สเปอร์ส 9 คน ต้านไม่ไหว เชลซี ทีตัวมากกว่ารัวแซงยับ 4-1 นิโกลัส แจ็คสัน ตะบันแฮตทริก ในเกมที่ VAR ทำงานอย่างหนัก ทำให้ "ไก่เดือยทอง" แพ้นัดแรกในลีกหยุดสถิติไร้พ่ายแถมชวดแซงเรือขึ้นจ่าฝูงยึดที่ 2 เหมือนเดิม ส่วน "สิงห์บลูส์" ขยับขึ้นมารั้งที่ 10 ของตาราง

สนาม : ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ สเตเดี้ยม

ศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ คู่มันเดย์ไนต์ เป็นเกม "ลอนดอน ดาร์บี้" เจ้าถิ่น "ไก่เดือยทอง" ต้องเก็บ 3 แต้มเพื่อทวง จ่าฝูง ท้าดวล "สิงห์บลูส์" ทีมอันดับ 12 ที่ไร้ชัยมา 2 นัดติด

เปิดฉาก ครึ่งแรก 6 นาที "ไก่เดือยทอง" ทะยานออกนำ 1-0 จากจังหวะประสานงานสุดสวย เดยัน คูลูเซฟสกี้ เก็บบอลทางขวาจี้เข้าเขตโทษโยกตัดเข้าในซัดด้วยซ้ายแฉลบหลัง ลีวาย โคลวิลล์ เปลี่ยนทางตุงตาข่าย

4 นาทีต่อมา เชลซี พลาดโอกาสทอง นิโกลัส แจ็คสัน สอดอ้อมมารับบอลในเขตโทษดึงหนี  ป๊าป มาตาร์ ซาร์ ได้ช่องปั่นด้วยขวาติดเซฟ กูเยลโม่ วิคาริโอ ผวาตบออกหลังนิดเดียว

ต่อมานาทีที่ 13 สเปอร์ส หวิดบวกสกอร์เพิ่ม เบรนแน่น จอห์นสัน รับบอลทางฝั่งซ้ายปาดเข้าเขตโทษโค้งมาเข้าเท้า ซน ฮึง-มิน โฉบมาชาร์จเปลี่ยนทางผ่าน โรเบิร์ต ซานเชซ ตุงตาข่าย เสียดายโดน วีเออาร์ จับล้ำหน้า

นาทีที่ 21 "สิงห์บลูส์" เกือบตามตีเสมอ ราฮีม สเตอร์ลิง เก็บบอลทางริมเส้นฝั่งซ้ายพาแหวกเข้าเขตโทษซัดไปติดบล็อค เปโดร ปอร์โร่ เด้งมาเข้าทางซ้ำอีกรอบไม่พลาดแต่ก็ยังเฮไม่สุด วีเออาร์ ริบสกอร์ย้อนจับ แฮนด์บอล

แต่แล้วนาทีที่ 35 เชลซี ตามตีเสมอ 1-1 จนได้ มอยเซส ไกเซโด้ ซัดไกลตุงตาข่ายงามหยด ผู้ตัดสิน รอเช็ค วีเออาร์ ก่อนจับล้ำหน้า นิโกลัส แจ็คสัน ที่มีส่วนยืนขวาง กูเยลโม่ วิคาริโอ

จังหวะต่อเนื่องกลายเป็นเช็ค คริสเตียน โรเมโร่ ที่เข้าบอลอันตรายใส่ เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ สุดท้าย ไมเคิล โอลิเวอร์ วิ่งออกไปดูเองแล้วหันมาชู ใบแดง แถมเสีย จุดโทษ โคล พาลเมอร์ สังหารไม่พลาด

นาทีที่ 37 "สิงห์บลูส์" ชวดขึ้นนำ ราฮีม สเตอร์ลิง หลุดขึ้นมาทางซ้ายปาดโค้งเข้าเขตโทษให้ นิโกลัส แจ็คสัน ตามมาชาร์จไม่พลาดแต่ก็ยังโดน ผ้ช่วยผู้ตัดสิน ยกธงจับ ล้ำหน้า อีกรอบ

หมดครึ่งเวลาแรก สเปอร์ส 1 เชลซี 1

เริ่มครึ่งหลังเป็น ทีมเยือน ที่ได้เปรียบตัวผู้เล่นเดินหน้าลุยตามคาด นิโกลัส แจ็คสัน หลุดมาเกือบได้ยิงแต่ต้องชม กูเยลโม่ วิคาริโอ ออกมาไวกวาดทิ้งได้ทัน

นาทีที่ 55 "ไก่เดือยทอง" ต้องมาเหลือ 9 คน เดสตินี่ อูโดกี้ ที่ติดใบเหลืองมาแล้วไปเข้าบอลช้าใส่ ราฮีม สเตอร์ลิง ผู้ตัดสิน ไม่มีทางเลือกแจกที่สองเป็บ ใบแดง ไล่ออกจากสนาม

จากจังหวะต่อเนื่อง เชลซี เล่นฟรีคิกเร็วให้ รีซ เจมส์ หนีขึ้นมาทางขวายกเข้าเขตโทษย้อยเข้าหัว นิโกลัส แจ็คสัน ขวิดไม่ถึง 3 หลาติด ปิแอร์-เอมิล ฮอยจ์เบิร์ก ยืนคุมเส้นตีเข่าข้ามคานเหลือเชื่อ

ต่อมานาทีที่ 68 คราวนี้เป็น รีซ เจมส์ วางบอลข้ามออกซ้ายให้ มาร์ก กูกูเรย่า หลุดเดี่ยวเข้าไปล่อเป้นติดเซฟ กูเยลโม่ วิคาริโอ ที่เกมนี้เหนียวหนึบเซฟเอาไว้ได้หมด

นาทีที่ 76 "สิงห์บลูส์" แซงนำ 2-1 จนได้ นิโกลัส แจ็คสัน ที่เกมนี้โอกาสเพียบเอาชนะ กูเยลโม่ วิคาริโอ ส่งบอลซุกก้นตาข่ายเป็นประตูที่ 3 ของเจ้าตัวในลีกซีซั่นนี้

2 นาทีต่อมา สเปอร์ส ตอบโต้เกือบตีเสมอ โรดริโก้ เบตันกูร์ โขกบอลเสยข้ามมาเสาไกลให้ เอริค ดายเออร์ ตั้งเท้าซัดตามน้ำเสียบหน้าต่างเสาไกล ผู้ตัดสิน รอเช็ค วีเออาร์ ก่อนจับ ล้ำหน้า

ทดเจ็บนาทีที่ 90+4 "สิงห์บลูส์" ยำห่าง 3-1 คอเนอร์ กัลลาเกอร์ พาแหวกสวนขึ้นมาทางขวาปาดเข้าเขตโทษให้ นิโกลัส แจ็คสัน ตั้งเท้าชาร์จแสกหน้า กูเยลโม่ วิคาริโอ

ไม่หนำใจ 4 นาทีต่อมา เชลซี ปิดกล่อง 4-1 นิโกลัส แจ็คสัน หลุดเดี่ยวขึ้นมาจาก ครึ่งสนาม แหวกเข้าเขตโทษโชว์ลีลาโยกหลบ กูเยลโม่ วิคาริโอ ซัดเข้าไปอย่างเยือกเย็น

หลังจากนั้นไม่มีสกอร์เพิ่ม จบเกม สเปอร์ส 1 เชลซี 4

รายชื่อนักเตะที่ลงสนามตัวจริง

สเปอร์ส (4-2-3-1) : กูเยลโม่ วิคาริโอ - เปโดร ปอร์โร่, คริสเตียน โรเมโร่, มิคกี้ ฟาน เดอ เฟ่น, เดสตินี่ อูโดกี้ - ป๊าป มาตาร์ ซาร์, อีฟส์ บิสซูม่า - เดยัน คูลูเซฟสกี้, เจมส์ แมดดิสัน, เบรนแน่น จอห์นสัน - ซน ฮึง-มิน

เทรนเนอร์ : อันเก้ ปอสเตโคกลู

เชลซี (4-2-3-1) : โรเบิร์ต ซานเชซ - รีซ เจมส์, ติอาโก้ ซิลวา, อักเซล ดิซาซี, ลีวาย โคลวิลล์ - เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ, มอยเซส ไกเซโด้ - โคล พาลเมอร์, คอเนอร์ กัลลาเกอร์, ราฮีม สเตอร์ลิง - นิโกลัส แจ็คสัน

เทรนเนอร์ : เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่

ผู้ตัดสิน : ไมเคิล โอลิเวอร์