ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล

The Last Exorcism

Posted 21/09/2010 by kapook

The Last Exorcism นรกเฮี้ยน (United Home Entertainment)


กำหนดฉาย : 21 ตุลาคม 2553
แนว : สยองขวัญ ลึกลับ
นำแสดง : แพทริค เฟเบียน, แอชลีย์ เบลล์, ไอริส บาห์ร, หลุยส์ เฮอร์ธัม, คาเล็บ แลนดรี โจนส์
กำกับ : แดเนียล สตัมม์


เรื่องย่อ The Last Exorcism

          The Last Exorcism เป็นเรื่องราวของคอตตอน มาร์คัส หมอผีจอมปลอมที่มักจะแสดงอิทธิฤทธิ์การไล่ผีให้ใคร ๆ เชื่อว่าเขาเป็นหมอผีที่แสนเก่ง โดยเขามักจะร่วมมือกับแก๊งค์ของเขาตบตาผู้คนเสมอ และวันหนึ่ง คอตตอน มาร์คัส ได้ถูกเชิญให้ไปไล่ผีที่บ้านของ หลุยส์ สวีทเซอร์ ในหลุยเซียน่า ขณะที่ หลังจากสวีทเซอร์แน่ใจว่า เนลล์ ลูกสาวของเขาถูกครอบงำโดยปีศาจร้ายที่จะต้องขับไล่ออกไปก่อนที่โศกนาฏกรรมสยองขวัญที่ไม่ได้เชื้อเชิญจะเกิดขึ้น เขาจึงเฟ้นหาบาทหลวงมาทำพิธีขับไล่วิญญาณชั่วร้ายออกจากตัวลูกสาวของเขา และสุดท้ายมาลงเอยที่การเชื้อเชิญให้คอตตอนทำพิธีให้ 

          หลังจากคอตตอนได้สวมบทบาทหลอกผู้คนมาตลอด เขาก็รู้สึกกลัวกับบาปที่หลอกผู้คนไว้ จึงตัดสินใจที่จะสวมบทบาทหมอผีเป็นครั้งสุดท้าย กับการเล่นเป็นหมอผีปราบผีร้ายในตัวเนลล์  แต่แล้วเหตุการณ์กลับไม่เป็นอย่างที่คิด เมื่อเขามาพบว่าสุดท้ายแล้วเขาก็ต้องมาเผชิญกับปีศาจร้ายเสียเองโดยที่ไม่มีการเตรียมตัวมาก่อน เขาจึงต้องหาวิถีทางเพื่อทำให้ตัวเขาเองหลุดออกจากความชั่วร้ายนั้นได้ เขาต้องทำทุกอย่างเพื่อรักษาชีวิตเนลล์ และตัวเขากับเพื่อน ๆ ไว้ ก่อนที่มันจะสายไป 

          เรื่องราวของเขาและเพื่อน ๆ จะสยองขวัญและน่ากลัวเพียงใด อดใจรอกันซักหน่อย เพราะมีกำหนดฉายในอเมริกาปลายปีนี้ และที่แน่ ๆ แฟนหนังสยองขวัญไม่ควรพลาดเลยทีเดียว


เบื้องหลังงานสร้าง

          ไม่ว่าเวลาจะผ่านมาเนิ่นนานกี่ยุคกี่สมัย พิธีปราบผีก็ยังดำรงอยู่มาจนถึงสหัสวรรษใหม่ ซึ่งมีโรงเรียนสอนวิชากำราบผี และผู้สำเร็จการศึกษาด้านนี้เกิดขึ้นมากมาย จากผลสำรวจในปี 2005 โดยกัลลัป โพลล์ บ่งบอกว่าชาวอเมริกัน 42 เปอร์เซ็นต์ เชื่อในเรื่องปิศาจมาเข้าสิงร่างคน ปีที่ผ่านมา อัครสังฆมณฑลแห่งชิคาโก (Archdiocese of Chicago) ได้แต่งตั้งนักปราบผีอาชีพที่ทำงานแบบเต็มเวลาเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ส่วนในนิวยอร์ค กลุ่มพระสี่รูปทำการสืบสวนคดีที่น่าสงสัยว่าเกี่ยวข้องกับปิศาจถึง 40 คดี ตั้งแต่ปี 1995

          บาทหลวง เจมส์ เลอบาร์ อดีตพระนักปราบผีแห่งอัครสังฆมณฑลนิวยอร์ค อ้างว่ามีชาวอเมริกันผู้นับถือแคธอลิคหนึ่งในทุกๆ สิบคนเคยพบเห็นหรือมีประสบการณ์เกี่ยวข้องกับการถูกผีสิงโดยตรง "สิบปีก่อน พ่อไม่มีสักคดี" ท่านกล่าว
"แต่เดี๋ยวนี้ พ่อมีสามร้อยคดี" ท่ามกลางภารกิจของโบสถ์แคธอลิคที่ข้องเกี่ยวกับลัทธิซาตานและเวทย์มนตร์ ซึ่งแผ่ขยายออกไปทั่วโลก บาทหลวง แกเบรียล อามอร์ธ ผู้ดำรงตำแหน่งหัวหน้านักปราบผีแห่งวาติกันมาเป็นเวลานานถึง 25 ปี เปิดเผยว่า พระสันตะปาปา เบเนดิคท์ ที่ 16 ทรงสนับสนุนให้ "ต่อสู้กับปิศาจ" โดยการฝึกหัดพระจำนวนหลายร้อยรูป เพื่อเป็นนักปราบผีโดยเฉพาะ

          ภาพยนตร์เรื่อง The Last Exorcism นำประสบการณ์ดังกล่าวมาเผยแพร่ ผ่านตัวละครบาทหลวง ค็อททอน มาร์คัส ผู้รับหน้าที่ปราบผีมานานกว่า 25 ปี ซึ่งตัวมาร์คัสนั้นรู้อยู่แก่ใจว่า สิ่งที่เขาทำตลอดมานั้นเป็นเรื่องไม่จริง และด้วยความต้องการล้างมือจากเรื่องโกหกหลอกลวงทั้งหลาย หลวงพ่อมาร์คัสจึงยอมให้มีการถ่ายทำสารคดีเกี่ยวกับการประกอบพิธีไล่ผีครั้งสุดท้ายของเขา ซึ่งกลับกลายเป็นว่า เขาต้องเผชิญหน้ากับอำนาจลึกลับที่น่าสะพรึงเป็นครั้งแรก

          "เราตั้งคำถามผ่านหนังเรื่องนี้ว่า มันคืออำนาจเหนือธรรมชาติ หรือความชั่วร้ายจากฝีมือมนุษย์ เนลล์เป็นโรคประสาท หรือถูกผีเข้าจริง ๆ " ผู้กำกับ แดเนียล สตัมม์ กล่าว "สำหรับผม นี่คือคำถามที่น่าสนใจ หนังนำเสนอเรื่องความเชื่อ และบทบาทของมันที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตของเรา มันจะช่วยคุณได้อย่างไร และจะทำลายคุณได้อย่างไรด้วย”แพทริค เฟเบียน ผู้รับบทเป็นบาทหลวง ค็อททอน มาร์คัส เสริมว่า "มันเป็นเรื่องของการมองเห็นพระเจ้าและปิศาจ เกี่ยวกับความศรัทธาที่จะเข้ามาหาคุณ ในเวลาที่คุณต้องการมันมากที่สุด" 

          The Last Exorcism เริ่มต้นจากผู้อำนวยการสร้าง เอริค นิวแมน ที่ต้องการสร้างภาพยนตร์เกี่ยวกับการถูกผีสิง ให้ใกล้เคียงกับความเป็นจริงที่สุด นิวแมนติดต่อสองนักเขียน แอนดรูว์ เกอร์แลนด์ และฮัค บ็อทโค เจ้าของผลงานเขียนบทเรื่อง Mail Order Wife  ที่มีสไตล์การดำเนินเรื่องแบบภาพยนตร์สารคดี ซึ่งนิวแมนต้องการนำมาใช้ใน The Last Exorcism ด้วย 

          เมื่อเริ่มพัฒนาบทภาพยนตร์ เกอร์แลนด์และบ็อทโคได้แรงบันดาลใจจาก Marjoe สารคดีเรื่องดังในยุคทศวรรษที่ 70 "Marjoe เป็นเรื่องของพระนักเทศน์รูปหนึ่ง ผู้ยอมให้ถ่ายทำสารคดีเกี่ยวกับชีวิตของเขา ให้เห็นถึงเรื่องราวไม่ชอบมาพากล เขาไม่ศรัทธาในสิ่งที่เขาทำ และพยายามถอยห่างออกมา เราคิดว่านี่คือจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับหนังที่เรากำลังทำอยู่" เกอร์แลนด์อธิบาย

          ขณะที่จุดประสงค์ดั้งเดิมของ The Last Exorcism คือการเขย่าขวัญผู้ชม เกอร์แลนด์และบ็อทโคไม่ลืมที่จะสร้างความสมจริงน่าเชื่อถือแก่เรื่องราวด้วย "เราอยากให้หนังดำเนินไปตามแนวทางของสารคดี ก่อนที่มันจะก้าวเข้าไปในส่วนที่เกี่ยวกับพลังลึกลับเหนือธรรมชาติ" เกอร์แลนด์เอ่ย "สารคดีที่จะเปิดเผยเบื้องหลังของชายคนหนึ่ง ผู้ทำการปราบผีแบบปลอม ๆ ซึ่งหากไม่มีเรื่องราวเหนือธรรมชาติมาเกี่ยวข้อง มันก็ยังเป็นหนังที่น่าสนใจอยู่ดี" จากถ้อยคำของสองนักเขียนบท สไตล์แบบสารคดีทำให้ทั้งคู่มีอิสระในการสร้างสรรค์งานมากขึ้น "เรื่องจริงนั้นแปลกกว่านิยาย" บ็อทโคกล่าว "เราต้องหลีกเลี่ยงที่จะใส่สิ่งไม่น่าเชื่อลงไป เมื่อมันเป็นหนังในรูปแบบปกติ ซึ่งมีการแบ่งเรื่องเป็นสามองค์ และมีเงื่อนงำที่ผู้ชมทุกคนพากันคาดเดา แต่ในสารคดี เราสามารถเพิ่มสิ่งที่ต้องการลงไปได้ ซึ่งถ้าเป็นหนังสยองขวัญทั่วไป ผู้ชมจะต้องพูดว่ามันเพี้ยนหรือแปลกประหลาดเกินไป"

          อำนวยการสร้าง อีไล รอธ เจ้าของผลงานกำกับเรื่อง Hostel และงานแสดงใน Inglourious Basterds ตกลงใจร่วมงานกับคู่หู เอริค นิวแมน ทันทีที่ได้อ่านบทภาพยนตร์ฉบับสุดท้าย "มันเป็นบทหนังที่น่ากลัวที่สุดเรื่องหนึ่ง เท่าที่ผมเคยอ่านมา" เขากล่าว "ทำเอาผมวางไม่ลง และอดขนลุกขนพองไม่ได้ ผมชอบไอเดียเกี่ยวกับการไล่ผีปลอมๆ ที่แสดงให้เห็นว่าทุกอย่างเป็นเรื่องลวงโลก จากนั้นจึงค่อย ๆ รู้ว่ามีอำนาจบางอย่างที่อยู่เหนือความเข้าใจของเรา และเราไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับมัน"

          ในการค้นหาผู้กำกับภาพยนตร์ที่เหมาะสม นิวแมนและรอธติดใจความสามารถของแดเนียล สตัมม์ เจ้าของผลงานเรื่อง A Necessary Death ที่ดำเนินตามแนวทางของภาพยนตร์สารคดี "หนังของแดเนียลน่าตื่นเต้นมากเรื่องความสมจริงและการแสดง" นิวแมนชม "มันเป็นงานที่แตกต่าง มีความเป็นหนังทดลองแนวจิตวิทยาอย่างมาก นั่นแสดงให้เห็นว่าเขาทำงานในสไตล์นี้ได้ดีทีเดียว" ขณะที่สตัมม์เองยอมรับว่า ภาพยนตร์สยองขวัญคือแนวที่เขาไม่คุ้นเคย "ฉากสยองขวัญทั้งหลายเป็นเรื่องใหม่สำหรับผม ฉากที่ตื่นเต้นที่สุดในการถ่ายทำคือ ฉากที่เกี่ยวพันกับตัวละคร ซึ่งผมก็แค่ปล่อยให้นักแสดงทำงานของพวกเขาไป โดยไม่รู้ว่ามันจะออกมาเป็นอย่างไร เพราะเราจะได้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันไปทุกครั้ง"

          สตัมม์เชื่อว่าความพิถีพิถันด้านภาพในโลกภาพยนตร์ คือเคล็ดลับในการสร้างความสมจริงให้เรื่องราว "ผู้กำกับภาพมีความสำคัญเทียบเท่าตัวละครตัวหนึ่ง ซึ่งมีส่วนช่วยให้ผู้ชมรู้สึกผ่อนคลายหรือถูกคุกคามได้ ผมคิดว่า สำหรับหนังสยองขวัญสักเรื่องมันเยี่ยมยอดมาก ที่จะทำให้ผู้ชมใกล้ชิดกับความสยองมากกว่าที่พวกเขาต้องการ"



The Last Exorcism

 

The Last Exorcism

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
  • Adele Blanc-Sec
    ปี 1912 นักข่าวสาวผู้กล้าหาญ อะเดล บลอง-เซ็ค พร้อมตะลุยไปไกลแค่ไหนก็ไม่หวั่นเพื่อบรรลุสิ่งที่หวังไว้ อย่างเช่น ล่องเรือไปอียิปต์เพื่อจัดการกับมัมมี่หลายแบบหลายขนาด
  • Devil
    Devil หรือชื่อไทยสั้น ๆ ว่า ปิศาจ จากยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ ส่งหนังทริลเลอร์สยองขวัญ ในแนวถนัดของ ผู้กำกับ เอ็ม ไนท์ ชยามาลาน ผู้สร้าง The Sixth Sense ที่กลับมาท๊อปฟอร์มอีกครั้ง
  • Detective Dee
    ปีค.ศ. 690 นอกราชวังหลวงในเมืองลั่วหยาง เจดีย์ขนาดใหญ่กำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง และในวันที่สร้างเสร็จก็จะเป็นวันที่จักรพรรดินีองค์แรกของจีน บูเช็กเทียน (หลิวเจียหลิง) จะขึ้นครองบัลลังก์อย่างเป็นทางการ และกลายเป็นผู้ที่มีอำนาจมากที่สุดของประเทศ โดยสถูปในเจดีย์นั้น เป็นพระพุทธเจ้าที่มีหน้าตาคล้ายกับองค์จักรพรรดินี
  • น้ำตาลแดง
    ความอีโรติกคือหัวใจสำคัญของภาพยนตร์ทั้ง 6 เรื่องที่ถูกหลอมรวมเข้ากับแต่ละห้วงอารมณ์ที่เต็มไปด้วยหลากหลายของมนุษย์ ซึ่งถูกตีแผ่ออกมาเป็นความรัก โลภ โกรธ หลง ภายใต้แนวทางของภาพยนตร์ที่มีทั้ง ดราม่า, ทริลเลอร์, แอ็คชั่น, คอเมดี้, โรแมนติค บนพื้นฐานของการแสดงที่เน้นในความเรียลลิสติกสมจริงที่สุด

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »