ลุ้น 2 กำปั้นไทยชิงทอง วรพจน์ เพชรขุ้ม โวสนั่นแดนมังกรไม่เคยคิดหวาดกลัวในความเป็นเจ้าภาพ และเสียงเชียร์ของ ฉาง เจี่ย เหว่ย เลยแม้แต่น้อย พร้อมกระตุ้น "น้องเอ็ม" ทัศมาลี ทองจันทร์ ผ่านมาถึงรอบนี้ได้ถือว่าสุดยอดแล้ว ชกให้ดีที่สุด ทุ่มสุดชีวิต ไฟต์สุดท้ายแล้วไม่ต้องคิดอะไรมาก ด้าน "เสธ.วีป" ไม่ขอเกาะข้างสังเวียน หวั่นไอบาออกลูกหมั่นไส้ ต่อสายย้ำทุกคนทำดีที่สุดแล้ว เหลืออีกแค่นัดเดียว ระเบิดฟอร์มออกมาให้สุดยอดไปเลย


     ผู้สื่อข่าวและช่างภาพมวยสยาม-สยามกีฬา นิพนธ์ ขาวอุบล และ ชาคร ห่อวโนทยาน รายงานข่าวการแข่งขันมวยสากลสมัครเล่น ศึกเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 16 ณ เมืองกว่างโจว ประเทศจีน โดยวันนี้ (26 พ.ย.) สองนักชกไทย วรพจน์ เพชรขุ้ม กับ ทัศมาลี ทองจันทร์ จะขึ้นสังเวียนชิงเหรียญทอง จะพบกับนักชกเจ้าภาพจีนทั้งคู่

ซ้อมเช้า-เย็นติวเข้มเกมรับห้ามพลาด

 
     โดยเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 25 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา สองนักชกชาย-หญิงของไทย วรพจน์ เพชรขุ้ม กับ ทัศมาลี ทองจันทร์ ได้ซ้อมทวนเชิง วอร์มร่างกายเรียกเหงื่อภายในหมู่บ้านนักกีฬา ทั้งช่วงเช้าเวลา 09.00 น. และช่วงเย็นเวลา 16.00 น. โดยมีสตาฟฟ์โค้ช จ.ส.อ.กามนิตย์ นารีรักษ์, น.ต.ทรงศักดิ์ แก่นท้าว และ จ.อ.ชัยชุมพล ชำนาญมาก ควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิด
 
     ซึ่งการซ้อมจะเน้นหนักไปที่ติวเชิงชก เน้นการตั้งรับบล็อกให้แน่น อย่าเปิดช่องให้คู่ต่อสู้ต่อยได้ง่ายๆ เพราะรู้กันดีว่าแต้มของนักชกเจ้าภาพขึ้นง่ายเหลือเกิน โดยในการซ้อมนั้นมีเพียงวรพจน์กับทัศมาลีที่ซ้อมด้วยกันเท่านั้น ส่วนนักชกคนอื่นๆ ไม่ได้ซ้อมแต่อย่างใด บางคนก็ออกไปช็อปปิ้งซื้อของฝากกลับบ้าน

"วรพจน์" โวไม่หวั่นแม้เจอเจ้าภาพ

 
     ฮีโร่เหรียญเงินโอลิมปิก เอเธนส์เกมส์ วรพจน์ เพชรขุ้ม กล่าวกับผู้สื่อข่าวมวยสยาม-สยามกีฬา ว่า ตนผ่านศึกเหนือเสือใต้รายการใหญ่มาหลายครั้งแล้ว กีฬาโอลิมปิกยังทะลุไปถึงรอบชิง หรือเอเชียนเกมส์ครั้งที่แล้ว ที่กาตาร์ ก็ได้เหรียญทองแดงมาแล้ว ดังนั้น เรื่องสภาพจิตใจของตน บอกได้เลยว่าไม่มีหวั่นหรือเกรงกลัวนักชกจีนแต่อย่างใด ตนจะไม่สนใจสภาพแวดล้อมหรือเสียงเชียร์ จะต่อยตามสไตล์ของตัวเองให้ดีที่สุด ส่วนเรื่องกรรมการก็จะไม่คิดให้กดดันตัวเองด้วย 

"ทัศมาลี" เป็นรองทุกอย่างก็จะสู้

 
     ด้าน "น้องเอ็ม" ทัศมาลี ทองจันทร์ นักชกหญิงประวัติศาสตร์ ที่ได้ชิงเหรียญทองเอเชียนเกมส์คนแรกของไทย กล่าวกับผู้สื่อข่าวด้วยสีหน้ายิ้มแย้มว่า ตนยอมรับเป็นรองนักชกจีนทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นรูปร่าง ช่วงชก เสียงเชียร์ และกรรมการ แต่ตนมาถึงรอบนี้ได้ไม่มีอะไรต้องกดดันแล้ว ก็จะพยายามทำหน้าที่ให้ดีที่สุด
 "ยอม รับว่าหนักใจค่ะ หนูเป็นรองเขาเยอะนะ หนูเลื่อนรุ่นขึ้นมา เขาทั้งใหญ่ทั้งยาวกว่าเราเยอะ แต่ยังไงก็ต้องสู้เต็มที่ล่ะค่ะ ขอให้พ่อกับแม่ไม่ต้องห่วง หนูจะสู้เต็มที่เพื่อชื่อเสียงของประเทศไทยค่ะ" 

"พจน์" กระตุ้นน้องไม่มีอะไรจะเสีย

 
     พร้อมกันนั้น "เจ้าพจน์" วรพจน์ เพชรขุ้ม นักชกจากสุราษฎร์ธานี ที่ยืนอยู่ด้วยตอน ทัศมาลี ให้สัมภาษณ์ ก็บอกกับ "น้องเอ็ม" ด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า "มาถึงรอบนี้ไม่มีอะไรที่เราต้องกลัวแล้ว ถือว่าเราประสบความสำเร็จมากแล้วล่ะ ขึ้นไปชกให้เต็มที่ แสดงฝีมือของเราออกมาให้มากที่สุด จะชนะหรือแพ้อย่าไปกดดันตัวเอง ถ้าเราคิดว่าสู้ได้ก็ต้องสู้ได้ ไม่ต้องตกใจกับเสียงเชียร์หรือสิ่งรอบข้าง คนไทยทุกคนพร้อมเอาใจช่วยเราสองคนอยู่แล้ว"   

"แซม" บอกใครชิงทองได้โคตรเจ๋ง

 
     ด้าน "โค้ชแซม" จ.ส.อ.กามนิตย์ นารีรักษ์ เฮดโค้ชใหญ่ทีมชาติไทย เผยด้วยน้ำเสียงหนักใจไม่น้อยว่า รอบชิงชนะเลิศแย่งเหรียญทอง ตนยอมรับว่าเป็นศึกหนักงานหินมากๆ ของทั้ง วรพจน์ และ ทัศมาลี เนื่องจากเจอกับเจ้าภาพจีน ซึ่งเราก็ได้เห็นกันไปแล้วว่า กรรมการกดแต้มให้เจ้าภาพง่ายมาก รวมทั้งยังไม่กล้ากดให้คู่ต่อสู้อีกด้วย
 
     ถ้าดวลหมัดวัดกันที่อื่น ตนไม่มีหวาดหวั่นหรอก เพราะพูดถึงฝีมือเชิงชกแล้ว อย่างคู่ วรพจน์ นี่กระดูกมวยเราเหนือกว่าจีนแน่ ส่วน ทัศมาลี ที่ผ่านมาก็ยิ่งชกยิ่งดีขึ้นเรื่อยๆ ถ้าคู่นี้ใครแย่งเหรียญทองมาจากจีนได้ ต้องบอกว่าสุดยอดโคตรเจ๋งเลย

เผย "ฉาง เจี่ย เหว่ย" ชกในบ้านเกิด

 
     สำหรับ ฉาง เจี่ย เหว่ย คู่ชกของ วรพจน์ เพชรขุ้ม นั้น จากการสอบถามโค้ชของจีน จาง ฉวน เหลียง บอกว่า การชกที่เมืองโฝวซัน ถือว่าเป็นการต่อยในบ้านเกิดของ เจี่ย เหว่ย เลยทีเดียว โดยมีกองเชียร์เจ้าถิ่นแห่มาให้กำลังใจเขาอย่างมากมายทุกนัด
 
     และในรอบชิงเหรียญทองนี้ก็เชื่อว่า เจี่ย เหว่ย จะมีกำลังใจจากกองเชียร์เฮกันกระหึ่มสนามแน่ แม้ วรพจน์ จะเคยได้ถึงเหรียญเงินโอลิมปิกมาแล้ว แต่ก็นานหลายปี สภาพร่างกายไม่น่าเหมือนเดิม ผิดกับ เจี่ย เหว่ย ที่กำลังสดและฟอร์มร้อนแรงมากในเวลานี้

โค้ชจีนไม่ประมาทสั่งเปิดเกมลุย

 
     พร้อมกันนั้น โค้ช จาง ฉวน เหลียง ยังได้เผยถึงการเจอกับนักมวยไทยในรุ่น 56 กก.ชาย และ รุ่น 60 กก.หญิงว่า นักมวยจีนจะประมาทไม่ได้เลย เพราะที่ผ่านมานักมวยของไทย ต่างมีผลงานในระดับทวีป และระดับโอลิมปิกไม่ธรรมดา ดังนั้น จึงห้ามประมาทเด็ดขาด แม้ใครจะมองว่าได้เปรียบความเป็นเจ้าบ้านก็ตาม และได้สั่งให้ทั้ง ฉาง เจี่ย เหว่ย และ ดอง เช็ง เป็นฝ่ายเปิดเกมเดินลุยตั้งแต่ยกแรกก่อนเลย ถ้าเอาชนะได้ก็ต้องอัดให้ขาดไม่ต้องมีเสียว

"บิ๊กจั้ม" มาเชียร์ แต่ "เสธ.วีป" ไม่มา

 
     ส่วนผู้จัดการทีม "ส.ส.จั้ม" สกลธี ภัททิยกุล ได้เปิดเผยว่า ในวันศุกร์นี้ ตนจะบินมาเชียร์สองนักชกไทย ขึ้นชิงเหรียญทองอย่างแน่นอน และมีเพื่อน ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ ได้ฝากให้กำลังใจมาถึง วรพจน์ เพชรขุ้ม กับ ทัศมาลี ทองจันทร์ อย่างมากมายทีเดียว ส่วน "เสธ.วีป" พลเอก ทวีป จันทรโรจน์ นายกสมาคมฯ นั้น แหล่งข่าวยืนยันจากเมืองไทยว่า เสธ.วีป และ มาดามแอ๊ด ไม่ได้เดินทางมาเชียร์ในนัดชิงแต่อย่างใด เนื่องจากอาการป่วยยังไม่หายดี

"แซม" เผย "เสธ.วีป" ไม่อยากให้มีปัญหา

 
     โค้ชแซม ได้กล่าวว่า ทางนายกสมาคม เสธ.วีป ได้โทรศัพท์ข้ามประเทศมาพูดคุยกับตนและตัวนักมวยอยู่ตลอดเวลา แม้ว่าจะไม่ได้อยู่ที่เมืองจีนก็ตาม โดยบอกให้ตนและนักมวยทั้งสองอย่าไปกังวลหรือกดดันเรื่องอะไรทั้งสิ้น ผ่านมาถึงรอบนี้ได้ก็ถือว่าแจ่มแจ๋วเลย ขอให้ชกให้เต็มที่ เพื่อตัวเองและชื่อเสียงของประเทศ
 
     ส่วนเหตุผลที่ เสธ.วีป ไม่ยอมมาดูการชกนัดชิงนั้น โค้ชแซม เผยว่า เสธ.วีป เกรงจะมีปัญหากับทางไอบา ซึ่งอาจมีผลต่อเรื่องการตัดสินได้ เนื่องจากทางผู้บริหารไอบา โดยเฉพาะ ชิง โค วู คงไม่อยากเห็นตนมาดูมวยสักเท่าไหร่นัก