ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » พรีเมียร์ลีก อังกฤษ » ลิเวอร์พูล ถอนแค้นสาสม! "กัคโป-นูนเญซ"เบิ้ลคู่-"ซาลาห์"ยิงอีกถลุง แมนยู ยับ

ลิเวอร์พูล ถอนแค้นสาสม! "กัคโป-นูนเญซ"เบิ้ลคู่-"ซาลาห์"ยิงอีกถลุง แมนยู ยับ

Posted 06/03/2023 by siamsport

"หงส์แดง" ลิเวอร์พูล งัดผลงานมาสเตอร์พีค "กัคโป-นูนเญซ" กดเบิ้ล พร้อม "ซาลาห์" พังตาข่ายเกมแดงเดือดอีกแล้ว ก่อนยำใหญ่ "ผีแดง" แมนยู เละเทะ 7-0 ขยับขึ้นที่ 5 แต่แข่งมากกว่า นิวคาสเซิ่ล ขณะที่ ผีแดง รั้งที่ 3 เหมือนเดิม

สนาม : แอนฟิลด์

ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดแดงเดือด คืนวันอาทิตย์ที่ 5 มีนาคมที่ผ่านมา "ผีแดง" แมนฯ ยูไนเต็ด ผลงานกำลังยอดเยี่ยมเพิ่งคว้าโทรฟี่คาราบาวคัพมาครองหนึ่งใบแล้ว ยังมีลุ้นแชมป์อีกสามรายการที่เหลือ ยกทัพเยือน "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ที่จำเป็นต้องเฮเพื่อต่อความหวังแย่งโควตาบอลยุโรป ชปล.

เริ่มเกมช่วงสิบนาทีแรก ดีโอโก้ ดาโลต์ ดันสูงกลางสนามไหลออกขวาหน้ากรอบเขตโทษ อันโตนี่ เลี้ยงตัดมาปั่นติดเซฟ อลีสซง เบ็คเกอร์ ล้มตัวปัดออกหลัง

ถัดมานาที 22 โมฮาเหม็ด ซาลาห์ จ่ายบอลเร็วมาที่ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ถ่ายบอลออกซ้าย แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน แต่งบอลก่อนสบโอกาสยิงติด ลิซานโดร มาร์ติเนซ ปักหลักขวางหน้ากรอบประตู

อีกสี่นาที เฟร็ด ทิ่มบอลทะลุช่อง ดีโอโก้ ดาโลต์ รอครอสบอลทางขวาข้ามมาในเขตโทษอีกฟาก บรูโน่ แฟร์นันด์ส ปรี่ทิ้งตัวโขกบอลย้อนกระดอนออกข้างแสาแรก

ช็อตต่อมานาทีเดียว ดาบิด เด เคอา วางบอลให้ ลุค ชอว์ ตัดสินใจบอมบ์ขึ้นหน้า มาร์คัส แรชฟอร์ด สปีดยกเท้าจิ้มเร็วไม่ผ่าน อลีสซง เบ็คเกอร์ ที่ไม่เสียสมาธิ

ผีแดงมีลุ้นอีกครั้งนาที 33 ลุค ชอว์ โยนฟรีคิกริมสนามด้านซ้ายบอลลอยเข้าหัว ดีโอโก้ ดาโลต์ ได้โหม่งเต็มแรงทว่านายทวารเจ้าถิ่นอยู่ถูกตำแหน่งรับสบาย

ท้ายครึ่งแรกนาที 42 บรูโน่ แฟร์นันด์ส เปิดฟรีคิกกลางสนาม กาเซมีโร่ ออกตัววิ่งตั้งหัวโหม่งบอลซุกตาข่ายสำเร็จ แต่เจ้าตัวล้ำหน้าซะก่อน ปีศาจแดงชวดออกนำน่าเสียดาย

แต่แล้วนาทีเดียว หงส์แดง เป็นฝ่ายเฮก่อน 1-0 แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน เปิดเรียดอ้อมเกมรับทีมเยือนให้ โคดี้ กัคโป สอดมาเก็บพร้อมโยกหลบ ราฟาแอล วาราน ก่อนปั่นหนี ดาบิด เด เคอา เสียบตาข่ายทางขวา

หมด 45 นาทีแรก ลิเวอร์พูล ออกนำ แมนฯ ยูไนเต็ด 1-0

ต้นครึ่งหลังนาที 47 ฟาบินโญ่ งัดบอลหน้ากรอบเขตโทษ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ วิ่งมาแตะบอลชน ลุค ชอว์ เขตโทษด้านขวาเด้งหา ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ ซัดกึ่งผ่านเจอ ดาร์วิน นูนเญซ ตั้งหัวโขกหน้าประตู เจ้าถิ่นหนี 2-0

สองนาทีถัดมา แมนยู เร่งเอาคืน อันโตนี่ กระชากบอลก่อนสบจังหวะซัดนอกกรอบ บอลตรงกรอบแต่ไร้พิษสงเข้าซอง อลีสซง เบ็คเกอร์

ยังไม่พอนาที 50 สกอร์ไหล 3-0 โคดี้ กัคโป ส่งบอลไปที่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ สปีดเก็บบอลลากหลอก ลิซานโดร มาร์ติเนซ ทิ่มบอลไปที่หัวหอกชาวดัตช์สอดชิพหนี ดาบิด เด เคอา ซุกตาข่าย

หงส์แดงหวิดบวกเพิ่มนาที 58 อิบราฮิม่า โกนาเต้ เติมช่วยเกมรุก เกือบมีชื่อพังสกอร์เจ้าตัวเทคตัวโหม่งบอลออกข้างกรอบทางขวาเพียงนิดเดียวเท่านั้น

เกมผ่านเข้านาที 66 ดาร์วิน นูนเญซ ได้บอลสวนกลับจ่ายทีแรกบอลแฉลบ สก๊อตต์ แม็คโทมิเนย์ บอลเด้งมาหา โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ตะบันเต็มเท้าในเขตโทษเสยเพดานตาข่ายแบบที่ ดาบิด เด เคอา หมดสิทธิ์ป้องกัน เจ้าบ้านฉีกเละ 4-0

ทีมเยือนพยายามเอาคืนนาที 73 มาร์คัส แรชฟอร์ด หลุดเดี่ยวเข้าเขตโทษแตะหลบ อลีสซง เบ็คเกอร์ ก่อนกองหน้าผีแดงรีบซัดบอลไร้ดวงดันชนโคนเสาแรกเหลี่ยมนอก

จากนั้นสามนาทียั หงส์แดง ทิ้ง 5-0  จอร์แดน เฮนเดอร์สัน จับบอลเคลียร์ทิ้งแล้วหยอดบอลไปที่ ดาร์วิน นูนเญซ กระโดดโหม่งระยะ 7 หลาลอยลิ่วกองก้นตาข่ายอีกเม็ด

เจ้าบ้านนำสบายในนาที 83 ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ หลุดมาทางกราบขวาทิ่มยัดในเขตโทษ ลุค ชอว์ เตะทิ้งอัดโดนเพื่อนกระดอนเข้าทาง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ หวดเม็ดสองเกมนี้นำ หงส์แดง ฉีก ผีแดง 6-0

สิ่งที่เหลือเชื่อเกิดขึ้นในนาที 89 โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ยืนโล่งทางขวา ก่อนจ่ายไปที่ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ตัวสำรองโฉบแตะแล้วซัดลอดขา ดาบิด เด เคอา ซุกประตูปิดท้าย จบเกม ลิเวอร์พูล ชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด 7-0 ขยับขึ้นที่ 5 แต่แข่งมากกว่า นิวคาสเซิ่ล ขณะที่ ผีแดง รั้งที่ 3 เหมือนเดิม

รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม

ลิเวอร์พูล (4-3-3): อลีสซง เบ็คเกอร์,เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, อิบราฮิม่า โกนาเต้, เฟอร์กิล ฟาน ไดค์,แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน,จอร์แดน เฮนเดอร์สัน (สเตฟาน บายเซติช น.78),ฟาบินโญ่ (เจมส์ มิลเนอร์ น.79),ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ (เคอร์ติส โจนส์ น.86),โมฮาเหม็ด ซาลาห์,โคดี้ กัคโป (โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ น.78),ดาร์วิน นูนเญซ (ดีโอโก้ โชต้า น.79)

แมนฯ ยูไนเต็ด (4-2-3-1): ดาบิด เด เคอา,ดีโอโก้ ดาโลต์,ราฟาแอล วาราน,ลิซานโดร มาร์ติเนซ (ไทเรลล์ มาลาเซีย น.77),ลุค ชอว์,กาเซมีโร่ (มาร์เชล ซาบิตเซอร์ น.77),เฟร็ด (สก๊อตต์ แม็คโทมิเนย์ น.59),อันโตนี่,บรูโน่ แฟร์นันด์ส,มาร์คัส แรชฟอร์ด (แอนโทนี่ย์ อีแลงก้า น.86),เวาท์ เว็กฮอร์สท์ (อเลฮานโดร การ์นาโช่ น.59)

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »