ตอนนี้ เมสัน กรีนวู้ด ต้องเดินหน้าต่อไปกับเส้นทางนักฟุตบอลอาชีพครั้งใหม่ หลัง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และนักเตะตัดสินใจแยกทางด้วยความยินยอมพร้อมใจร่วมกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

"ไม้เขียว" ไม่ได้ลงสนามให้ "ปีศาจแดง" นับตั้งแต่เดือนมกราคม 2022 ก่อนที่จะโดนแบนจากต้นสังกัดในเดือนกุมภาพันธ์ จากกรณีที่โดนกล่าวหาว่าพยายามข่มขืน, กักขังหน่วงเหนี่ยว และบีบบังคับ รวมทั้งทำร้ายร่างกาย แฮร์ริเอ็ต ร็อบสัน แฟนสาวของเขา แต่สุดท้ายนักเตะรอดจากทุกข้อหา เนื่องจากพยานปากสำคัญหลายรายถอนตัว

หลังจากนั้น แมนฯ ยูฯ ได้ดำเนินการสืบสวนเป็นการภายในต่อไป แม้ในตอนแรกสโมสรมีแนวคิดที่จะให้โอกาส กรีนวู้ด กลับมาร่วมทีม แต่หลังจากนั้นมีกระแสข่าวแฟนบอล "ผีแดง" ไม่เห็นด้วยอย่างรุนแรง บทสรุปนักเตะกับแมนฯ ยูฯ จึงเห็นพ้องต้องกันที่จะแยกทางด้วยดี

ฉะนั้นเรื่องราวต่อไปที่ กรีนวู้ด ต้องทำก็คือการเลือกเส้นทางใหม่เพื่อเรียกอาชีพนักเตะของเขากลับมาอีกครั้ง โดยในเวลานี้มีหลายทีมจากหลายประเทศที่พร้อมให้โอกาสเขากลับมาเฉิดฉายในวงการลูกหนังอีกครั้ง แต่เหลือเพียงนักเตะจะเลือกเส้นทางไหน

1. เมเจอร์ลีก ซอคเก้อร์

หากพูดถึงเรื่องความสามารถ แน่นอนว่า กรีนวู้ด เป็นนักเตะประเภทที่ศึกเอ็มแอสเอส กำลังมองหาเพื่อที่จะพัฒนาเพื่อนำมาใช้ในการพัฒนาวงการลูกหนังแดนมะกัน แต่กระนั้นมันอาจจะเป็นไปได้ยากสำหรับนักเตะวัย 21 ปีที่จะย้ายไปเล่นที่ดินแดนแห่งเสรีภาพในเร็วๆ นี้

ด้วยระบบในวงการฟุตบอลแดนมะกัน อนุญาตให้ทุกๆ สโมสรสามารถจ่ายเงินให้กับผู้เล่นระดับสตาร์ได้ 3 คนโดยไม่ส่งผลกระทบต่อเพดานค่าเหนื่อย ฉะนั้นบรรดาแฟรนไชส์ในศึกเอ็มแอลเอส พร้อมที่จะมองรายได้ให้กับ กรีนวู้ด เทียบเท่ากับที่เขาได้รับตอนเล่นให้ "ผีแดง" จำนวน 75,000 ปอนด์ (ราว  3.3 ล้านบาท) ต่อสัปดาห์

กระนั้นหากทีมในประเทศสหรัฐอเมริกาตัดสินใจเซ็นสัญญากับ "ไม้เขียว" พวกเขาอาจเจอปฏิกิริยาต่อต้านเหมือนกับที่เกิดขึ้นในอังกฤษ แน่นอนว่าการย้ายทีมอาจเป็นไปได้ค่อนข้างยากเลยทีเดียว

2. ซาอุดิ โปร ลีก

ช่วงซัมเมอร์นี้ต้องบอกเลยว่าสโมสรในประเทศซาอุดิอาระเบียสร้างความฮือฮาอย่างมากในการทุ่มเงินมหาศาลมากกว่าหลายร้อนล้านปอนด์เพื่อซื้อนักเตะชั้นนำในยุโรปไปเสริมทัพ ซึ่งบางคนเคยได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่เก่งที่สุดโลก

บรรดาสโมสรอย่าง อัล อิตติฮัด, อัล นาสเซอร์, อัล ฮิลาล และ อัล อาห์ลี่ มีเงินทุนมหาศาลที่จะเสริมทัพได้อย่างเต็มอัตราศึก นั่นหมายความว่าพวกเขาสามารถควักกระเป๋าจ่ายไม่อั้นเพื่อนักเตะที่ต้องการ

คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซึ่งเป็นคนแรกที่บุกเบิกลีกแดนเศรษฐีน้ำมัน จากนั้นพวกแข้งชั้นนำก็พาเหรดมาขุดทองกันยกใหญ่ เช่น คาริม เบนเซม่า, ซาดิโอ มาเน่, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, เอ็นโกโล่ ก็องเต้ และ เนย์มาร์ เป็นต้น

ผู้เล่นที่เต็มไปด้วยพรสวรรค์มากมายกำลังหลั่งไหลเข้าไปในซาอุดิอาระเบีย แม้ส่วนใหญ่จะเป็นนักเตะที่ผ่านช่วงรุ่งโรจน์ไปแล้วก็ตาม แต่พวกเขายังมีศักยภาพที่จะสร้างสิ่งมหัศจรรย์ในศึกซาอุดิ โปร ลีก ที่สำคัญในดินแดนเศรษฐีน้ำมันสามารถจ่ายค่าเหนื่อยก้อนโต ดังนั้น กรีนวู้ด นอกจากจะได้กลับมาเล่นฟุตบอลแล้ว ยังได้เงินก้อนโตด้วย

3. ซูเปอร์ลีก ตุรเคีย

ก่อนหน้านี้มีรายงานว่าสโมสรในตุรเคียสนใจอยากได้ กรีนวู้ด ไปร่วมทีม โดยเลือกที่จะใช้วิธีการยืมตัว อย่างไรก็ตามเรื่องราวการดึงตัวนักเตะค่อยๆ เงียบหายไป และไม่มีการพูดถึงมากนัก

อย่างไรก็ตามหลังจากที่ ดาวเตะเลือดผู้ดี แยกทางกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อย่างเป็นทางการแล้ว นั่นทำให้สโมสรในตุรเคียเกิดแรงกระตุ้นที่จะเซ็นสัญญากับนักเตะให้ได้เลยทีเดียว

แน่นอนว่าการไปชุบใหม่ที่ตุรเคียถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจมากๆ สำหรับ กรีนวู้ด แต่ข้อจำกัดในเรื่องค่าเหนื่อยอาจจะเป็นอุปสรรคสำคัญที่ทำให้เขาต้องคิดให้ถ้วนถี่ว่าจะย้ายไปเล่นที่ดินแดนไก่งวงหรือไม่

4. กัลโช่ เซเรีย อา

อิตาลี ถือเป็นจุดหมายปลายทางที่มีความเป็นไปได้มากที่สุดสำหรับ กรีนวู้ด โดยก่อนหน้านี้ ยูเวนตุส อยากได้ตัวเขามาร่วมทัพตั้งแต่สมัยที่นักเตะอายุ 17 ปี แต่ แมนฯ ยูไนเต็ด ปฏิเสธที่จะปล่อยตัวเขาให้กับทัพ "ม้าลาย"

สำหรับตอนนี้ทีมจากแดนมะกะโรนีหวนกลับมาสนใจ กรีนวู้ด อีกครั้งหลังนักเตะเป็นอิสระแล้ว และ อตาลันต้า อยากได้ตัวมาแทนที่ ราสมุส ฮอยลุนด์ ซึ่งย้ายไปค้าแข้งในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ช่วงซัมเมอร์นี้

ขณะที่ โชเซ่ มูรินโญ่ นายใหญ่ชาวโปรตุกีส ก็พร้อมที่จะดึงตัว กรีนวู้ด มาปลุกปั้นอีกครั้งกับ "หมาป่าเหลืองแดง" โรม่า ลองนึกภาพนักเตะเล่นร่วมกับ แทมมี่ อับราฮัม งานนี้คงทำให้ทีมแข็งแกร่งยิ่งขึ้นหลายเท่าเลยทีเดียว

5. ทีมอื่นในอังกฤษ ?

สำหรับสโมสรในอังกฤษโดยเฉพาะในพรีเมียร์ลีก คงอาจจะเป็นเรื่องยากลำบากสำหรับ กรีนวู้ด ที่จะย้ายไปเล่น เพราะสิ่งที่เขาได้ทำลงไปมันเป็นตราบาปที่วงการลูกหนังเมืองผู้ดียอมรับไม่ได้

แมนฯ ยูฯ โดยเสียงวิจารณ์อย่างหนักจากการที่พวกเขาคิดจะให้โอกาส กรีนวู้ด กลับมาอยู่ในทีม  ขณะที่ทีมอื่นๆ ในลีกสูงสุดเมืองผู้ดีคงต้องตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกันหากคิดจะดึงแข้งรายนี้มาร่วมทัพ

แล้วการย้ายไปเล่นในลีกที่ต่ำกว่าอย่างเช่นในศึกเดอะ แชมเปี้ยนชิพ ละ ? เรื่องนี้อาจพอจะมีความเป็นไปได้มาก ที่สำคัญต่อให้ กรีนวู้ด มีพรสวรรค์มากแค่ไหนแต่การที่เขาไม่ได้ลงสนามมาเกือบ 2 ปีฟอร์มย่อมไม่คงเส้นคงวา ฉะนั้นการค้าแข้งกับทีมเล็ก น่าจะช่วยลดแรงกดดันได้พอสมควร