ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » ยูฟ่า /ยูโรป้าลีก/ยูโรคัพ » หงส์เฮแชมป์กลุ่ม!หลังบุกเจ๊าสเตอัวฯ1-1

หงส์เฮแชมป์กลุ่ม!หลังบุกเจ๊าสเตอัวฯ1-1

Posted 03/12/2010 by siamsport


 

    "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล บุกเสมอ สเตอัว บูคาเรสต์ ถึงแดนผีดิบ โรมาเนีย 1-1 โดยยิงขึ้นนำก่อนจาก มิลาน โยวาโนวิช ก่อนโดนตีเจ๊าจาก เอเดอร์ บอนฟิม แบ่งทีมละแต้ม ทำให้ ลิเวอร์พูล มี9แต้ม เฮเข้ารอบคว้าแชมป์กลุ่มแน่นอนแล้ว ในศึกยูโรปาลีก รอบแบ่งกลุ่ม เมื่อคืนวันพฤหัสบดี ที่ 2 ธันวาคม ที่ผ่านมา
 

ฟุตบอลยูโรปาลีก รอบแบ่งกลุ่ม

กลุ่มเค

สเตอัว บูคาเรสต์ (โรมาเนีย) 1-1 ลิเวอร์พูล (อังกฤษ)



สนาม : สตาดิโอนุล สเตอัว


      สเตอัว ต้องการเก็บแต้มเพื่อโอกาสในการเข้ารอบ เกมนี้จัดชุดใหญ่นำโดย บาเนล นิโคลิต้า กับ บ็อกดาน สแตนคู สองดาวเตะระดับทีมชาติโรมาเนีย

      ขณะที่ หงส์แดง ไม่เรียกดาวดังหลายคนอาทิ ตอร์เรส, เค้าท์, เมเรเลส, จอห์นสัน และ คอนเชสกี้ โดยเปิดโอกาสให้ดาวรุ่งอย่าง แดนนี่ วิลสัน, จอนโจ เชลวี่ย์ และ ดาเนี่ยล ปาเชโก้ ลงตัวจริง เช่นเดียวกับ โจ โคล ที่ฟิตกลับมาแล้ว


      เริ่มเกมขึ้นมา 16 นาที สเตอัว พลาดได้ประตูขึ้นนำไปก่อนอย่างน่าเสียดาย จากลูกเตะมุม บาเนล นิโคลิต้า เปิดไปให้ เอริค บิ๊กฟัลวี่ ขึ้นโหม่งไร้ตัวประกบแล้ว แต่โขกข้ามคานออกไป


      หลังจากนั้น เป็น ลิเวอร์พูล ที่ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 นาทีที่ 19 ไรอัน บาเบล เก็บบอลทางกราบขวา โยกเข้าเท้าซ้ายแล้วโยนไปให้ มิลาน โยวาโนวิช ยืนโหม่งไร้ตัวประกบเช่นกัน ขวิดบอลเสียบเสาสองเข้าไปไม่เหลือ


      เกมรุกของ หงส์แดง ดูมีสีสันขึ้นหลังได้ประตูขึ้นนำ นาทีที่ 26 เม็ดสองเกือบตามมา จากจังหวะต่อบอลหลายทอด เริ่มจาก บาเบล ไปที่ โคล ต่อด้วย โยวาโนวิช และจบที่ ดาเนี่ยล ปาเชโก้ ที่ซัดเฉี่ยวเสาออกไป


      ท้ายครึ่งแรก เจ้าถิ่นมีโอกาสตีเสมอถึงสองครั้ง นาทีที่ 43 โซติริออส คีร์เจียกอส โหม่งสกัดเข้าทาง ยาสมิน ลาตอฟเลวิชี่ ยิงสวนกลับไปไม่เข้ากรอบ


      โอกาสอีกครั้งในนาทีสุดท้ายครึ่งแรก บ็อกดาน สแตนคู เกี่ยวบอลลงในเขตโทษแต่ซัดเรียดหลุดเสาอีก จบครึ่งแรก ลิเวอร์พูล บุกมานำ 1-0


