ช้างศึกหลังพิงฝา! มาโน่เจอกระแสกดดันให้ออก รอลุ้นหลังจบแมตช์สิงคโปร์ ส่วน 11 คนแรก ปรับทัพจ้าละหวั่น "เอกนิษฐ์ ปัญญา" เพลย์เมกเกอร์อุราวะ เรดส์ แทนที่ ชนาธิป สรงกระสินธ์ ที่เจ็บ ส่วน "สุพรรณ ทองสงค์" ที่ทุกคนพูดถึง ในลีกตัวท็อป แต่หลุดทีมชาติ เกมนี้ลุ้นแทน พรรษา เหมวิบูลย์ คาดการณ์ เปลี่ยนอื้อ 9 ราย ขยับหาจุดลงตัวที่สุดเพื่อเส้นทางลุ้นเข้าคัดบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก รอบสามให้ได้ ด้าน "มาดามแป้ง"นวลพรรณ ล่ำซำ ฉีดเหมือนเดิม แต้มละ 1 ล้านบาท เพิ่มเติมความหึกเหิมทุกวิถีทาง ด้าน "ลอดช่อง" สิงคโปร์ ตัวเจ็บอื้อ "อิรฟาน ฟานดี้-ไรฮาน สจ๊วต" 2 ดาวเตะ บีจี ปทุม ส่อชวดบู๊ ยิงสดทางช่อง ไทยรัฐทีวี HD32 จาก สนามกีฬาแห่งชาติสิงคโปร์ 19.00 น. ค่ำวันอังคาร 21 พ.ย.66

การแข่งขันฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบสอง กลุ่มซี นัดที่สอง วันอังคาร 21 พ.ย.66 ที่สนามกีฬาแห่งชาติสิงคโปร์ "ลอดช่อง" สิงคโปร์ อันดับ 155 ของโลก และที่ 31 เอเชีย เปิดบ้านรับการมาเยือน "ช้างศึก" ทีมชาติไทย อันดับ 112 โลก และที่ 21 เอเชีย แข่งขันตามเวลาไทย 19.00 น. ถ่ายทอดสด ไทยรัฐทีวี HD32

สถานการณ์ของกลุ่มซี ผ่านเกมแรกเมื่อวันพฤหัสบดี 16 พ.ย.66 สิงคโปร์ บุกไปแพ้ เกาหลีใต้ 0-5 ส่วน ไทย เปิดบ้านแพ้ จีน 1-2 ทั้งสองทีมยังไม่มีคะแนน ทาคายูกิ นิชิกายะ กุนซือชาวญี่ปุ่นวัย 50 ปีของทีมชาติสิงคโปร์ เพิ่งเจอผลการแข่งขันที่แพ้คู่แข่งเยอะที่สุดนับตั้งแต่ถูกแต่งตั้งให้เข้ามาทำหน้าที่เฮดโค้ชทัพลอดช่องตั้งแต่ พ.ค.2022 ก่อนที่จะบุกไปแพ้เกาหลีใต้ 0-5 สิงคโปร์ในยุค นิชิกายะ เคยแพ้เยอะที่สุดคือการบุกแพ้ เวียดนาม 0-4 ในทัวร์นาเมนต์ 3 เส้าที่เวียดนามเมื่อวันที่ 21 ก.ย.2022

เกมนี้ทีมยังต้องเช็กอาการบาดเจ็บของ อิรฟาน ฟานดี้ เซนเตอร์ฮาล์ฟตัวหลัก และ ไรฮาน สจ๊วต แบ็กขวาตัวจริง ทั้งคู่เป็นผู้เล่นสังกัด บีจี ปทุม ซึ่งคาดว่าน่าจะไม่พร้อมสำหรับเกมนี้ ส่วนขุมกำลังอื่นๆยังมี ฮัสซัน ซันนี่ นายด่านวัย 39 ปี อดีตนายด่านอาร์มี่ ยูไนเต็ด ในไทยลีก ที่ปัจจุบันเฝ้าเสาให้ อัลบิเร็กซ์ นิงาตะ ทีมเจลีกที่ฝั่งตัวอยู่ในเอสลีกสิงคโปร์ ส่วน อนุมานธาน กุมาร์ แข้งเก๋าวัย 38 ปี มีลุ้นยืนแทน อิรฟาน ฟานดี้ ส่วนแดนกลางมี ฮาริส ฮารูน จอมทัพจาก ไลออน ซิตี้ เซเลอร์ รับบทเป็นกัปตันทีม , ปีกซ้าย ซง อุย ยอง อดีตแข้งหนองบัวพิชญ ส่วนกองหน้าอาจสลับให้ อิลฮาน ฟานดี้ น้องเล็กในตระกูลฟานดี้ ได้ออกสตาร์ทเป็น 11 ตัวจริง

ส่วนทีมชาติไทย ภายใต้การคุมทัพของ มาโน่ โพลเคิ่ล กุนซือลูกครึ่งเยอรมัน-บราซิล วัย 47 ปี เกมล่าสุดเปิดบ้านแพ้จีน 1-2 จนถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่าทีมชาติไทยควรต้องรับผิดชอบกับผลงานที่้เกิดขึ้น พร้อมกับโดนกดดันให้ลาออกเพื่อให้มีการเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง เกมนี้ไฟต์บังคับ ต้องบุกชนะสถานเดียว กับโอกาสที่จะยังคงอยู่ในเส้นทางลุ้นเข้ารอบคัดเลือกรอบสามที่จะต้องติด 1 ใน 2 ของกลุ่มซีในรอบนี้ให้ได้ เรื่องตัวผู้เล่น ทีมชาติไทย ไม่ได้เอา พรรษา เหมวิบูลย์ และ ชนาธิป สรงกระสินธ์ ไปด้วย เพราะบาดเจ็บ ทำให้อย่างน้อยต้องมีการเปลี่ยนแปลงผู้เล่นแน่ๆแล้ว 2 ตำแหน่ง ทั้งนี้ โค้ชมาโน่ ก็เตรียมที่จะปรับทัพครั้งใหญ่ในสูตรเดิม 4-3-3 ที่พร้อมสร้างการเปลี่ยนแปลงที่เป็นรูปธรรมให้ได้มากที่สุด

คาดการณ์ว่า กัมพล ปฐมอรรฆย์กุล ผู้รักษาประตูจาก ราชบุรี เอฟซี จะได้ลงแทน ปฏิวัติ คำไหม ของทรู แบงค็อก แนวรับ 4 ราย ปรับไป 3 นิติพงษ์ เสลานนท์ แบ็กขวา ทรู แบงค็อก จะลงแทน ทริสตอง โด , สุพรรณ ทองสงค์ เซนเตอร์ฮาล์ฟ ทรู แบงค็อก แทนที่ พรรษา เหมวิบูลย์ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด , เอเลียส ดอเลาะ เซนเตอร์ฮาล์ฟจาก บาหลี ยูไนเต็ด แทน กฤษดา กาแมน ส่วนแบ็กซ้าย  ธีราทร บุญมาทัน บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ยังคงประจำการ

แดนกลางหน้าไลน์กองหลัง สารัช อยู่เย็น จาก บีจี ปทุม น่าจะได้จับคู่กับ กฤษดา กาแมน จากชลบุรี เอฟซีที่คาดว่าจะถูกดันให้ขึ้นมาเล่นในตำแหน่งที่ถนัด รวมถึงยังมี วีระเทพ ป้อมพันธุ์ มิดฟิลด์จากเมืองทอง ยูไนเต็ด ที่มีลุ้นได้ลงสนามเหมือนกัน ขณะที่ 3 มิดฟิลด์ตัวรุก สุภโชค สารชาติ จาก คอนซาโดเล่ ซัปโปโร จะแทนฝั่งซ้ายของ บดินทร์ ผาลา , เอกนิษฐ์ ปัญญา เพลย์เมกเกอร์ อุราวะ เรดส์ จะที่แทนของ ชนาธิป สรงกระสินธ์ ที่บาดเจ็บ ส่วนทางขวา ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา จากโอเอช ลูเวิน จะถูกถ่างมาเล่นริมเส้น สลับกับ สุภโชค สารชาติ ส่วนหน้าเป้า ศุภชัย ใจเด็ด จากบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จะแทน ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา โดยมี ธีรศิลป์ แดงดา รอสแตนบาย

เกมนี้ "มาดามแป้ง"นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีมชาติไทยประกาศอัดฉีด แต้มละ 1 ล้านบาท และหากเข้ารอบคัดเลือกรอบ 3 ได้ จะมีอัดฉีดพิเศษ 10 ล้านบาท ซึ่งหลังจบแมตช์ สิงคโปร์ พบ ไทย มีรายงานว่าจะมีข่าวใหญ่ของทีมชาติไทยเกิดขึ้น

สถิติเฮดทูเฮด 10 นัดหลังสุด ระหว่าง ทีมชาติไทย กับ ทีมชาติสิงคโปร์ 18 ธันวาคม 2021 : ไทย ชนะ สิงคโปร์ 2-0 (ชิงแชมป์อาเซียน) , 24 พฤศจิกายน 2018 : ไทย ชนะ สิงคโปร์ 3-0 (ชิงแชมป์อาเซียน) , 22 พฤศจิกายน 2016 : ไทย ชนะ สิงคโปร์ 1-0 (ชิงแชมป์อาเซียน) , 26 มีนาคม 2015 : ไทย ชนะ สิงคโปร์ 2-0 (กระชับมิตร) , 23 พฤศจิกายน 2014 : สิงคโปร์ แพ้ ไทย 1-2 (ชิงแชมป์อาเซียน) , 22 ธันวาคม 2012 :  ไทย ชนะ สิงคโปร์ 1-0 (ชิงแชมป์อาเซียน) , 19 ธันวาคม 2012 : สิงคโปร์ ชนะ ไทย 3-1 (ชิงแชมป์อาเซียน) , 24 สิงหาคม 2011 : ไทย เสมอ สิงคโปร์ 0-0 (กระชับมิตร) , 11 สิงหาคม 2010 : ไทย ชนะ สิงคโปร์ 1-0 (กระชับมิตร) และ 17 มกราคม 2010 : ไทย ชนะ สิงคโปร์ 1-0 (กระชับมิตร) เจอกันทั้งหมด 64 ครั้ง ผลปรากฏว่า ไทย ชนะ 38 เสมอ 15 และสิงคโปร์ ชนะ 11 โดยทัพ "ช้างศึก" สามารถเอาชนะสิงคโปร์ได้ตลอดในการเจอกัน 6 นัดหลังสุด

โปรแกรมการแข่งขันฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบสอง กลุ่มซี นัดสอง วันอังคาร 21 พ.ย.66 จีน พบ เกาหลีใต้ และ สิงคโปร์ พบ ไทย แข่งขันเวลาไทย 19.00 น. ทั้งสองคู่