ฟุตบอล » พรีเมียร์ลีก อังกฤษ » ฮาลันด์ โหดต่อไม่รอใคร,ปืนใหญ่ส่อเจอฮีทสโตรกเล่นงาน! 5 ข้อ แมนซิตี้ ขยี้ เลสเตอร์ เบาะๆ
ฮาลันด์ โหดต่อไม่รอใคร,ปืนใหญ่ส่อเจอฮีทสโตรกเล่นงาน! 5 ข้อ แมนซิตี้ ขยี้ เลสเตอร์ เบาะๆ
Posted 16/04/2023 by siamsport
แมนฯ ซิตี้ หายใจรดต้นคอ อาร์เซน่อล เข้าไปทุกทีแล้วหลังเปิดบ้านพิชิต เลสเตอร์ ทีมในโซนสีแดงไปแบบเบาะๆ ตามความคาดหมาย 3-1 ในการลงเล่น ศึก พรีเมียร์ลีก เมื่อวันเสาร์ที่ 15 เม.ย.ที่ผ่านมา
จากสามแต้มในเกมล่าสุด ทำให้ เรือใบสีฟ้า ไล่จี้ เดอะ กันเนอร์ส ทีมจ่าฝูงเหลือสามแต้มเท่านั้นโดยที่ทั้งสองทีมลงเล่น 30 นัดเท่ากัน แต่ยังมีเกมที่ต้องเจอกันเองที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม รออยู่ปลายเดือนนี้ซึ่งน่าสนใจอย่างยิ่งว่ามันจะเป็นเกมตัดสินแชมป์หรือเปล่า?
1. เรือใบปรับทัพสามราย
เป๊ป กวาร์ดิโอล่า นายใหญ่ แมนฯ ซิตี้ ปรับทีมตัวจริงสามรายจากเกมเปิดบ้านถล่ม บาเยิร์น มิวนิค 3-0 ในถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแปดทีมนัดแรกเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาต้อนรับการมาเยือนของ เลสเตอร์
ริยาด มาห์เรซ อดีตปีกทีม เดอะ ฟ็อกซ์ ถูกส่งลงเล่นกับต้นสังกัดเก่าเช่นเดียวกับ เอมเมอริค ลาปอร์ตกส์ กองหลังที่ตกเป็นข่าวหวังย้ายทีมในซัมเมอร์นี้เนื่องจากได้รับโอกาสให้ลงสนามเพียงน้อยนิด รวมถึง ไคล์ วอล์คเกอร์ ฟูลแบ็คที่นั่งสำรองเป็นส่วนใหญ่เช่นกัน
สำหรับสามรายที่เสียตำแหน่งตัวจริงในเกมนี้ประกอบไปด้วย มานูเอล อาคันยี่ , อิลคาย กุนโดกัน และ นาธาน อาเก้
2.สมิธ ประเดิมคุม เดอะ ฟ็อกซ์
หลังแพ้คารังต่อ บอร์นมัธ 1-0 ในเกมล่าสุด เลสเตอร์ ก็ตั้ง ดีน สมิธ คุมทีมอย่างเป็นทางการนัดแรก แต่เป็นสัญญาระยะสั้นจนจบซีซั่นเท่านั้นหมายให้เขาพาทีมอยู่รอดใน พรีเมียร์ลีก
สำหรับการประเดิมจับงานกับ สุนัขจิ้งจอก เกมแรก อดีตนายใหญ่ทีม แอสตัน วิลล่า และ นอริช โรเตชั่นทีมสี่รายจากเกมเมื่อวันเสาร์ และทำเซอร์ไพรส์เรียกใช้งาน คากลาร์ โซยุนคู กองหลังลงเล่นเกมลีกเป็นนัดที่สามในซีซั่นนี้หลังเจ้าตัวถูก เบรนแดน ร็อดเจอร์ส เจ้านายคนก่อนดร็อปยาวเนื่องจากฟอร์มตก
อย่างไรก็ดี ทีมเยือนได้ ยูริ ตีเลอมันส์ ที่เจ็บข้อเท้าไปนานหกสัปดาห์คืนสนาม ขณะที่ แฮร์รี่ ซุตตาร์ กับ คีแรน ดิวส์บิวรี่ ฮอลล์ เป็นอีกสองรายที่ได้ออกสตาร์ตแทนที่ ดาเนี่ยล ดาร์มาเตย์ , บูบาการี่ ซูมาเร่ , ริคาร์โด้ เปเรยร่า และ ฮาร์วีย์ บาร์นส์ โดยสองรายหลังเจ็บกล้ามเนื้อต้นขาด้านหลัง
3. เหยื่อรายล่าสุดของ ฮาลันด
ในที่สุด เลสเตอร์ ก็หนีไม่พ้นตกเป็นเหยื่อของ เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ กองหน้าทีม แมนฯ ซิตี้ ซึ่งเพิ่มสถิติสอยตาข่ายทีมใน พรีเมียร์ลีก ได้เพิ่มเป็นรายที่ 16 แล้ว และมีเพียง เบรนท์ฟอร์ด , เชลซี และ ลิเวอร์พูล ที่ยังไม่เสียความบริสุทธิ์ให้กับเขาในเกม พรีเมียร์ลีก แต่ทั้งสามรายเผชิญหน้ากับเขาแค่ทีมละนัดเท่านั้น
ขณะเดียวกัน สตาร์ทีมชาติ นอรเวย์ กดประตู เลสเตอร์ ได้สองเม็ดด้วย และทำให้เขาเพิ่มผลงานยิงได้ในลีกอิงลิชเป็นลูกที่ 32 แล้วจากการลงเล่น 28 นัดซึ่งเป็นสถิติที่เทียบเท่ากับ โม ซาลาห์ ซึ่งกระทุ้งประตูให้ ลิเวอร์พูล ในหนึ่งซีซั่นของ พรีเมียร์ลีก ได้มากที่สุด 32 ประตูในระบบลีก 38 นัด
สำหรับสถิติสูงสุดตลอกาลของ พรีเมียร์ลีก คือ 34 ประตูซึ่งถือครองโดย แอนดี้ โคล (1993/94 กับ นิวคาสเซิ่ล) และ อลัน เชียเรอร์ (1994/95 กับ แบล็คเบิร์น) หากแต่ในยุคนั้น พรีเมียร์ลีก ยังฟาดแข้งกันซีซั่นละ 42 นัด
4. เป๊ป ฉลองชัยเกมเหย้านัดที่ 150
ปิดจ็อบได้ตามคาดสำหรับ กวาร์ดิโอล่า นายใหญ่ เรือใบสีฟ้า ซึ่งพาทีมเงินถึงกำชัยเกมเหย้าได้ครบ 150 นัดแล้วในทุกรายการหลังย้ายมาสร้างชื่อในลีกเมืองผู้ดี (ชนะ 145 เสมอ 20 แพ้ 16) โดยมันเริ่มตั้งแต่เกมลีกนัดที่เขาเอาชนะ ซันเดอร์แลนด์ ได้ 2-1 เมื่อวันที่ 13 ส.ค.2016
ขณะเดียวกัน กุนซือสแปนิชคุมทีมลงเล่น 10 นัดหลังในทุกรายการมีผลงานชนะรวด 100% ด้วยโดยเกมต่อไปเขาจะพาทีมบุกไปฟัดกับ เสือใต้ ในถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแปดทีมนัดสอง
อย่างไรก็ดี ในเกมต้อนรับ เลสเตอร์ เห็นได้ชัดว่าหลังจากเจ้าบ้านนำหน้าอย่างรวดเร็ว 3-0 ในครึ่งแรก พวกเขาก็ผ่อนเกมจนเปิดโอกาสให้ทีมเยือนได้ทำเสียวหลายหนจนในที่สุด เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ ตัวสำรองอดีตกองหน้า แมนฯ ซิตี้ ก็ใช้กฏยิงประตูทีมเก่าซัดตีไข่แตกให้อาคันตุกะได้ในช่วง 15 นาทีสุดท้าย แถมยิงบอลชนเสาในช่วงทดเวลาอีกต่างหาก
เพื่อให้เห็นภาพอย่างชัดเจนว่าแชมป์เก่าผ่อนเกมจนเกือบยุ่ง สถิติในครึ่งแรกบ่งบอกว่าพวกเขาเหนือกว่าอื้อซ่าทั้งการครองบอล 75:25% และได้ยิงมากกว่า 8:3 ครั้งโดยเป็นการส่งบอลเข้ากรอบเหนือกว่า 3:0 ครั้ง
กระทั่งหลังจบเกม สถิติระบุว่า เรือใบสีฟ้า ครองบอลเป็นสัดส่วน 71:29% และได้ยิงมากกว่าเล็กน้อย 12:10 ครั้งซึ่งเป็นบอลที่เข้ากรอบเท่ากัน 4:4 ครั้งซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่า เดอะ ฟ็อกซ์ ยกระดับเกมได้ดีขึ้นใน 45 นาทีหลัง สวนทางกับเจ้าถิ่น
5. ส่องโปรแกรมที่เหลือของเรือใบ
นอกจากจะมีสิทธิ์เข้ารอบตัดเชือก แชมเปี้ยนส์ลีก สูงลิบ รวมถึงการป้องกันแชมป์ พรีเมียร์ลีก แล้ว เพื่อให้ได้เห็นกันว่า แมนฯ ซิตี้ มีลุ้นคว้าสามแชมป์สูงแค่ไหน เราสมควรมองดูเกมที่เหลืออยู่ของพวกเขาท่ามกลางคำถามที่ว่าทีมเงินถังจะแบกรับโปรแกรมชุกชุมได้ดีมากน้อยแค่ไหนเท่านั้น
19 เม.ย. : บาเยิร์น (เยือน) แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแปดทีมนัดสอง
22 เม.ย. : เชฟฯ ยูไนเต็ด (เวมบลีย์) ตัดเชือก เอฟเอคัพ
26 เม.ย. : อาร์เซน่อล (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
30 เม.ย. : ฟูแล่ม (เยือน) พรีเมียร์ลีก
3 พ.ค. : เวสต์แฮม (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
7 พ.ค. : ลีดส์ (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
13 พ.ค. : เอฟเวอร์ตัน (เยือน) พรีเมียร์ลีก
20 พ.ค. : เชลซี (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
28 พ.ค. : เบรนท์ฟอร์ด (เยือน) พรีเมียร์ลีก
รอการประกาศ : ไบรท์ตัน (เยือน) พรีเมียร์ลีก
จากสามแต้มในเกมล่าสุด ทำให้ เรือใบสีฟ้า ไล่จี้ เดอะ กันเนอร์ส ทีมจ่าฝูงเหลือสามแต้มเท่านั้นโดยที่ทั้งสองทีมลงเล่น 30 นัดเท่ากัน แต่ยังมีเกมที่ต้องเจอกันเองที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม รออยู่ปลายเดือนนี้ซึ่งน่าสนใจอย่างยิ่งว่ามันจะเป็นเกมตัดสินแชมป์หรือเปล่า?
1. เรือใบปรับทัพสามราย
เป๊ป กวาร์ดิโอล่า นายใหญ่ แมนฯ ซิตี้ ปรับทีมตัวจริงสามรายจากเกมเปิดบ้านถล่ม บาเยิร์น มิวนิค 3-0 ในถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแปดทีมนัดแรกเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาต้อนรับการมาเยือนของ เลสเตอร์
ริยาด มาห์เรซ อดีตปีกทีม เดอะ ฟ็อกซ์ ถูกส่งลงเล่นกับต้นสังกัดเก่าเช่นเดียวกับ เอมเมอริค ลาปอร์ตกส์ กองหลังที่ตกเป็นข่าวหวังย้ายทีมในซัมเมอร์นี้เนื่องจากได้รับโอกาสให้ลงสนามเพียงน้อยนิด รวมถึง ไคล์ วอล์คเกอร์ ฟูลแบ็คที่นั่งสำรองเป็นส่วนใหญ่เช่นกัน
สำหรับสามรายที่เสียตำแหน่งตัวจริงในเกมนี้ประกอบไปด้วย มานูเอล อาคันยี่ , อิลคาย กุนโดกัน และ นาธาน อาเก้
2.สมิธ ประเดิมคุม เดอะ ฟ็อกซ์
หลังแพ้คารังต่อ บอร์นมัธ 1-0 ในเกมล่าสุด เลสเตอร์ ก็ตั้ง ดีน สมิธ คุมทีมอย่างเป็นทางการนัดแรก แต่เป็นสัญญาระยะสั้นจนจบซีซั่นเท่านั้นหมายให้เขาพาทีมอยู่รอดใน พรีเมียร์ลีก
สำหรับการประเดิมจับงานกับ สุนัขจิ้งจอก เกมแรก อดีตนายใหญ่ทีม แอสตัน วิลล่า และ นอริช โรเตชั่นทีมสี่รายจากเกมเมื่อวันเสาร์ และทำเซอร์ไพรส์เรียกใช้งาน คากลาร์ โซยุนคู กองหลังลงเล่นเกมลีกเป็นนัดที่สามในซีซั่นนี้หลังเจ้าตัวถูก เบรนแดน ร็อดเจอร์ส เจ้านายคนก่อนดร็อปยาวเนื่องจากฟอร์มตก
อย่างไรก็ดี ทีมเยือนได้ ยูริ ตีเลอมันส์ ที่เจ็บข้อเท้าไปนานหกสัปดาห์คืนสนาม ขณะที่ แฮร์รี่ ซุตตาร์ กับ คีแรน ดิวส์บิวรี่ ฮอลล์ เป็นอีกสองรายที่ได้ออกสตาร์ตแทนที่ ดาเนี่ยล ดาร์มาเตย์ , บูบาการี่ ซูมาเร่ , ริคาร์โด้ เปเรยร่า และ ฮาร์วีย์ บาร์นส์ โดยสองรายหลังเจ็บกล้ามเนื้อต้นขาด้านหลัง
3. เหยื่อรายล่าสุดของ ฮาลันด
ในที่สุด เลสเตอร์ ก็หนีไม่พ้นตกเป็นเหยื่อของ เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ กองหน้าทีม แมนฯ ซิตี้ ซึ่งเพิ่มสถิติสอยตาข่ายทีมใน พรีเมียร์ลีก ได้เพิ่มเป็นรายที่ 16 แล้ว และมีเพียง เบรนท์ฟอร์ด , เชลซี และ ลิเวอร์พูล ที่ยังไม่เสียความบริสุทธิ์ให้กับเขาในเกม พรีเมียร์ลีก แต่ทั้งสามรายเผชิญหน้ากับเขาแค่ทีมละนัดเท่านั้น
ขณะเดียวกัน สตาร์ทีมชาติ นอรเวย์ กดประตู เลสเตอร์ ได้สองเม็ดด้วย และทำให้เขาเพิ่มผลงานยิงได้ในลีกอิงลิชเป็นลูกที่ 32 แล้วจากการลงเล่น 28 นัดซึ่งเป็นสถิติที่เทียบเท่ากับ โม ซาลาห์ ซึ่งกระทุ้งประตูให้ ลิเวอร์พูล ในหนึ่งซีซั่นของ พรีเมียร์ลีก ได้มากที่สุด 32 ประตูในระบบลีก 38 นัด
สำหรับสถิติสูงสุดตลอกาลของ พรีเมียร์ลีก คือ 34 ประตูซึ่งถือครองโดย แอนดี้ โคล (1993/94 กับ นิวคาสเซิ่ล) และ อลัน เชียเรอร์ (1994/95 กับ แบล็คเบิร์น) หากแต่ในยุคนั้น พรีเมียร์ลีก ยังฟาดแข้งกันซีซั่นละ 42 นัด
4. เป๊ป ฉลองชัยเกมเหย้านัดที่ 150
ปิดจ็อบได้ตามคาดสำหรับ กวาร์ดิโอล่า นายใหญ่ เรือใบสีฟ้า ซึ่งพาทีมเงินถึงกำชัยเกมเหย้าได้ครบ 150 นัดแล้วในทุกรายการหลังย้ายมาสร้างชื่อในลีกเมืองผู้ดี (ชนะ 145 เสมอ 20 แพ้ 16) โดยมันเริ่มตั้งแต่เกมลีกนัดที่เขาเอาชนะ ซันเดอร์แลนด์ ได้ 2-1 เมื่อวันที่ 13 ส.ค.2016
ขณะเดียวกัน กุนซือสแปนิชคุมทีมลงเล่น 10 นัดหลังในทุกรายการมีผลงานชนะรวด 100% ด้วยโดยเกมต่อไปเขาจะพาทีมบุกไปฟัดกับ เสือใต้ ในถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแปดทีมนัดสอง
อย่างไรก็ดี ในเกมต้อนรับ เลสเตอร์ เห็นได้ชัดว่าหลังจากเจ้าบ้านนำหน้าอย่างรวดเร็ว 3-0 ในครึ่งแรก พวกเขาก็ผ่อนเกมจนเปิดโอกาสให้ทีมเยือนได้ทำเสียวหลายหนจนในที่สุด เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ ตัวสำรองอดีตกองหน้า แมนฯ ซิตี้ ก็ใช้กฏยิงประตูทีมเก่าซัดตีไข่แตกให้อาคันตุกะได้ในช่วง 15 นาทีสุดท้าย แถมยิงบอลชนเสาในช่วงทดเวลาอีกต่างหาก
เพื่อให้เห็นภาพอย่างชัดเจนว่าแชมป์เก่าผ่อนเกมจนเกือบยุ่ง สถิติในครึ่งแรกบ่งบอกว่าพวกเขาเหนือกว่าอื้อซ่าทั้งการครองบอล 75:25% และได้ยิงมากกว่า 8:3 ครั้งโดยเป็นการส่งบอลเข้ากรอบเหนือกว่า 3:0 ครั้ง
กระทั่งหลังจบเกม สถิติระบุว่า เรือใบสีฟ้า ครองบอลเป็นสัดส่วน 71:29% และได้ยิงมากกว่าเล็กน้อย 12:10 ครั้งซึ่งเป็นบอลที่เข้ากรอบเท่ากัน 4:4 ครั้งซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่า เดอะ ฟ็อกซ์ ยกระดับเกมได้ดีขึ้นใน 45 นาทีหลัง สวนทางกับเจ้าถิ่น
5. ส่องโปรแกรมที่เหลือของเรือใบ
นอกจากจะมีสิทธิ์เข้ารอบตัดเชือก แชมเปี้ยนส์ลีก สูงลิบ รวมถึงการป้องกันแชมป์ พรีเมียร์ลีก แล้ว เพื่อให้ได้เห็นกันว่า แมนฯ ซิตี้ มีลุ้นคว้าสามแชมป์สูงแค่ไหน เราสมควรมองดูเกมที่เหลืออยู่ของพวกเขาท่ามกลางคำถามที่ว่าทีมเงินถังจะแบกรับโปรแกรมชุกชุมได้ดีมากน้อยแค่ไหนเท่านั้น
19 เม.ย. : บาเยิร์น (เยือน) แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแปดทีมนัดสอง
22 เม.ย. : เชฟฯ ยูไนเต็ด (เวมบลีย์) ตัดเชือก เอฟเอคัพ
26 เม.ย. : อาร์เซน่อล (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
30 เม.ย. : ฟูแล่ม (เยือน) พรีเมียร์ลีก
3 พ.ค. : เวสต์แฮม (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
7 พ.ค. : ลีดส์ (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
13 พ.ค. : เอฟเวอร์ตัน (เยือน) พรีเมียร์ลีก
20 พ.ค. : เชลซี (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
28 พ.ค. : เบรนท์ฟอร์ด (เยือน) พรีเมียร์ลีก
รอการประกาศ : ไบรท์ตัน (เยือน) พรีเมียร์ลีก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
อาร์เซน่อลข่ม-ขอโกยแต้มหนีเรือ! "เชซุส" ประจำการโป้ง, เวสต์แฮม กำลังคึก "อันโตนิโอ" ทีเด็ดซัดประตู
"ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล เน้นชัยหวังทำแต้มหนีห่าง แมนฯ ซิตี้ คู่แข่งแย้งแชมป์ โดย กาเบรียล เชซุส ฟิตสมบูรณ์พร้อมนำล่าตาข่ายเกมบุกถิ่น "ขุนค้อน" เวสต์แฮม ที่ฟอร์มกำลังเข้าที่ แต่ดูสถิติการพบกันก่อนหน้าเป็นทัพปืนโตเหนือกว่าหลายขุม ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ วันอาทิตย์ที่ 16 เม.ย. ศกนี้ ถ่ายทอดสด : True Premier 1 (เวลา : 20.00 น.)"ฮาลันด์" เหมาสอง! แมนซิตี้ เฮในลีก6เกมติดอัด เลสเตอร์ ขยับจี้ ปืนใหญ่ 3 แต้ม
"เรือใบสีฟ้า" ทำผลงานได้ตามเป้าแม้มาโดน ตีไข่แตก แต่ยังรักษาสกอร์จาก ครึ่งแรก เปิดรังทุบ "เลสเตอร์" 3-1 โดยเกมนี้ ฮาลันด์ ที่เหมาคนเดียว 2 ประตูโดนเปลี่ยนตัวออกตั้งแต่เริ่ม ครึ่งหลัง แต่สถิติสุดโหดนำโด่งดาวซัลโวที่ 32 ตุงพาทีมไล่จี้ "ปืนใหญ่" เหลือ 3 คะแนนแล้ว ในศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนวันเสาร์ที่ผ่านมายิงเยอะแล้วไง!คาสซาโน่ชี้ฮาลันด์ไม่รู้วิธีเล่นบอลของจริง
อันโตนิโอ คาสซาโน่ ระบุ เออร์ลิง ฮาลันด์ หัวหอก แมนฯ ซิตี้ ไม่รู้จักวิธีการเล่นฟุตบอลที่แท้จริงแม้ว่าจะมีผลงานการทำประตูที่น่าทึ่งก็ตาม พร้อมบอกว่า ฮาลันด์ ทำให้ตนนึกถึง อาเดรียโน่ ช่วงที่อยู่กับ อินเตอร์แมนซิตี้ เล็งสามแต้มจี้ปืน! "ฮาลันด์"ลับเท้าซัด,เลสเตอร์ ประเดิมโค้ช ดีน สมิธ
"เรือใบ" แมนฯ ซิตี้ โอกาสทองมาถึงหากซิวชัยจี้ อาร์เซน่อล คู่แข่งลุ้นแชมป์เหลือแค่สามแต้ม "เออร์ลิ่ง ฮาลันด์" กองหน้าฟอร์มแรงล่าตาข่ายเช่นเดิมรับ "จิ้งจอก" เลสเตอร์ ที่ได้ฤกษ์ประเดิมโค้ชใหม่ชั่วคราว ดีน สมิธ หวังพาทีมหนีตกชั้น ในการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนวันเสาร์ที่ 15 เมษายน 2566
TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน
อัลบั้มภาพเด็ดๆ
มาย ฮาเร็ม ส่งภาพเขย่าโซเชียล นุ...
เจนนี่ ธมนภัค พริตตี้สุดฮอต นุ่ง...
ฮาน่า ฮาอึน ชอง ดาว TikTok สาวสว...
นาฟ ฉัฐนันท์ ปล่อยแซ่บท้าลมหนาว ...
เต็มที่แล้ว! ไทย พ่าย อุซเบกิสถา...
ตัดเกรด นักเตะไทย เกมเสมอ โอมาน ...
คลิปไฮไลท์