      ครึ่งหลัง สเตอัว มีโอกาสดีที่จะตีเสมออีกครั้งในนาทีที่ 50 คริสเตียน ทานาเซ่ เตะมุมเข้ามา บอลแฉลบจะเข้าศีรษะ เกราลโด้ อัลเวส อยู่แล้ว แต่ โฆเซ่ เรน่า ออกมาตัดบอลได้ก่อนหวุดหวิด


      ในที่สุด เจ้าถิ่นก็มาตีเสมอ 1-1 ในนาทีที่ 61 จนได้ จากลูกเปิดทางกราบขวา เอเดอร์ บอนฟิม โหม่งเช็ดต่ออีกทอด บอลตรงตัว โฆเซ่ เรน่า แต่พลาดท่าทำบอลหลุดลอดขาตัวเองข้ามเส้นเข้าไปแล้ว แม้ว่าจะคว้าบอลออกมาได้ก็ตาม


      ลิเวอร์พูล เกือบกลับขึ้นนำอีกครั้งในนาทีที่ 66 เจ้าพ่อลูกกลางอากาศ โซติริออส คีร์เจียกอส เติมขึ้นมาโหม่งเต็มๆ ไปชนคานออกหลัง


      เจ้าบ้านก็เกือบพลิกขึ้นนำในนาทีที่ 70 บาเนล นิโคลิต้า ซัดเรียดในเขตโทษผ่านมือ เรน่า ไปแล้ว แต่บอลเฉียดเสาหวุดหวิด


      ช่วงเวลาที่เหลือ ทั้งสองทีมไม่เน้นเกมรุกเท่าที่ควร จบเกม สเตอัว บูคาเรสต์ กับ ลิเวอร์พูล ก็ได้ผลเสมอ 1-1 สมใจ แบ่งกันไปทีมละ 1 คะแนน โดยลิเวอร์พูล มี9 คะแนนคว้าแชมป์กลุ่มแน่นอน เนื่องจากทีมอันดับสองอย่าง สเตอัว บูคาเรสต์ ซึ่งตอนนี้มี6คะแนน จะชนะนัดสุดท้าย และ ลิเวอร์พูลจะแพ้ ก็ตาม เนื่องจากว่า เฮดทูเฮด ทีมหงส์แดงดีกว่านั่นเอง

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
 สเตอัว บูคาเรสต์ :
ชิเปรียน ทาทารูซานู, เอเดอร์ บอนฟิม, ฟลอริน การ์ดอส, เกราลโด้ อัลเวส, ยาสมิน ลาตอฟเลวิชี่ (ยานอส เซเคลี่ น.80), เอริค บิ๊กฟัลวี่ (สตานิสลาฟ อังเจลอฟ น.46), ริคาร์โด้ โกเมส, บาเนล นิโคลิต้า, โรเมโอ ซูร์ดู, คริสเตียน ทานาเซ่, บ็อกดาน สแตนคู
 สำรอง : เซซาร์ ลุนกู, อิเฟียนยี่ เอเมการ่า, อ็อคตาเวียน อบรูดาน, โนวัค มาร์ติโนวิช, คอสมิน มาเต
 ลิเวอร์พูล : โฆเซ่ เรน่า, มาร์ติน เคลลี่, แดนนี่ วิลสัน, โซติริออส คีร์เจียกอส, ฟาบิโอ ออเรลิโอ, ดาเนี่ยล ปาเชโก้ (ลูคัส เลว่า น.89), จอนโจ เชลวี่ย์, คริสเตียน โพลเซ่น, โจ โคล (ดาวิด เอ็นก็อก น.75), มิลาน โยวาโนวิช (นาธาน เอ็คเคิลสตัน น.78), ไรอัน บาเบล
 สำรอง : แบร๊ด โจนส์, มาร์ติน สเคอร์เทล, แจ็ค โรบินสัน, โจนาธอน ฟลานาแกน
 ผู้ตัดสิน : บูเลนท์ ยิลดิริม (ตุรกี)

