกระโดดลงไปในตลาดพ่อค้าแข้งเพื่อหากองหลังชั้นดีเพิ่มอีกซักรายมาเป็นออปชั่นเสริม เพราะขืนปล่อยเอาไว้แบบนี้หายนะจะกลับมาเยือนอีกครั้งแน่นอน
4. ฝันร้ายของหนุ่มฟาส
"ฟาส(ต์) แอนด์ ฟิวเรียส" เร็ว แรง ไม่เกรงใจกองเชียร์ ! แมตช์นี้ถ้าจะหาผู้โชคร้ายผสมดวงซวยที่สุดคงหนีไม่พ้น เว้าท์ ฟาส แนวรับหัวฟู เพราะเจ้าตัวมีชื่อบนสกอร์บอร์ดในฐานะผู้ทำประตู (ตัวเอง) ไม่ใช่แค่ลูกเดียว สองลูกเลยจ้าาา !
จริงๆ แล้วหากถามแฟนบอล "หงส์แดง" ว่าครึ่งแรกทีมรักของพวกเขาฟอร์มเป็นยังไง ทุกๆ คนต้องพูดเสียงเดียวกันว่าไม่ได้เรื่อง ทีมเล่นกันสะเปะสะปะ สร้างโอกาสแทบไม่ได้เลย และไม่มีจังหวะยิงเข้ากรอบด้วยซ้ำ
จนกระทั่ง ฟาส ช่วยสงเคราะห์ส่งบอลเข้าไปซุกก้นตาข่ายให้ ไม่งั้นเจ้าบ้านคงไม่สามารถเจาะประตูคู่แข่งในช่วงครึ่งแรกได้อย่างแน่นอน ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ต้องขอบคุณโชคดวงจริงๆ สำหรับยอดทีมแห่งถิ่นแอนฟิลด์
ขณะที่ครึ่งหลัง เซนเตอร์แบ็กชาวเบลเยียม ยังมีอาการลนลานอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจังหวะที่สกัดไม่ดีจนโดน นูนเญซ แย่งบอลไปได้ ถ้าหาก หัวหอกชาวอุรุกวัย ส่งบอลแม่นยำให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ บอกเลยว่าสกอร์คงไม่ใช่แค่นี้แน่นอน
5. ของขวัญส่งท้ายปีขาลต้อนรับปีเถาะ
หลังจากวันเปิดกล่องของขวัญหรือ "บ็อกซิ่ง เดย์" เหล่าสาวก "เดอะ ค็อป" จะยิ้มกันถ้วนหน้าที่ได้เห็นผลงานทีมรักคว้า 3 คะแนนในเกมเยือน แอสตัน วิลล่า เกมล่าสุดพวกเขายังได้ยิ้มกันเหงือกแห้งกับชัยชนะเป็นการส่งท้ายปีเสือได้อย่างสวยหรู
ต้นฤดูกาลนี้ คล็อปป์ แอนด์ โค. ออกสตาร์ทได้กระท่อนกระแท่นมากๆ ทำให้เรื่องการลุ้นแชมป์ลีกต้องทำใจไปแล้ว ส่วนเรื่องลุ้นท็อปโฟร์ยังลูกผีลูกคน แต่พวกเขาค่อยๆ ทำผลงานกระเตื้องขึ้น และกลับมาสู่ฟอร์มที่ดี แต่ดันมาเจอช่วงพักเบรกฟุตบอลโลกทำให้หลายคนกังวลว่าอาจจะส่งผลกระทบกับผลงานของทีมเมื่อกลับมาลงแข่งอีกครั้ง
อย่างไรก็ตามหลังจบศึกเวิลด์ คัพ ฉบับตะวันออกกลาง ทีมอาจจะออกสตาร์ทไม่ค่อยดีนักเมื่อพ่ายให้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในเกมคาราบาว คัพ แต่หลังจากนั้นผลงานในลีกถือว่ายอดเยี่ยมเก็บ 6 แต้มเต็มเป็นการส่งท้ายปีที่ทำให้แฟนบอลของพวกเขายิ้มแก้มปริกันเลยทีเดียว
การจบปี 2565 ด้วยชัยชนะ น่าจะเป็นเรื่องดีต่อขวัญกำลังใจของนักเตะ, กุนซือ และทีมสตาฟฟ์ ฉะนั้นเมื่อเข้าสู่ปีใหม่หวังว่าฟอร์มของพวกเขาจะกระเตื้องมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะแนวรุกที่ได้ โคดี้ กัคโป มาสร้างสีสัน
ทอมเม้ง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
แมนยู ลุ้นขึ้นท็อปโฟร์! จัด "แรชฟอร์ด-มาร์กซิยาล" บุกยิง วูล์ฟส์ ที่ลุ้นหนีโซนแดง
จูเลน โลเปเตกี ประเดิมคุม "หมาป่า" วูล์ฟแฮมป์ตัน ในพรีเมียร์ลีกก็คว้าสามแต้มได้สำเร็จ เกมนี้ลุ้นว่าจะต่อยอดเพื่อหนีโซนตกชั้นได้หรือไม่? เมื่อต้องเปิดรังรับทีมฟอร์มแรงอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่มีแนวรุกดุดันแบบไม่เกรงใจใคร ซึ่งหากเด็กๆ ของ เอริค เทน ฮาก คว้าสามแต้มได้จะแซง สเปอร์ส ขึ้นรั้งอันดับ 4 ทันที ในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดส่งท้ายปี วันเสาร์ที่ 31 ธ.ค.นี้ เวลา 19.30 น."ฟาส" เศร้าเบิ้ลยิงตัวเอง! ลิเวอร์พูล สุดเฮงบี้ เลสเตอร์ หวิว เฮในลีก 4 นัดติด
ชนะแบบเขินๆ! ลิเวอร์พูล แม้จะโดน เลสเตอร์ ซิตี้ นำแต่ไก่โห่ ทว่า เว้าท์ ฟาส แนวรับของจิ้งจอกเจอฝันร้ายมาทำเข้าประตูตัวเองสองเม็ดติดๆ ส่งให้ "หงส์แดง" เฉือนคว้าชัยไปแบบสุดเฮง 2-1 คว้าชัยในลีก 4 นัดติด รั้งที่ 6 มี 28 คะแนน จี้ "ผีแดง" อันดับ 5 แต้มเดียวแฉแมนยูเคยทุ่มทั้งเงิน-ให้เจอคนดังแต่ยังแห้วเบลลิงแฮม
ซ่วนตง เหริน อดีตซีอีโอ เบอร์มิงแฮม ระบุ ก่อนหน้าที่ จู๊ด เบลลิงแฮม จะไปซบตัก ดอร์ทมุนด์ นั้น แมนฯ ยูไนเต็ด ใช้ทุกทางเท่าที่จะทำได้เพื่อที่จะเอา เบลลิงแฮม ไปร่วมก๊วน พร้อมบอกว่าทึ่งกับการตัดสินใจของ เบลลิงแฮม ที่เลือกซบ "เสือเหลือง" มากกว่า บาเยิร์น ด้วยลุ้นเฮ4เกมติด! ลิเวอร์พูล กำลังคึก "นูนเญซ" ตัวจริงลุ้นยิง เลสเตอร์
"หงส์แดง" ของกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ อยู่ในช่วงกำลังมั่นใจในลีกเฮมา 3 เกมติดแถมพึ่งได้ โคดี้ กัคโป มาเป็นสมาชิกใหม่ความพร้อมไร้ปัญหาเพิ่มเติมวาง ดาร์วิน นูนเญซ เป็นตัวทีเด็ด ต้อนรับ เลสเตอร์ ทีมอันดับ 13 ที่มีปัญหาไม่น้อยในการจัดทัพ ในศึกฟุตบอล
TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน
อัลบั้มภาพเด็ดๆ
มาย ฮาเร็ม ส่งภาพเขย่าโซเชียล นุ...
เจนนี่ ธมนภัค พริตตี้สุดฮอต นุ่ง...
ฮาน่า ฮาอึน ชอง ดาว TikTok สาวสว...
นาฟ ฉัฐนันท์ ปล่อยแซ่บท้าลมหนาว ...
เต็มที่แล้ว! ไทย พ่าย อุซเบกิสถา...
ตัดเกรด นักเตะไทย เกมเสมอ โอมาน ...
คลิปไฮไลท์