นัดชิง "มูลนิธิ ไทยคม เอฟเอ คัพ 2010" เตรียมระอุ "กิเลนผยอง" เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ปะทะ "ฉลามชล" ชลบุรี เอฟซี "บิ๊กเปี๊ยก" องอาจ ก่อสินค้า เข้มจับแฟนบอลทั้ง 2 ทีม อยู่คนละทิศ เพื่อกันเหตุการณ์วิวาท พร้อมจัดเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมากกว่า 400 คน ดูแล "เสี่ยเป้" รณฤทธิ์ ซื่อวาจา ผจก.ทั่วไป เมืองทองฯ ลั่นปีนี้ขอเบิ้ลแชมป์ ฝั่ง จเด็จ มีลาภ เฮดโค้ชของ "ฉลามชล" หวังซิวถ้วย เพื่อพาสโมสรกลับไปสู่ยุทธจักร เอเอฟซี คัพ ในปีหน้า
 

       ความเคลื่อนไหวศึก มูลนิธิ ไทยคม เอฟเอ คัพ 2010 รอบชิงชนะเลิศ ซึ่งเป็นการโคจรมาพบกันระหว่าง "กิเลนผยอง" เมืองทองฯ ยูไนเต็ด แชมป์สปอนเซอร์ไทยพรีเมียร์ 2010 โดยโคจรมาพบกับ "ฉลามชล" ชลบุรี เอฟซี ซึ่งได้มีการจัดงานแถลงข่าว "มีต เดอะ เพรส" เพื่อให้สโมสรที่จะลงทำการแข่งขัน ได้ออกมาแถลงความพร้อมของทีมตัวเอง
         ล่าสุด เมื่อเวลา 13.00 น. ของวันที่ 25 พ.ย. ที่ผ่านมา ได้มีแขกผู้มีเกียรติ เดินทางมาร่วมงานแถลงข่าวครั้งนี้มากมาย นำโดย ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กรรมการเลขานุการ มูลนิธิ ไทยคม, "บิ๊กเปี๊ยก" องอาจ ก่อสินค้า เลขาฯ สมาคมฟุตบอลฯ และ สุนทร มีสุวรรณ เหรัญญิก สมาคมฟุตบอลฯ ที่ห้องประชุมสมาคมฟุตบอลฯ ภายในสนามศุภชลาศัย
         โดยฝ่ายจัดได้เชิญตัวแทนทีมที่จะลงดวลแข้งในวันอาทิตย์ที่ 28 พ.ย.นี้ ซึ่งฝั่งของ เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ประกอบไปด้วย "เสี่ยเป้" รณฤทธิ์ ซื่อวาจา ผจก.ทั่วไป, เรเน่ เดอซาเยียร์ กุนซือใหญ่ พร้อมด้วย ณัฐพร พันฤทธิ์ ปราการหลังจอมแกร่ง ขณะที่ ชลบุรี เอฟซี นำทัพโดย "เซอร์เด็จ" จเด็จ มีลาภ เฮดโค้ช, จีระศักดิ์ โจมทอง ผอ.ประชาสัมธ์พันธ์ของสโมสร และ เทิดศักดิ์ ใจมั่น กองกลางจอมเก๋า ท่ามกลางผู้สื่อข่าวทุกสำนัก ให้ความสนใจเดินทางมาทำข่าวครั้งนี้เป็นจำนวนมาก
         ซึ่ง ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กรรมการเลขานุการมูลนิธิไทยคม ได้ออกมากล่าวว่า ก่อนเกมนัดชิงในวันที่ 28 พ.ย.นี้ จะมีการเปิดคลินิกให้กับเยาวชนที่สนใจฟุตบอล ได้ร่วมสนุกกันตั้งแต่เวลาบ่ายโมงที่สนามศุภชลาศัย และจะนำเยาวชนที่เคยผ่านเข้าร่วมโครงการ และกิจกรรมต่างที่ทาง มูลนิธิไทยคม จัดขึ้นจำนวนทั้งสิ้น 400 คน มาเดินพาเหรดนำถ้วยชนะเลิศ มูลนิธิไทยคม เอฟเอ คัพ 2010 ลงสู่สนาม
         โดยเยาวชนทั้ง 400 คน มาจาก เยาวชนภาคเหนือที่ชนะเลิศจากการแข่งขัน ไทยคม จูเนียร์ ฟุตบอล เฟสติวัล 2010, เยาวชนที่เคยร่วมกิจกรรมเปิดประสบการณ์โลกเยาวชนไทยไป แมนเชสเตอร์ ซิตี้, เยาวชนจากโรงเรียนโสมาภานุสรณ์ที่มูลนิธิไทยคม สนับสนุนทุนการศึกษาทางด้านกีฬา และเยาวชนจากชุมชนเรวดี จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นกลุ่มที่ติดต่อขอร่วมอบรมกิจกรรมคลินิกฟุตบอลกับ มูลนิธิไทยคม
         นอกจากนี้ กรรมการเลขานุการมูลนิธิไทยคม เตรียมนำวงดุริยางค์มาอัญเชิญถ้วย เอฟเอคัพ ลงสู่สนาม ก่อนเริ่มการแข่งขันอีกด้วย

 

    

"บิ๊กเปี๊ยก" มั่นใจความปลอดภัยสุดปึ้ก

         ในส่วนความสงสัยของแฟนบอลหลายคน ที่อยากรับทราบถึงระบบการรักษาความปลอดภัยในเกมนี้ ว่าจะมีมาตรการความคุมได้ดีมากน้อยเพียงใด ซึ่ง "บิ๊กเปี๊ยก" องอาจ ก่อสินค้า เลขาฯสมาคมฟุตบอลฯ ออกมาพูดว่า ต้องขอแสดงความยินดีกับทั้ง 2 สโมสร ที่ผ่านเข้ามาเล่นในรอบชิงชนะเลิศนี้ได้ และถือเป็นรายการที่มีความหมายของทั้ง 2 ทีม เนื่องจากหาก เมืองทองฯ เป็นแชมป์จะสามารถทำสถิติ คว้าดับเบิลแชมป์ในปีนี้
         หาก ชลบุรี เอฟซี เป็นแชมป์ในปีนี้ พวกเขาจะได้รับสิทธิ์ไปเล่น เอเอฟซี คัพ ฤดูกาลหน้า นั่นหมายความว่าระบบรักษาความปลอดภัยในเกมนี้ ต้องมีมาตรการที่คุมเข้มอย่างชัดเจน เราได้แยกแฟนบอลของ เมืองทองฯ ไปอยู่อัฒจันทร์ทิศเหนือ ส่วนกองเชียร์ของ ชลบุรี จะไปอยู่ทางทิศใต้ ซึ่งจะต้องเข้าประตูคนละด้าน และมีเจ้าหน้าที่หน่วยปราบปราม 60 คน รวมไปถึง เจ้าหน้าที่ตำรวจ, สุนัขตำรวจ, หน่วยรักษาความปลอดภัย พร้อมกับ สห. ที่จะเข้ามาช่วยไปไม่ต่ำกว่า 400 คน
         เนื่องจากเราต้องการให้มาควบคุมแฟนบอลของทั้ง 2 ทีม ที่น่าจะมีไม่ต่ำกว่าทีมละ 9 พันคน รวมไปถึงก่อนเข้าสนามจะมีการตรวจค้นอาวุธอันตราย วัตถุต้องสงสัย ประกอบกับการตรวจแอลกอฮอร์ เพื่อจะไม่ให้เกิดความวุ่นวายอย่างแน่นอน

 

    

จัดมิตติ้ง แฟนบอลเสาร์นี้

         ด้านฝ่ายจัดการแข่งขันได้เตรียมจัดการมิตติ้งระหว่างแฟนบอลของทั้ง 2 ทีม เพื่อสร้างความสัมพันธ์กันก่อนที่เกมจะเริ่ม นอกจากนั้นยังเป็นการมารับทราบถึงข้อปฏิบัติในการเข้าชมเกมในวันที่ 28 พ.ย.นี้ รวมถึงบทลงโทษหากเกิดเหตุการณ์ไม่ดีในสนาม โดยกิจกรรมนี้จะจัดขึ้นวันที่ 27 พ.ย. ที่วังน้ำเขียว เวลา 13.00 น. ซึ่งจะมีทีมงานของหน่วยรักษาความปลอดภัย และฝ่ายจัดการแข่งขันที่จะไปคอยให้คำแนะนำในข้อควรปฏิบัติในเรื่องต่างๆ

 

    

เสี่ยเป้อยากให้แฟน "กิเลน" มาร่วมฉลองชัย

         "เสี่ยเป้" รณฤทธิ์ ซื่อวาจา ผจก.ทั่วไป "กิเลนผยอง" เมืองทองฯ ยูไนเต็ด แสดงทัศนะถึงเกมนัดชิงฯ นี้ว่า "ถือได้ว่าเป็นซีซั่นที่สุดยอดมากของ เมืองทองฯ ไม่ว่าจะเป็นการเข้ารอบ 4 ทีมสุดท้ายของศึก เอเอฟซีคัพ ตลอดจนการคว้าแชมป์สปอนเซอร์ไทยพรีเมียร์ลีก 2010 ซึ่งเป็นฤดูกาลที่ 2 ติดต่อกัน"
         "รวมทั้งเรายังมีเป้าหมายอีกหนึ่งสิ่ง นั่นคือการปิดท้ายฤดูกาลนี้ด้วยการคว้าถ้วย มูลนิธิ ไทยคม เอฟเอ คัพ2010 แต่คิดว่ามันคงไม่ง่ายหากมาเจอกับ ชลบุรี อย่างไรก็ตาม หากมองถึงสถิติในไทยพรีเมียร์ลีก เรายังไม่เคยแพ้ให้กับพวกเขา (ชลบุรี เอฟซี) เลย นั่นจึงเป็นความหวังว่าเราคงจะปิดฉากซีซั่นนี้ ด้วยการคว้าดับเบิลแชมป์" ผจก.ทั่วไป กล่าว

 

    

กุนซือเบลเยียมยักไหล่กรณี "ดั๊กโน่" ไม่ฟิต

         สำหรับกรณีที่ ดั๊กโน่ เซียก้า กองกลางคนสำคัญชาวไอวอรี่โคสต์ ที่เพิ่งหายเจ็บและกลับมาซ้อมได้เพียงไม่กี่วันนั้น ทาง เรเน่ เดอซาเยียร์ หัวหน้าใหญ่ของ "กิเลนผยอง" เปิดใจถึงสภาพความฟิตของนักเตะที่เป็นดาวยิงสูงสุดของสโมสร ด้วยการซัดไป 15 ประตู ในไทยพรีเมียร์ลีกฤดูกาลที่ผ่านมาว่า
         "ยอมรับตามตรงว่าซีซั่นที่ผ่านมาทีมของเรา มีลุ้นตำแหน่งแชมเปี้ยนถึง 4 รายการ และเล่นไปมากกว่า 60 เกม ทำให้นักเตะทั้งทีมมีความเหนื่อยล้ามากพอสมควร เนื่องจากพวกเขาใช้เวลาอยู่บนถนนมากกว่าพื้นสนาม แต่เรายังไม่อาจจะทราบแน่ชัดว่า ดั๊กโน่ จะพร้อมที่จะลงเล่นสำหรับเกมนัดนี้หรือไม่ เนื่องจากเขาเพิ่งหายเจ็บและกลับมาซ้อมเพียงไม่กี่วัน เท่านั้น อย่างไรก็ตามเราก็มีผู้เล่นที่พร้อมทดแทนได้เสมอ"

 

    

หยอด "ฉลามชล" คือหนึ่งในทีมที่ดีของไทย

         ไม่เพียงเท่านั้นกุนซือคนเก่งชาวเบลเยียม ยังได้พูดถึงคู่แข่งอย่าง ชลบุรี เอฟซี ว่า เป็น 1 ใน 2 ทีมร่วมกับ เมืองทองฯ ที่มีความแข็งแกร่งและดีที่สุดในประเทศไทย โดยส่วนตัวแล้วชอบที่จะเล่นกับ ชลบุรี เนื่องจากทั้ง 2 แมตช์ในซีซั่นที่ผ่านมา ทั้ง 2 สโมสร มีการขับเคี่ยวและชิงไหวชิงพริบกันอย่างสนุก ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นในความรู้สึกของตนเอง ตั้งแต่เข้ามาคุมทีมในเมืองไทย

 

    

กัปตัน "โอ๊ต" มั่นใจ "ชาย" แม้ไร้ "ตอง"

         ต่อข้อซักถามของผู้สื่อข่าว ที่ต้องการให้ ณัฐพร พันธุ์ฤทธิ์ ปราการหลังกัปตันทีมของ "กิเลนผยอง" แสดงทัศนะถึงความเหนื่อยล้าของตนเอง กับเซ็นเตอร์คู่บุญอย่าง ภานุพงศ์ วงศ์าา ซึ่งจะมีอาการเหนื่อยล้ามากน้อยเพียงใด หลังจากที่กลับมาจากเอเชียนเกมส์
         รวมทั้งการที่จะต้องใช้ ทนงศักดิ์ พันภิพัฒน์ ลงเฝ้าเสาแทน กวิน ธรรมสัจจานันท์ นายทวารมือ 1 ที่ได้รับบาดเจ็บกระดูกข้อมือแตก จนต้องพักนานถึง 3 เดือน ว่าจะเป็นอุปสรรคในการคว้าดับเบิลแชมป์ ของ เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ในวันอาทิตย์นี้หรือไม่
         ซึ่งกองหลังวัย 28 ปี กล่าวว่า "อาการเหนื่อยล้าของผมและใหม่ (ภานุพงศ์ วงศ์ษา) ไม่น่าที่จะส่งผลแต่อย่างใด เราทั้ง 2 คน สามารถลงเล่นได้ตลอดทั้ง 90 นาที ส่วนอาการบาดเจ็บของตอง (กวิน ธรรมสัจจานันท์) มันเป็นอุบัติเหตุที่เราไม่คาดฝัน แต่ผมยังเชื่อในฝีมือของพี่ชาย (ทนงศักดิ์ พันภิพัฒน์) แม้ว่าเขาจะไม่ได้ลงเล่นมากนักในซีซั่นนี้ ทว่าด้วยประสบการณ์ของเขา ทำให้พวกเรามีความมั่นใจว่าจะทำหน้าที่แทนได้อย่างแน่นอน"

 

    

"เซอร์เด็จ" ขอ "โทรฟี่" การันตีถ้วย "เอเอฟซี คัพ"

         ขณะที่ "เซอร์เด็จ" จเด็จ มีลาภ เฮดโค้ชของ "ฉลามชล" ชลบุรี เอฟซี ทีมอันดับที่ 3 ในศึกสปอนเซอร์ไทยพรีเมียร์ลีก 2010 พูดถึงเกมที่จะพบกับ เมืองทองฯ เพื่อชิงความเป็นหนึ่งในถ้วย มูลนิธิ ไทยคม เอฟเอ คัพ วันอาทิตย์นี้ว่า
         "เราพอรู้มาเหมือนกันว่า เมืองทองฯ จะต้องขาด คริสเตียน เคาคู ที่ติดโทษแบน แต่พวกเขาก็ยังสามารถมีนักเตะที่ลงทดแทนตำแหน่งกันได้ แม้ว่าปีนี้เราจะประมาทในไทยพรีเมียร์ลีก เนื่องจากใช้ผู้เล่นไทยมากกว่าตัวนอก และยังขาด สุรีย์ ที่ติดโทษแบนในเกมนี้ แต่ยังเชื่อว่าด้วยความเป็นทีมเวิร์กของสโมสรเรา จะต้องฟันฝ่าให้จบภายใน 90 นาที รวมทั้งแชมป์ต้องตกเป็นของเรา เพราะเราต้องการที่จะไปเล่นในถ้วย เอเอฟซี คัพ ในซีซั่นหน้าให้ได้"

 

    

"เดอะเทิด" ขอหยิบถ้วยไปโชว์ที่เมืองชลฯ

         ด้าน เทิดศักดิ์ ใจมั่น มิดฟิลด์ลายครามของ "ฉลามชล" ยังได้พูดข่มขวัญทีมตรงข้ามอย่าง "กิเลนผยอง" ก่อนที่ศึก มูลนิธิ ไทยคม เอฟเอคัพ 2010 จะระเบิดขึ้นว่า ศักยภาพโดยรวมของ เมืองทองฯ อาจจะดูเหนือกว่า ชลบุรี อยู่หลายเท่าตัว แต่พวกเรามีความเป็นทีมเวิร์กที่แน่นอนกว่าพวกเขามาก และมั่นใจว่าเกมนี้ เราจะเป็นแชมป์รายการนี้อย่างแน่นอน รวมทั้งในซีซั่นหน้า เราจะไปเล่น เอเอฟซี คัพ ได้อย่างไม่ต้องสงสัย

 

    

"บิ๊กจี" บอกมาตรการคุมแฟนบอล

         นอกจากนี้ จีรศักดิ์ โจมทอง ผอ.ประชาสัมพันธ์ของ ชลบุรี เอฟซี ได้พูดถึงแนวทางป้องกันของกองเชียร์ตัวเอง ที่หลายคนอยากจะทราบว่าจะมีมาตรการคุมแฟนบอล "ฉลามชล" ในวันอาทิตย์นี้อย่างไรบ้าง
         โดยที่กระบอกเสียงของ ชลบุรี เปิดเผยเรื่องนี้ว่า ตนมองว่ากองเชียร์ของ ชลบุรี มีการเจริญเติบโต โดยเรียนรู้วัฒนธรรมในการเชียร์บอลมาหลายรายการ ไม่ว่าจะเป็น ไทยพรีเมียร์ลีก, เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก และ เอเอฟซี คัพ
         ซึ่งในเกมวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้ ตนได้เรียกแกนนำเชียร์ของกลุ่มต่างๆ มาทำความเข้าใจกันเรียบร้อยแล้ว และไม่ต้องมีการควบคุมใดๆ เนื่องจากตนอยากจะให้พวกเขาให้ช่วยกันกันดูแล เพราะกองเชียร์ชลบุรี ไม่ใช่กองเชียร์จัดตั้ง ทุกคน มาเชียร์ด้วยใจ ถ้าหากผู้ตัดสินไม่ทำหน้าที่เอนเอียง ก็ไม่น่าจะมีปัญหาใดที่ตามมาหลังเกมนัดนี้จบลง