 

กลุ่มเจ
ดอร์ทมุนด์ (เยอรมนี) 3-0 คาร์ปาตี้ (ยูเครน)



สนาม : ซิกนัล อิดูน่า พาร์ค 


      เจอร์เก้น คล็อปป์ เทรนเนอร์ "เสือเหลือง" ดอร์ทมุนด์ ส่ง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ดาวยิงทีมชาติโปแลนด์ ลงมายืนเป็นหน้าเป้าแทนที่ ลูคัส บาร์ริออส ที่บาดเจ็บเข่า และใช้  ยาคุบ บลาสซีคอฟสกี้ ลงมายืนทำเกมริมเส้นด้านขวาแทนที่ มาริโอ เกิทเซ่ 


      ด้านทีมเยือนจากยูเครน คาร์ปาตี้ ของกุนซือ โอเล็ก โคโนนอฟ ที่ตกรอบไปเรียบร้อยแล้ว จัดทัพมาในระบบ 4-5-1 วาง เซอร์เก คุซเน็ตซอฟ ยืนเป็นหน้าเป้า


      เปิดฉากเขี่ยลูกเริ่มเกมมา 5นาที เป็น เสือเหลือง มาปลดล็อกทะยานขึ้นนำ 1- 0 อย่างรวดเร็ว นูริ ซาฮิน เปิดลูกเตะมุมเข้ามาให้ ชินจิ คากาวะ ดาวเตะทีมชาติญี่ปุ่นเทกขึ้นโขกบอลเสียบตาข่ายหมดจด


      รูปเกมยังเป็นของทางเจ้าบ้านครองบอลบุกใส่ตลอด และนาที 12 สกอร์บอร์ดของ เสือเหลือง น่าจะทำงานอีกครั้ง จากจังหวะลูกโต้กลับเร็วที่บอลถูกจ่ายมาถึง เลวานดอฟสกี้ ได้อัดบอลตามน้ำไปติดเซฟ วิตาลี รูเดนโก้ นายด่านอาคันตุกะ


      สิบนาทีต่อมา คากาวะ น่าจะบวกสกอร์ที่สองให้ตัวเองและเจ้าบ้านทิ้งห่าง จากจังหวะที่เจ้าตัวโชว์สเต็ปหลากบอลหลบแนวรับ คาร์ปาตี้ มาสองคน ก่อนกดบอลด้วยซ้ายเฉี่ยวเสาสองออกไปนิดเดียว


      นาที 34 ทีมเยือนมาได้เสียวจากลูกฟรีคิกที่ อิกอร์ คูด็อบยัค โยนบอลเข้ามาเต็มแรง ดีที่ว่า สเวน เบนเดอร์ ตัดสินใจเด็ดขาดโหม่งบอลเคลียร์ออกหลังไปได้ก่อน


      สามนาทีต่อมา เสือเหลือง มาได้เสียวอีกครั้ง จากการเตะบอลเปิดเกมขึ้นมาของ โรมัน ไวเดนเฟลเลอร์ มาถึง เควิน โกรสครอยท์ซ แปะบอลต่อมาให้ เลวานดอฟสกี้ อัดบอลหลุดกรอบออกไปไม่ถึงคืบ จบ 45 นาทีแรก ดอร์ทมุนด์ ออกนำ 1-0


      ช่วงพักครึ่งเทรนเนอร์ของสองฝั่งยังไม่มีการปรับแท็กติกเปลี่ยน ตัวผู้เล่น และเปิดฉากเริ่มเกมมาถึง 49 เจ้าบ้านก็มาได้สกอร์ที่สอง นูริ ซาฮิน โยนลูกฟรีคิกเข้ามาให้ มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์ สอดขึ้นมาโขกบอลไปแฉลบหัว คุซเน็ตซอฟ นิดนึงเข้าไปตุงตาข่าย ดอร์ทมุนด์ นำห่าง 2-0


      นาที 57 เสือเหลือง น่าจะฉีกห่างเป็นสาม จากโอกาสของ เลวานดอฟสกี้ ฉีกไปรับบอลริมเส้น และครอสเข้ากลางมาให้ คากาวะ วิ่งเข้ามาซัดบอลไปแฉลตัว วียาเชสลาฟ เชเชอร์ เหินข้ามคานออกไปนิดเดียว


      เกมเป็นของ เสือเหลือง ที่ครองบอลกระหน่ำบุกใส่ฝ่ายเดียว นาที 79 เลวานดอฟสกี้ ลากบอลขึ้นมาลองส่องบริเวณหัวกะโหลกไม่ผ่านมือ รูเดนโก้ ที่ล้มตัวตะครุบรับบอลไว้อยู่หมัด


      กระทั่งนาที 89 เลวานดอฟสกี้ ก็มามีชื่อเป็นผู้ทำประตูในนัดนี้สำเร็จ จากความผิดพลาดของนักเตะ คาร์ปาตี้ ที่จ่ายบอลพลาดมาเข้าทาง ซาฮิน แทงบอลต่อมาให้ เลวานดอฟสกี้ พลิกตัวไปล็อกบอลหลบกองหลังทีมเยือนสองคน ก่อนกดเรียดด้วยซ้ายเสียบเสาแรกเข้าประตูไปสุดเนียน ดอร์ทมุนด์ ฉีกห่าง 3-0 และจบเกมไปด้วยสกอร์นี้


      ส่งผลให้ ดอร์ทมุนด์ เก็บเพิ่มเป็น 8 คะแนน และต้องไปลุ้นคัดสินเข้ารอบในเกมนัดสุดท้ายที่บ้านของ เซบีย่า โดย เสือเหลือง ต้องบุกไปเอาชนะให้ได้สถานเดียว

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
 ดอร์ทมุนด์ :
โรมัน ไวเดนเฟลเลอร์ - ลูคัสซ์ พิซเซ็ค, เนเว่น ซูโบติช, มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์, มาร์เซล ชเมลเซอร์ - สเวน เบนเดอร์, นูริ ซาฮิน - ยาคุบ บลาสซีคอฟสกี้, ชินจิ คากาวะ เควิน โกรสครอยท์ซ - โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้
 สำรองไม่ได้ใช้ : มิทเชลล์ ลังเกรัค, เดเด้, อันโตนิโอ ดา ซิลวา, เฟลิเป้ ซานตาน่า, มาริโอ เกิทเซ่, ดาเมียง เลอ ตัลเล็ก, โมฮาเหม็ด ซีดาน
 คาร์ปาตี้ : วิตาลี รูเดนโก้ - อาร์เต็ม เฟเดตสกี้, วียาเชสลาฟ เชเชอร์, เนมานย่า ตูบิช,  ดานิโล่ อาเวลาร์ - แซมสัน กอดวิน - อิกอร์ คูด็อบยัค, อังเดร ทาชุค - เดนิส คอซฮานอฟ, มิคเฮย์โล่ โคโปโลเวตส์ - เซอร์เก คุซเน็ตซอฟ
 สำรองไม่ได้ใช้ : โรมัน มิซัค, ทาราส เปตริฟสกี้, อิวาน มิโลเซวิช, บรอยส์ บาราเนตส์, เกียร์โกรี่ บาราเนตส์, อเล็กซานเดอร์ กูรูลี, ยาโรสลาฟ มาร์ตินยุค
 ผู้ตัดสิน : เอริค บราอัมฮาร์ (เนเธอร์แลนด์)

 

ปารีส-แซงต์ แชร์กแมง (ฝรั่งเศส) 4-2 เซบีย่า (สเปน)



สนาม : ปาร์ก เดส์ แพร็งซ์ (ปารีส, ฝรั่งเศส)


      เกมคู่นี้ระหว่าง เปแอสเช เปิดบ้านปะทะ เซบีย่า ซึ่งหากทีมใดเป็นฝ่ายชนะจะทะยานผ่านเข้ารอบต่อไปทันที


      อองตวน กอมบูอาเร่ เทรนเนอร์ของ เปแอสเช ใช้ระบบ 4-2-3-1 ให้ สเตฟาน แซสเซญง,  มาติเยอ บ็อดแมร์ และ เนเน่ ทำเกมรุก หน้าเป้าใช้ กีโยม โออาโร่ ดาวยิงทีมชาติฝรั่งเศส คอยยืนล่าตาข่าย


      ฟากทีมเยือนจากแดนกระทิงดุ ปรับทัพมาใช้ในระบบ 4-4-1-1 ให้ เรนาโต้ ดาวเตะบราซิเลียน ยืนเป็นหน้าต่ำ และวาง เฟรเดริก กานูเต้ ยืนเป็นหน้าเป้า


      เปิดฉากมาเป็นเจ้าบ้านทีมดังแดนน้ำหอมเดินหน้าบุกใส่อาคันตุกะ ทันที และนาที 17 ก็มาขยับสกอร์บอร์ดขึ้นนำ 1-0 สำเร็จ จากลูกเตะมุมที่ เฌเรมี่ เกลม็องต์ โดยนเข้ามาให้ ซูมาน่า กามาร่า โขกชงต่อมาให้ บ็อดแมร์ อัดบอลเต็มข้อเข้าไปซุกก้นตาข่าย


      เท่านั้นไม่พอ 2 นาทีต่อมาสกอร์บอร์ดของ เปแอสเช ก็ขยับเป็น 2-0 เนเน่ เปิดลูกเตะมุมมาให้ โออาโร่ สอดเข้ายิงบอลผ่านมือ อันเดรส ปาล็อป นายด่านจอมเก๋าทีมเยือนตุงตาข่าย


      ทว่าทีมเยือนไม่ท้อพยายามครองบอลเพื่อทำประตูไล่ตีคืนมาให้ได้โดย เร็ว นาที 32 ก็มาทำสำเร็จ ดีเอโก้ กาเปล โชว์พลิ้วลากบอลตะลุยขึ้นมาครอสบอลให้ เฟเดริก กานูเต้ เทกขึ้นโขกบอลเสียบมุมงามหยด เซบีย่า ไล่ขึ้นมาเป็น 1-2


      และอีกแค่ 4 นาทีต่อมา เซบีย่า ก็มาตามตีเจ๊าเป็น 2-2 สำเร็จ คราวนี้เป็น ดีเอโก้ เปร็อตติ ปีกอาร์เจนไตน์โยนบอลมาถูก มาร์กอส เซียร่า โหม่งบอลออกมาเข้าทาง กานูเต้ ได้ซ้ำบอลจ่อๆเข้าไปตุงตาข่าย


      เกมเข้มข้นสุดมันส์ กระทั่งนาที 45 เจ้าบ้านก็มาออกนำอีกคำรบ จากความสามารถเฉพาะตัวล้วนๆของ เนเน่ ลากบอลขึ้นมาโยกหลอกแนวรับทีมเยือน ก่อนตัดสินใจปั่นบอลพุ่งเข้าเสียบสามเหลี่ยมเข้าประตูไปสุดงาม เปแอสเช ออกนำเป็น 3-2 และจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้


      เขี่ยลูกเริ่มครึ่งหลังมา 2 นาที เจ้าบ้าน เปแอสเช มาได้สกอร์ทิ้งห่างเป็น 4-2 จากโอกาสที่ โออาโร่ รับบอลมาจากการจ่ายของ เฌเรมี่ เกลม็องต์ ก่อนหลุดเข้าไปกดบอลเรียดจากระยะ 18 หลาพุ่งเสียบเสาสองเข้าไปหมดจด


      สองนาทีต่อมา กอมบูอาเร่ เทรนเนอร์ของเจ้าบ้านถูก ลูก้า บานติ ตัดสินชาวอิตาลียนในเกมนี้ ชูใบแดงไล่ไปจากข้างสนาม


      เกมผ่านหนึ่งชั่วโมงมา 3 นาที เปแอสเช เกือบได้ลูกที่ห้า เมื่อ กามาร่า ได้ซัดบอลเก็บตกระยะ 17 หลา พุ่งไปจูบเสาเข้าเต็มๆหลุดออกหลังไป


      หลังจากนั้นช่วงเวลาที่เหลือเป็นเจ้าบ้านที่ครองบอลประวิงฆ่าเวลา ให้หมดไป ขณะที่ เซบีย่า ก็ไม่ฮึดสู้ไล่บอล ส่งผลให้จบเกม เปแอสเช เปิดบ้านไล่ต้อน เซบีย่า 4-2 ผ่านเข้ารอบไปเป็นทีมแรกของ กลุ่มเจ  ด้าน เซบีย่า ต้องไปลุ้นตัดสินเข้ารอบในเกมสุดท้ายกับ ดอร์ทมุนด์ ในรังซานเชซ ปิซฆวน ของตัวเอง โดยขอแค่ไม่แพ้คาบ้านก็จะผ่านเข้ารอบต่อไปทันที 

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
 ปารีส-แซงต์ แชร์กแมง :
อาปูล่า เอแดล - มาร์กอส เซียร่า, ซูมาน่า กามาร่า, มามาดู ซาโก้, เซียก้า เตียเน่ - เกลม็องต์ ฌองโตม, เฌเรมี่ เกลม็องต์, สเตฟาน แซสเซญง,  มาติเยอ บ็อดแมร์, เนเน่ - กีโยม โออาโร่
 สำรองไม่ได้ใช้ : เกรกอรี่ กูเป้ต์, ซิลแว็ง อาร์ม็องต์, คริสตอฟ ฌัลเล่ต์, แซมมี่ ตราโอเร่, ไทรปี้ มาก็องด้า, ลูโดวิช ชูลี่, เปกีย์ ลูยินดูล่า
 เซบีย่า : อันเดรส ปาล็อป - มูอามาดู ดาโบ, มาร์ติน กาเซเรส, ฌูเลียง เอสกูเด้,  เฟร์นานโด นาบาร์โร่ - ดีเอโก้ กาเปล, ดีดิเย่ร์ โซโกร่า, เอ็นดรี้ โรมาริช, ดีเอโก้ เปร็อตติ - เรนาโต้ - เฟรเดริก กานูเต้
 สำรองไม่ได้ใช้ : ดานี่ ฆิมิเนซ, อเล็กซิส, อเลสซานโดร อัลฟาโร่, โฆเซ่ การ์ลอส, อับดูลาย กงโก้, ลูก้า ชิการินี่, อัลบาโร่ เนเกรโด้
 ผู้ตัดสิน : ลูก้า บานติ (อิตาลี)

สรุปผลยูโรปาลีก รอบแบ่งกลุ่ม
กลุ่มดี

บียาร์เรอัล (สเปน) ชนะ ดินาโม ซาเกร็บ (โครเอเชีย)  3-0
พีเอโอเค (กรีซ) เสมอ คลับ บรูช (เบลเยียม)  1-1
กลุ่มอี
เชริฟฟ์ ติราสโพล (มอลโดว่า) เสมอ เอแซด อัล์คมาร์ (เนเธอร์แลนด์)  1-1
เบท บอริซอฟ (เบลารุส) แพ้ ดินาโม เคียฟ (ยูเครน)   1-4
กลุ่มเอฟ
ปาแลร์โม่ (อิตาลี) เสมอ สปาร์ต้า ปราก (สาธารณรัฐเช็ก)    2-2
ซีเอสเคเอ มอสโก (รัสเซีย) ชนะ โลซาน สปอร์ตส (สวิตเซอร์แลนด์)   5-1
กลุ่มเจ
ดอร์ทมุนด์ (เยอรมัน) ชนะ คาร์ปาตี้ (ยูเครน)    3-0
ปารีส แซงต์ แชร์กแมง (ฝรั่งเศส) ชนะ เซบีย่า (สเปน)    4-2
กลุ่มเค
อูเทร็คช์ (เนเธอร์แลนด์) เสมอ นาโปลี (อิตาลี)   3-3
สเตอัว บูคาเรสต์ (โรมาเนีย) เสมอ ลิเวอร์พูล (อังกฤษ)   1-1
กลุ่มแอล
ซีเอสเคเอ โซเฟีย (บัลแกเรีย) แพ้ เบซิคตัส (ตุรกี)  1-2
ราปิด เวียนนา (ออสเตรีย) แพ้ เอฟซี ปอร์โต้ (โปรตุกส) 1-3

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
  • หงส์สะดุ้ง!เสือใต้เล็งเคาท์เสริมหอกปีใหม่
    หลุยส์ ฟาน กัล กุนซือ ของ "เสือใต้" ทีมบาเยิร์น มิวนิค เล็งคว้าตัว เดิร์ก เคาท์ หอกของ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล มาเสริมทัพ มาเสริมแข้งในช่วงปีใหม่ ตามการรายงานข่าวของ"เดอะ 4-4-2 "เว็บไซต์เมืองเบียร์
  • ยูโรป้า:หงส์ส่งชุดเล็กลงบู๊สเตอัว,เซบีย่ายวบบุกเปแอสเช่
    ยูโรป้า ลีก รอบแบ่งกลุ่ม นัดที่ 5 วันพฤหัสบดีที่ 2 ธันวาคมมีเตะ 12 คู่ดังนี้!กลุ่มดี บียาร์รีล vs ซาเกร็บ,พีเอโอเค vs คลับบรูช,กลุ่มอี เชริฟฟ์ vs อัล์คมาร์,บอริซอฟ vs ดินาโม เคียฟ กลุ่มเอฟ ปาแลร์โม่ vs สปาร์ต้า,ซีเอสเคเอ vs โลซาน กลุ่มเจ ดอร์ทมุนด์ vs คาร์ปาตี้,เปแอสเช่ vs เซบีย่า กลุ่มเค อูเทร็คช์ vs นาโปลี,สเตอัว vs ลิเวอร์พูล และกลุ่มแอล โซเฟีย vs เบซิคตัส,ราปิด vs ปอร์โต้
  • คาร์ร่าหนุนป๋ารอยให้โอกาสดาวรุ่งโชว์ฝีเท้า
    เจมี่ คาร์ราเกอร์ กองหลังมากประสบการณ์ของ ลิเวอร์พูล หนุนกุนซือ รอย ฮ็อดจ์สัน ที่กล้าใช้ผู้เล่นดาวรุ่งลงเล่นในแมตช์ใหญ่ ในศึกยูโรป้า ลีก มั่นใจ สิ่งนี้จะช่วยสร้างให้นักเตะมีพัฒนาการมากยิ่งขึ้น ยกย่อง "ป๋ารอย" ที่กล้าคิดกล้าทำ พร้อมรับ อยากเล่นรอบชิงฯ เอฟเอ คัพ กับ "หงส์แดง" ที่สนาม เวมบลีย์ ก่อนแขวนเกือก
  • หงส์เฮพี่เจิดมีลุ้นคัมแบ็กอาทิตย์หน้า
    ทีม “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ได้ข่าวดีเมื่อ สตีเว่น เจอร์ราร์ด กัปตันทีมคนสำคัญหายเจ็บและใกล้จะกลับมาลงฝึกซ้่อมได้ในสัปดาห์หน้าแล้ว

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »